หลังจากที่คณะกรรมธิการยุโรปได้เสนอมติพร้อมกับหยิบยกรายงานว่าด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ในรัฐสภายุโรป มาประกอบการพิจารณาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2560

ทางเว็บไซต์รัฐสภายุโรป www.europarl.europa.eu รายงานความคืบหน้าว่า สมาชิกรัฐสภายุโรปได้พิจารณาร่างกฎหมายฉบับแรกว่าด้วยการควบคุมและจำแนกประเภทของหุ่นยนต์แล้ว ผลปรากฏว่ามีผู้ออกเสียงเห็นด้วยกับรายงานประกอบการเสนอร่างกฎหมายนี้ 17 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง

สำนักข่าวสปุตนิก (มอสโก) ระบุว่ารัฐสภายุโรปจะจัดให้มีการลงมติรับรองร่างกฎหมายในเดือนกุมภาพันธ์ หากคณะกรรมาธิการยุโรปดำเนินตามกระบวนการนิติบัญญัติ โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภายุโรปด้วยหลักคะแนนเสียงข้างมากอย่างสมบูรณ์ จากนั้นรัฐบาลของประเทศสมาชิกจึงจะนำร่างกฎหมายนี้ไปพิจารณาและเสนอแนวทางแก้ไข ก่อนจะออกกฎหมายบังคับใช้ทั่วสหภาพยุโรป

ความก้าวหน้าทางหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในวันนี้ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่ยากจะคาดเดา และได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ผ่านระบบสมาร์ตโฮม รถยนต์ไร้คนขับ ร้านค้าอัตโนมัติ และผู้ช่วยอัจฉริยะบนสมาร์ตโฟน ทางคณะกรรมาธิการยุโรปจึงเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภายุโรป เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการควบคุมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์โดยเร่งด่วน

Photo: www.europarl.europa.eu

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ AI มีสถานะเป็น ‘บุคคลอิเล็กทรอนิกส์’

ทางสมาชิกรัฐสภายุโรปได้พิจารณาหลายประเด็นสำคัญในร่างรายงานของ เมดี เดลโว (Mady Delvaux) โดยเฉพาะจริยธรรมเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ซึ่งในรายงานได้ระบุถึงมาตรการควบคุมสำหรับนักออกแบบ AI เพื่อป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์ทำอันตรายมนุษย์ ความปลอดภัย การว่าจ้างแรงงาน ตลอดจนถึงเรื่องการประกันความรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ไร้คนขับ

และมีมติให้คณะกรรมาธิการพิจารณาการก่อตั้งหน่วยงานในยุโรปขึ้นมา เพื่อดูแลควบคุมทางด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรม เทคโนโลยี และนิติศาสตร์ เพื่อรับรองความมั่นคงและปลอดภัยตามที่เดลโวได้เสนอแนะไว้ในรายงานว่า หุ่นยนต์ทุกตัวควรจะมี ‘ปุ่มพิฆาต’ ที่สามารถชัตดาวน์โปรแกรมทั้งระบบในภาวะฉุกเฉินได้ทันที ขณะเดียวกันหุ่นยนต์จะต้องใช้งานได้โดยปราศจากความเสี่ยงหรือเป็นภัยต่อทางร่างกายและจิตใจต่อผู้ใช้งาน

สำหรับประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างเข้มข้นอย่าง AI ควรจะมีสถานะว่าเป็น ‘บุคคลอิเล็กทรอนิกส์’ หรือไม่ ในเมื่อ AI มีประสิทธิภาพการทำงานไม่แพ้มนุษย์

ทางสมาชิกรัฐสภายุโรปได้ระบุว่า ในระยะยาวอาจเป็นไปได้ว่า AI จะมีสถานะเป็น ‘บุคคลอิเล็กทรอนิกส์’ ในกรณีที่ AI พัฒนาความฉลาดไปเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถสั่งการและควบคุมได้เอง แต่จะต้องพิจารณาให้มีผู้รับผิดชอบในกรณีที่ AI ก่อให้เกิดความเสียหายเช่นกัน

เมดี เดลโว กล่าวว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องหาวิธีการรับมือ เมื่อหุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และเรากำลังมอบทางเลือกให้คณะกรรมาธิการศึกษา AI ว่าควรจะได้รับสถานะเป็น ‘บุคคลอิเล็กทรอนิกส์’ เช่นเดียวกันกับการกำหนดความเป็นบุคคลของบริษัท (corporate personality) ตามกฎหมายบริษัท สิ่งที่เราจะต้องทำในเวลานี้คือ กำหนดกรอบกฎหมายสำหรับหุ่นยนต์ซึ่งเริ่มเข้ามาในตลาดขณะนี้ และจะเป็นที่ต้องการของตลาดในอีก 10-15 ปีข้างหน้า”

ยุโรปกับบทบาทผู้นำทางด้านกฎหมาย AI

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความกังวลเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นพอๆ กับข่าวความก้าวหน้าของ AI ที่ถูกนำเสนอในพื้นที่สื่อในหลายประเทศ วันนี้ AI ได้วิวัฒน์แบบก้าวกระโดดจากเครื่องจักรที่เรียนรู้จากการป้อนคำสั่งข้อมูล มาสู่ตลาดแรงงานของมนุษย์ ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า สุดท้ายแล้วหุ่นยนต์จะกลายเป็นภัยคุกคามมนุษย์เหมือนในนวนิยายวิทยาศาสตร์หรือไม่

เมดี เดลโว มองว่าการกำหนดกฎหมายแรงงานสำหรับหุ่นยนต์ หรือหาทางเยียวยาผลกระทบต่อการจ้างงานมนุษย์ก็เป็นอีกวาระสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

“นับวัน กิจวัตรประจำวันของเราจะเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เราจึงควรจะเร่งกำหนดกรอบสำหรับการบัญญัติกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในยุโรปให้สอดรับกับปัจจุบัน และมั่นใจได้ว่าว่าหุ่นยนต์จะยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งของมนุษย์”

นอกจากนี้ทางรัฐสภายุโรปจะพิจารณาเกี่ยวกับการจดทะเบียนหุ่นยนต์ การจัดตั้งหน่วยงานในยุโรปเพื่อดูแลควบคุมเกี่ยวกับหุ่นยนต์ กำหนดมาตรการควบคุมและแบ่งประเภทแยกย่อยของ AI ให้ชัดเจน ตั้งแต่รถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์แพทย์ และการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเทียม โดยอาจอ้างอิงจากระบบเซ็นเซอร์ ความสามารถด้านการเรียนรู้ รูปลักษณ์ภายนอก และความสามารถด้านการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม

ทั้งนี้ ทางสมาชิกรัฐสภายุโรปเน้นย้ำว่ากฎหมายบังคับใช้ทั่วสหภาพยุโรปจะต้องครอบคลุมถึงการแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ และมีการกำหนดมาตรฐานรับรองความมั่นคงปลอดภัย

“ฉันเชื่อว่านี่คือความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสังคมและระบบการศึกษาของเรา เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราเชื่อว่ายังมีอาชีพที่ต้องการแรงงานด้อยทักษะ หุ่นยนต์จะไม่แย่งงานมนุษย์ แต่จะเข้ามาในลักษณะของการทำงานร่วมกันมากกว่า เราได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการตระหนักถึงวิวัฒนาการนี้ และพิจารณาว่างานประเภทไหนเหมาะกับหุ่นยนต์ มันเป็นเรื่องดีที่หุ่นยนต์จะทำงานที่ต้องอาศัยแรงงานหนัก เช่น ขนสินค้า หรืองานที่เป็นอันตราย เราจะต้องจับตามองว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และเตรียมความพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์”

ถ้าหากรัฐสภายุโรปมีมติออกกฎหมายฉบับนี้เมื่อไหร่ สหภาพยุโรปจะเป็นแห่งแรกที่ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์อย่างเป็นทางการ

ไม่ว่าความก้าวหน้าครั้งนี้จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายสำหรับมนุษยชาติ การออกกฎหมายครั้งนี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่เราจะถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว
อ่านรายงานของ เมดี เดลโว ได้ที่ Committee on Legal Affairs

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai​

อ้างอิง:

Tags: , , ,