กลุ่มปกป้องกาแฟเอสเปรสโซอิตาเลียนแบบดั้งเดิมประกาศรณรงค์ให้ขึ้นทะเบียนเอสเปรสโซ กาแฟอิตาลีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก
คนอิตาเลียนชอบดื่มกาแฟ จากข้อมูลของคณะกรรมการกาแฟของอิตาลีแสดงให้เห็นว่า ในอิตาลีมีโรงคั่วกาแฟมากกว่า 800 แห่ง และมีร้านกาแฟที่ชงเอสเปรสโซมากกว่า 150,000 ร้าน เฉพาะปี 2018 คนอิตาเลียนดื่มกาแฟ 5.9 กิโลต่อคนต่อปี มาเรียน เชียรา กัดดา ส.ส.พรรคอิตาเลีย วิวา แถลงต่อสื่อมวลชนในงานเปิดตัวแคมเปญจัดขึ้นโดยสภาผู้แทนราษฎร มีส.ส.ราว 4-5 คนจากพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านเข้าร่วม
ว่า เราต่างรู้ดีว่ากาแฟสำคัญกับคนอิตาเลียนและผู้คนทั่วโลกมากขนาดไหน แอนเดรีย ปาสคาล หนึ่งในตัวแทนของกลุ่มกล่าวว่า “เราเป็นตัวแทนของทั้งห่วงโซ่อุปทาน จากบริษัทคั่วเมล็ดกาแฟไปจนถึงผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟ และการได้รับยกย่องจากยูเนสโกจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน”
พวกเขาต้องการให้เอสเปรสโซ กาแฟดำที่เสิร์ฟในถ้วยเซรามิกสีขาวราคาประมาณ 1 ยูโรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ที่เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม ประเพณี ความรู้จากทั่วโลก ตัวอย่างเช่น การทำลูกไม้ของสโลเวเนีย การทำเบียร์เบลเยียม หรือหุ่นกระบอกนิ้วมือของอียิปต์
จิออร์จิโอ คาบัลลินี ดิ ซาสโซเฟอราโต ผู้ก่อตั้งและประธานของกลุ่มบอกว่า เอสเปรสโซไม่เหมือนกับกาแฟอื่นๆ ทางกลุ่มกำหนดกรอบของเอสเปรสโซไว้ว่า เป็นกาแฟแบบเดียวในโลกที่มีครีม ซึ่งยังคงรูปร่างคงที่อย่างน้อย 120 วินาที สม่ำเสมอ สีน้ำตาลบางๆ โดยเอสเปรสโซแบบดั้งเดิมต้องชงโดยเครื่องชงที่บาริสตาได้รับการฝึกฝนโดยเฉพาะ กาแฟบดใหม่และใช้เวลาชง 20-27 วินาที นอกจากนี้ยังต้องเสิร์ฟในถ้วยเซรามิกที่มีปริมาณกาแฟระหว่าง 13-26 กรัมในอุณหภูมิ 90-96 องศาเซลเซียส ในการขึ้นทะเบียนเอสเปรสโซ ไม่นับรวมถึงเครื่องชงแบบโมกา พ็อตหรือกาแฟบรรจุแคปซูล
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่เมืองเนเปิลส์ก็เตรียมรณรงค์ให้บรรจุกาแฟแบบเนเปิล เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกเช่นกัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พิซซ่านาโปลิตันของอิตาลีก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ยูเนสโกระบุว่า ศิลปะของพิซซ่านาโปลีเป็นการปรุงอาหารที่มี 4 ขั้นตอนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การเตรียมแป้ง การอบในเตาฟืน ไปจนถึงการแผ่แป้งของคนทำ
ตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แล้วมากกว่า 500 รายการ อิตาลีมีมรดกโลก 55 รายการตั้งแต่เมืองเวนิซ พื้นที่ทางโบราณคดีปอมเปอี ไปจนถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงโรม เนเปิล และซีเอนา
คาดว่าคณะกรรมการของยูเนสโกจะพิจารณาและประกาศผลได้ในปีหน้า
ที่มา:
https://www.nytimes.com/2019/12/03/world/europe/italy-coffee-world-heritage.html
ภาพ: REUTERS/Max Rossi
Tags: ยูเนสโก, อิตาลี, เอสเพรสโซ