(26 ก.พ.) ที่ด้านหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ริมถนนราชดำเนิน กลุ่มนักเรียนสตรีวิทยากว่ายี่สิบคน ได้จัดกิจกรรม #สวที่อยู่ข้างประชาธิปไตย #คนดีของฉันรึจะต้องไม่เอาเผด็จการ เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง โดยมีการเขียนป้ายแสดงความรู้สึกและร่วมกันพูดแสดงความเห็นทางการเมือง แม้ว่าในช่วงบ่ายที่ผ่านมาจะมีข่าวปรากฏว่าทางโรงเรียนสตรีวิทยาไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการจัดการชุมนุมในสถานศึกษา จนทำให้เปลี่ยนมาสู่การชุมนุมที่บริเวณหน้าโรงเรียน และเคลื่อนย้ายไปสมทบการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ต่อไป

ทั้งนี้หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ไปเมื่อวันที่ 21 กพ.ที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาหลายสิบสถาบันได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยอย่างต่อเนื่อง และโรงเรียนสตรีวิทยานับเป็นโรงเรียนระดับมัธยมโรงเรียนแรกที่ออกมาเคลือนไหว โดยในวันพรุ่งนี้โรงเรียนเตรียมอุดมก็จะจัดกิจกรรมด้วยเช่นกัน

หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ อ่านป้ายที่เธอเขียนว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนทุกคน” และได้กล่าวถึงประเด็นที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
นักศึกษาออกมาชุมนุม ระวังอนาคตดับ ว่า

“มันคือการข่มขู่สำหรับหนู ทำไมเขาเลือกที่จะบอกว่าอนาคตเราจะดับ ในเมื่อตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ ควรจะเป็นตำแหน่งผลักดันอนาคตเด็กมากกว่า การที่เราออกมาแสดงความคิดเห็นมันคือสิทธิ และเสรีภาพของเรา สถานการณ์สังคมมันเป็นแบบนี้ มันกระทบกับชีวิตของเรา จึงเลือกออกมาพูด มันจะเป็นความผิดได้ยังไง เราไม่ได้ทำใครเดือดร้อน แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นนายกรัฐฯ ควรคิดก่อนพูด โดยเฉพาะกับประชาชน”

 

นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมชุมนุมอีกคนที่เป็นศิษย์เด่าสตรีวิทยาถือป้ายว่า ‘อยากได้นายกที่มีเซลล์สมองมากกว่า 84,000 เซลล์’ ซึ่งเธอกล่าวว่า “อยู่ไปก็ไม่มีอนาคตอยู่ดี ก็ควรออกมาเรียกร้องอนาคตให้ตัวเอง” ทั้งยังกล่าวเรื่องการใช้สถานที่ของโรงเรียนที่มีปัญหาว่า “ทางโรงเรียนทำอะไรพวกหนูไม่ได้แล้ว เพราะพวกหนูจบออกมาแล้ว ห่วงแต่น้องๆในโรงเรียนมากกว่า”

ในขณะที่อาจารย์หลายท่านมายืนเฝ้าสังเกตการณ์ เธอจึงแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “อาจารย์คงเป็นห่วงความปลอดภัยเลยมายืนเฝ้าแบบนี้ เข้าใจว่าโรงเรียนเป็นสถานที่ราชการเลยไม่ให้เข้าไป แต่ไม่เป็นอะไร พวกหนูเปลี่ยนมาใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแทน เจ๋งกว่าเยอะเลย”

ตัวแทนศิษย์เก่าสตรีวิทยา ได้ขึ้นมากล่าวปราศัย ในงาน โดยกล่าวว่า “เด็กพวกหนูในวันนี้จะต้องกลายเป็นบุคคลที่ต้องพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวเดินต่อไป โดยอนาคตของพวกเราในอนาคตขึ้นอยู่กับการกระทำในวันนี้ พวกเราหวังว่าการที่พวกเราออกมาเรียกร้องในวันนี้ จะเป็นจุดประกายเล็กๆ ที่ทำให้เยาวชนออกมาช่วยเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้านการเมือง ถึงพวกเราเป็นแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์แต่พวกเราหวังว่า หนึ่งเปอร์เซ็นต์วันนี้จะทำให้พวกเราคิดได้ว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคนและในวันข้างหน้าจะกลายเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์”

Tags: ,