“เราตั้งชื่อมันว่า Sundays เพราะเราอยากให้ทุกวันเป็นวันอาทิตย์”

ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความเร่งรีบ วุ่นวาย จะดีแค่ไหนถ้ามีอีกโลกหนึ่งให้เข้าไปหลบความอลหม่านนั้น แล้วเปลี่ยนทุกวันให้เป็นวันอาทิตย์เพียงแค่เปิดประตู

ร้านสีสันสะดุดตากับประตูบานใหญ่ ที่เมื่อเปิดเข้าไปศิลปะก็พุ่งเข้าสู่สายตาจนไม่รู้จะมองไปทางไหนก่อนดี และเมื่อมองไปทางขึ้นชั้นลอยก็พบภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่กำลังฉายจากโปรเจคเตอร์ ทุกคนในร้านดูมีความสุขราวกับเป็นวันหยุด (ทั้งที่ตอนนั้นเป็นวันธรรมดา) ต้องยอมรับเลยว่าไม่เคยเห็นร้านไหนที่บรรจุความสนุกสนานจากทั้งศิลปะและความรู้สึกไว้ได้มากขนาดนี้ ยิ่งพอได้เจอเจ้าของร้านผู้นิยามตัวเองว่าเป็นคนที่มีความบ้าบอ ยิ่งทำให้เข้าใจถึงเหตุผลที่ร้านมีบรรยากาศของวันอาทิตย์อยู่เสมอ

Sundays คือร้านอาหารที่เพิ่งย้ายจากย่านพระรามเก้ามาอยู่ที่ทองหล่อ 13 โดยยังคงเอกลักษณ์เดิมของร้านเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน และวันนี้เราก็ได้พูดคุยกับ 3 ผู้ก่อตั้งของร้าน ได้แก่ ชลดี แจ่มปฐม, เมขลา เมฆวัฒนา และ ธีรยุทธ สินเจริญ

“จุดเริ่มต้นมันเหมือนเป็นความบ้าบอของคน 3 คน ที่อยากจะสร้างอะไรแบบที่เราชอบ นั่นคือร้านอาหารที่เป็นกันเอง ตอนเราเรียนดีไซน์อยู่ที่อังกฤษ เราได้ไปร้านอาหารหรือร้านกาแฟที่เป็นฟีลลิ่งแบบนั้น เหมือนแบบ ร้านเปิดเพลงสนุกๆ น่ารักๆ เป็นบรรยากาศสบายๆ ที่เจ้าของเขาดูแลเอง เขาจะมาถามเราว่าเป็นยังไงบ้าง คุยกับเราเหมือนเป็นเพื่อนกัน แลกเปลี่ยนกัน สื่อสารกัน ซึ่งมันทำให้เราอบอุ่นแล้วก็สนุกไปกับร้าน

ขณะที่เท่าที่เจอในเมืองไทยจะเป็นร้านอาหารที่จริงจังหน่อย จะมีการนอบน้อมต่อลูกค้าเยอะประมาณหนึ่ง มีระยะห่างต่อกัน เราก็เลยอยากให้คนที่มาที่ร้านเราได้รู้สึกผูกพันกับร้านๆ หนึ่ง ทั้งด้วยอาหาร ทั้งบรรยากาศ ทั้งกับเราด้วย บริการด้วย” เมขลาบอกกับเรา

ทั้งนี้ผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน ล้วนมีภูมิหลังทางศิลปะทั้งสิ้น โดยชลดีเป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ เมขลาเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ และธีรยุทธวาดรูปเชิงไฟน์อาร์ต ทำให้ทุกๆ อย่างในร้านล้วนตั้งต้นมาจากสุนทรียะทางศิลปะทิ้งสิ้น Sundays จึงกลายเป็นร้านอาหารที่ประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยากหาร้านบรรยากาศเหมาะๆ สำหรับตัวเอง

“จริงๆ เราขายบรรยากาศ ขายความสุข ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ของตกแต่งอะไรพวกนี้ มันจะช่วยสร้างบรรยากาศ มันเต็มไปด้วยสิ่งที่เราชอบ เพลงแบบนี้ที่เราฟัง อาหารรสชาติแบบนี้ที่เราชอบ การตกแต่งอาหารหน้าตาแบบนี้ ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ไม่ต้องสวยจัด หรือไม่ได้มีการตกแต่งเลย ความพอดิบพอดีของเรา”  ธีรยุทธอธิบาย

หากมาถึง Sundays แล้ว สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ  ใครเห็นก็ต้องหันมอง คือ การตกแต่งร้าน โดยว่าการตกแต่งร้านไม่ได้มีการออกแบบหรือการวางแผนแต่อย่างใด แต่ถือเป็นอิสระของเจ้าของร้านทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์โดยส่วนใหญ่รับแรงบันดาลใจจากศิลปะสไตล์ดาด้า (Dadaism) ซึ่งถูกอกถูกใจลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสายถ่ายรูปทั้งหลาย

“ด้วยความที่มันเป็นแบบสไตล์ดาด้า (Dadaism) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวทางศิลปะ (Art movement) ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความสวยงามตรงหน้าแล้ว… มันเหมือนศิลปะกลายเป็นสำคัญที่ความรู้สึกข้างในมากกว่า ความรู้สึกตอนวาด ความรู้สึกตอนทำอะไรอย่างเนี่ย การตกแต่งร้านกับอาหารมันก็จะเป็นสไตล์นั้นเลยค่ะ คือ เป็นความรู้สึก ณ ตอนนั้นที่ทำ ที่ทำให้มันออกมาเป็นแบบนี้…ถ้าให้มาตกแต่งใหม่ตอนนี้ก็ไม่เป็นแบบนี้แล้ว เหมือนแบบฟีลลิ่งในช่วงเวลานั้นอย่างเนี่ย” เมขลากล่าวพร้อมชี้ชวนให้ดูรอบๆ ร้าน

เราเองสะดุดตากับภาพวาดศิลปะใส่กรอบบนผนังด้านหนึ่งของร้าน จึงถามไถ่ด้วยความใคร่รู้ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าภาพวาดเหล่านั้นไม่ได้โชว์เพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามีลูกค้าสนใจก็จะขายให้ ไม่จำกัดเฉพาะภาพวาดเหล่านั้นแต่ทุกอย่างในร้าน ‘ขาย’ ทั้งหมด

“ขายด้วย ขายหมดทั้งร้านเลยครับ เราคุยกันอย่างนี้ เราไม่ได้ตั้งราคาหรอก ที่ร้านเก่าก็เป็นอย่างนี้ ลูกค้าชอบ ขายไหม? ได้ครับ… อย่างของตกแต่งเนี่ยลูกค้าก็ถาม พี่อันนี้ขายไหม อันนู้นขายไหม ของเล่นของบนในโต๊ะ อันนี้ขายไหม ขายหมดแหละครับ (ขำ)” ธีรยุทธกล่าวอย่างติดตลก

มาร้านอาหารทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะถามถึงเมนูอาหารของทางร้าน ซึ่งแต่ละเมนูของทางร้านมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่หวงเครื่อง อีกทั้งยังมีความหลากหลายทั้งหน้าตาและรสชาติอาหารด้วย เนื่องจากทางร้านคิดและพัฒนาสูตรจากการลองผิดลองถูกเอง โดยยึดหลักที่ว่า เราอยากทานอาหารเช่นไร ก็ต้องทำให้ลูกค้าทานเช่นนั้น โดยทุกเมนูที่รังสรรค์ออกมาเกิดขึ้นจากความตั้งใจจริงของทางร้าน เมนูที่ขึ้นชื่อและลูกค้าส่วนใหญ่สั่งก็คือ แองเจิ้ลแฮร์น้ำพริกนรกไข่กุ้งที่ให้ไข่กุ้งล้นมากๆ โดยเราขอยืนยันอีกเสียงว่าอาหารจานนี้รสชาติถูกปากคนไทยแน่นอน (แต่รสชาติค่อนข้างเผ็ด ไม่เหมาะสำหรับผู้ไม่ชอบทานรสเผ็ด)

“เราคิดเองหมดเลย สูตรก็ตามใจตัวเองอย่างเนี่ยค่ะ เหมือนตามคอนเซ็ปต์ สมมติพาสต้าน้ำพริกนรกไข่กุ้งอย่างเนี่ย ก็อยากใส่ไข่กุ้งเยอะๆ อะ ก็เลยใส่ไข่กุ้งเยอะๆ ให้มันล้นๆ ให้มันกินแล้วแบบประทับใจไปเลย แล้วก็ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของอาหาร นอกจากให้เต็มที่ แล้วก็ตามใจตัวเองแล้ว มันจะเหมือนถูกคิดมาจากดีไซน์ อาร์ต มันมีกระบวนการของศิลปะ ในความคิดเรา ในการรีเสิช ในการลองทำ แล้วมันออกมาเป็น สำหรับเรามันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง” เมขลากล่าว

“เราไม่รู้หรอกว่าเราทำได้รึเปล่า แต่เรากระโดดลงไปแล้ว ทำขนมเหรอ ได้ ได้ก็ต้องทำ เราถึงรู้ว่าจริงๆ แล้วถ้าเราจะทำอะไรเราก็ต้องทำได้ ถ้าเราทำมันจริงๆ ทำแบบบ้าคลั่งนะ เพราะเราสามคนเนี่ยเหมือนคนบ้าอย่างที่บอก ศักยภาพของมนุษย์มันอยู่ที่ใจเท่านั้นเอง เมื่อใจมันจะเอานะ มันจะลุย วิธีที่เราทำอาหารให้ลูกค้าทานก็เหมือนกับเราทานเอง แล้วก็เป็นสูตรจากความทรงจำของเรานั่นแหละ”  ธีรยุทธกล่าวเสริม

Sundays: ทุกจานมีเรื่องเล่า ทุกเมนูมีเรื่องราว

อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าทุกอย่างในร้านตั้งต้นมาจากกระบวนการคิดทางศิลปะ เมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มในร้านก็เช่นกัน Sundays สร้างสรรค์เรื่องราวเพื่อเล่าขานก่อนที่จะรังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษ

“โยโกะ ที (Yogo’s tea) จริงๆ ตอนแรกวาเลนไทน์ปีก่อนนั้นมันจะมีโยโกะ ที กับจอห์นเค้ก เอาไว้กินด้วยกัน ของจอห์น เลนนอนก็จะเป็นเค้กแบบตามนิสัยที่เขามีในชีวิตรัก อย่างจอห์น เลนนอนเขาก็จะดาร์กๆ หน่อย ก็จะเป็นเค้กสีดำแล้วก็มีเชอร์รี่ รู้สึกน่าค้นหา ส่วนโยโกะก็จะเป็นชาที่ไม่หวานมากเพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิงหวานๆ แต่ว่าก็มีมุมเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ เช่นจะมีแครนเบอร์รี่ (Cranberry) ในน้ำแข็ง สื่อว่าในความเป็นผู้หญิงของเขามันมีอีกมุมที่น่าสนใจในนั้น” เมขลาเล่า

ขณะที่ธีรยุทรขอเล่าถึงเมนูสปาเก็ตตี้ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

“ที่บ้านอะครับทานปลาหมึกผัดไข่เค็มที่ร้านๆ หนึ่งชื่อทะเลซีฟู้ด ที่บ้านของผมมีร้านที่เรากินมาก่อนที่มันจะถูกแพร่หลายในกรุงเทพฯอะ เรากินแบบเนี่ย แบบที่มันเป็นปลาหมึกผัดคลุกกับไข่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีน้ำพริกเผาเป็นแฉะๆ ไม่ได้ใส่หอมหัวใหญ่แล้วก็ผักอะไรมากมาย มีเฉพาะต้นหอมกับพริก แล้วก็ปลาหมึก ไปทีไรก็จะกินอยู่ร้านเนี่ย ทุกวันนี้ไปพัทยาก็ต้องไปทาน พอเราจะเอาเมนูนี้กลับมาทำ ก็คือตอนนี้ไปที่ไหนถ้าเกิดว่ามีหมึกผัดไข่เค็มก็คือสั่ง สั่งมาแล้วไม่ใช่ว่ะ ไม่ใช่ๆ ที่บ้านจะรู้เลย ว้าไม่ใช่ อย่างนี้อีกแล้ว จนเราจะทำเมนูนี้ เราก็หาสูตร มันไม่มีอะ จะไปขอเขา เขาก็ไม่ให้ มันก็ต้องคิดค้นเอง ค่อยๆ ทำ ทำอยู่จนพักใหญ่ๆ ก็ได้สูตรที่น่าจะดูเหมือนและใกล้เคียงความอร่อยที่เคยกินมากที่สุด ก็เลยเอามาคลุกกับเส้นพาสต้า มันก็จะเคลือบๆ กับพาสต้า หวานเค็มนำ เข้ากับพาสต้า เป็นอิตาเลียนที่เป็นรสไทยแล้วก็ได้กินปลาหมึกกรุบๆ ปกติจะต้องเป็นปลาหมึกสาย แต่ปลาหมึกสายหายากมาก มันแล้วแต่ฤดู ไม่งั้นจะสวยมากเลยนะปลาหมึกสายตัวใหญ่ๆ”  

“เราอยากทำธุรกิจครับ เราอยากทำให้มันเจริญเติบโต อันนี้ก็เป็นการตั้งใจ  แล้วก็พยายามมอง แต่วันนี้ก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ก็โอเคล่ะ ทำให้ดีที่สุด ผลตอบรับมันจะมาเองน่ะ เนอะมันจะมาเอง ลุย ปะ ไปล้างถังขยะกันดีกว่าเว้ย (ขำ)”  ธีรยุทธบอกอย่างยิ้มแย้ม

“ไม่ต้องนับแคลอรี่ นั่งชิล นั่งนานได้ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะว่าหรืออะไร อยากนั่งนั่งไปเลย กฎเกณฑ์ของการทำงานประจำวันมันเยอะมากแล้ว มาที่นี่ต้องไม่มีกฎเกณฑ์ให้ตัวเอง”  เมขลาบอกกับเราในตอนท้าย

Fact Box

ร้าน Sundays ตั้งอยู่ที่ 44/10 สุขุมวิท 55 ทองหล่อ 13 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/sundays.bkk/

Tags: , , ,