ดูเหมือนอัตราเร็วในการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ จะเร็วขึ้นทุกปี (หรืออาจเรียกได้ว่าทุกวินาที!)
วันนี้เมื่อปีที่แล้วกับวันนี้ของปีนี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว สิ่งต่างๆ มาแล้วก็ไปอย่างรวดเร็ว จนหลายคนอาจลืมไปแล้วว่า ตุ๊กตาลูกเทพเคยเป็นกระแสดังเมื่อต้นปี ขณะที่ โปเกมอน โก ที่มีคนเคยพูดถึงเต็มนิวส์ฟีด ก็ยากจะหาคนพูดถึงแล้วในวันนี้
การมาเร็วไปเร็วของสรรพสิ่ง ทำให้ช่วงเวลาเพียงหนึ่งปีนั้นอัดแน่นไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ มหาศาล มากจนทำให้เรารู้สึกว่าช่วงเวลาที่เคยยาวได้ยืดยาวขึ้นไปอีก จนบางคนอาจเผลอคิดนึกไปว่าเรื่องนั้นเคยเกิดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ทั้งที่จริงมันเพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
เมื่อสัจธรรมของโลกทุกวันนี้คือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นคนทำธุรกิจในโลกยุคใหม่จึงต้องมีทักษะในการปรับตัวและเลื่อนไหลไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ล่าสุด (22 ธ.ค.) ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผย 10 ธุรกิจ รุ่ง-ร่วง ปี 2560 ว่าธุรกิจใดกำลังจะมาหรือไปเพราะอะไร
“ผมมองว่าในปี 2560 เป็นปีแห่งการปรับตัว คือปรับโครงสร้าง ซึ่งจะเห็นว่าทุกประเทศหันกลับมาใช้และสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศตัวเองมากขึ้น ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน รวมทั้งไทยด้วย จะเห็นว่ามีการปรับโครงสร้างการค้าภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้นด้วย” นายธนวรรธน์กล่าว
The Momentum หวังว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ทำธุรกิจทุกคน เพื่อใช้ในการเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2560
ขอให้ทุกคนโชคดี
10 ธุรกิจดาวรุ่ง
“ธุรกิจเด่นในปีหน้ามองว่า เป็นไปตาม 4 เมกะเทรนด์ของโลก คือ ดิจิทัลทำให้กลุ่มอี-คอมเมิร์ซ และฟินเทคมาแรง การเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน มีการซื้อสินค้าในห้างโมเดิร์นเทรดมากขึ้น ส่วนการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้บริการด้านสุขภาพ การออมเงิน และการประกันโต และเรื่องกรีน มีผลให้กระแสรักสุขภาพโดดเด่นขึ้น” – ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
1. ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม
อันดับ 1 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน (และคาดว่าจะเป็นไปอีก 3-5 ปี) เนื่องจากกระแสการรักษาสุขภาพและความงามที่ยังมีต่อเนื่อง การให้บริการทางการแพทย์และความงามในไทยที่คุณภาพดี-ไม่แพง จะดึงลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV เข้ามาใช้บริการ
2. ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว
คนทุกช่วงอายุมีพฤติกรรมดูแลรักษาผิวพรรณมากขึ้น การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่มุ่งตอบสนองทุกกลุ่ม ช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ระบบออนไลน์ และมีโอกาสสูงในการขยายตลาดสู่อาเซียน
3. ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
ผู้บริโภคต้องการความสะดวกรวดเร็วมากกว่าเดิม การเติบโตของแอปพลิเคชันในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ โดยมีส่วนลดหรือราคาพิเศษให้ลูกค้ามากขึ้น รวมถึงนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
4. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
ผลจากการส่งเสริมและนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของไทย นักท่องเที่ยวมีคุณภาพมากขึ้นจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ
ธุรกิจด้านไอที (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของไทย อุปกรณ์การสื่อสาร หรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง และนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น
5. ธุรกิจด้านวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง
จากการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล มีงบประมาณกว่า 6 แสนล้านบาท การขยายส่วนต่อของการรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
6. ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์
จากการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้การขนส่งกระจายพื้นที่มากขึ้น การพัฒนาเมือง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีการขนส่งเพิ่มขึ้น
7. ธุรกิจบริการทางการเงินออนไลน์ (เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออนไลน์แบงกิ้ง ฟินเทค)
จากการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการเงินในรูปแบบออนไลน์ ทำให้การสั่งซื้อสินค้า และการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
8. ธุรกิจโมเดิร์นเทรด
การขยายตัวของร้านค้าสมัยใหม่ในชุมชนมากขึ้น การจัดโปรโมชันของผู้ให้บริการโมเดิร์นเทรด และการร่วมกับสถาบันการเงินจัดกิจกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่างๆ
ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและการวางแผนทางการเงินของคนยุคปัจจุบัน และรัฐบาล ส่งเสริมให้มีการทำประกันภัยมากขึ้น
ธุรกิจออร์แกไนซ์
จากกระแสการจัดงานแสดงสินค้า งานเลี้ยง งานสังสรรค์ในวาระต่างๆ ของผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นการบริโภคและสร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์ และจากการประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
9. ธุรกิจซ่อมและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์
ความต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารเพิ่มสูงขึ้น
ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น
10. ธุรกิจการศึกษา (เช่นโรงเรียนกวดวิชา สถาบันด้านไอที)
จากการแข่งขันด้านการศึกษา และการสอบวัดระดับต่างๆ ยังมีต่อเนื่อง
ธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี
การติดต่อการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านหรือต่างประเทศมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของไทยมีมากขึ้น ทำให้ต้องมีการติดตาม และปรับเปลี่ยนข้อสัญญาต่างๆ
10 ธุรกิจดาวร่วง
ขณะที่ 10 อันดับธุรกิจดาวร่วง มีหลายธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลงและผันผวนมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะธุรกิจนิตยสาร หนังสือ และหนังสือพิมพ์, ร้านเช่าหนังสือ, ร้านเช่าวิดีโอ ซีดี เป็นต้น
“ธุรกิจด้อยจะเป็นกลุ่มที่ไม่มีการพัฒนา หรือเป็นกลุ่มธุรกิจทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มฟอกย้อม หัตถกรรม รองเท้า และสิ่งทอที่ตัดเย็บทั่วไป ซึ่งจะถูกสินค้าจากจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาตีตลาด ส่วนธุรกิจนิตยสารและหนังสือมองว่า ภายใน 2 ปีจากนี้จะเป็นช่วงที่เหนื่อยมาก โดยเฉพาะนิตยสารอาจต้องปรับตัวหนัก เนื่องจากคนรุ่นใหม่หันไปอ่านผ่านออนไลน์มากขึ้น ยกเว้นว่าเป็นนิตยสารที่เข้าถึงกลุ่มแมส หรือมีฐานใหญ่ในต่างจังหวัดจึงจะอยู่ได้” – ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
1. ธุรกิจฟอกย้อม
2. ธุรกิจหัตถกรรม
3. ธุรกิจนิตยสาร หนังสือ และหนังสือพิมพ์
4. ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ
5. ร้านเช่าวิดีโอ ซีดี
6. สิ่งทอผ้า
7. ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์
8. ธุรกิจโรงไม้
9. ธุรกิจตัดและซ่อมรองเท้า
10. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร
ภาพประกอบ: Karin Foxx
อ้างอิง:
– http://www.posttoday.com/biz/news/471736
– http://www.thairath.co.th/content/818877
– http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/732981