หลังเหตุระเบิดโจมตีโบสถ์และโรงแรมที่คร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 250 คน ในศรีลังกา เมื่อวันที่ 21 เมษายน จนถึงตอนนี้วิถีชีวิตของชาวศรีลังกาก็ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ

ศรีลังกายังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดในวันอีสเตอร์ ประธานาธิบดีสั่งให้ค้นทุกบ้านที่ต้องสงสัยว่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อเหตุ ทหารจับตาพื้นที่สนามบินเป็นพิเศษ ส่วนทหารเรือก็ลาดตระเวนรอบๆ เกาะ ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุยังคงหวาดกลัว และมีอาการนอนไม่หลับ หลายครอบครัวสูญเสียสมาชิกในครอบครัว เด็กจำนวนมากต้องกำพร้า และยังคงมีกรณีที่หาศพผู้เสียชีวิตไม่พบ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน อาร์คบิชอปแห่งกรุงโคลัมโบยกเลิกการประกอบพิธีทางศาสนาในโบสถ์ชั่วคราว ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ถ่ายทอดพิธีมิสซาจากที่บ้านแทน ส่วนโบสถ์เซนต์แอนโธนี ในโคลัมโบ หนึ่งในสถานที่เกิดเหตุ แม้จะปิด แต่วันอาทิตย์นี้ก็มีคนมารวมตัวกันที่ด้านหน้า ร้องเพลง จุดเทียน หลังที่กั้นหลายชั้น มีตำรวจและทหารเต็มพื้นที่ รวมถึงหน่วยคอมมานโดที่สังเกตการณ์จากตึกสูง

สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีรายงานออกมาว่า 2 ใน 9 ของมือระเบิดฆ่าตัวตายเป็นลูกของมหาเศรษฐีในศรีลังกา และจบการศึกษาสูง

ซ้ำร้าย เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน ตำรวจและทหารได้บุกเข้าไปยังบ้านพักที่มีนักรบกลุ่มไอเอสมาซ่อนตัวอยู่ในเมืองทางตะวันออกของศรีลังกา และเกิดการยิงปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิตรวม 15 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักรบของไอเอส 3 คน ภรรยาของมือระเบิด และเด็ก 6 คน

ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ในเมืองเซนธามารุธู หลังจากได้รับแจ้งว่าพบกิจกรรมน่าสงสัย ผู้แจ้งเบาะแสนี้คือชาวบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกัน เพียงวันเดียวหรือสองวันหลังวันอีสเตอร์ มีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ที่เมืองนี้ และขนย้ายกล่องสีเทาลงจากรถตู้จำนวนมาก เพื่อนบ้านและเจ้าของบ้านเช่าเห็นว่าผิดปกติจึงแจ้งกับครูสอนศาสนาให้ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่บ้านเช่า พวกเขาก็สั่งให้ผู้มาเยือนย้ายออกไปวันรุ่งขึ้นทันที ส่วนเจ้าของร้านค้าอีกคนหนึ่งก็ผ่านไปที่บ้านหลังนี้ในเย็นวันเดียวกัน แต่เจอผู้หญิงคนหนึ่งเล็งปืนมาที่เขา จึงรีบหนี ไม่นานนักตำรวจและทหารก็มา บ้านหลังนี้กลายเป็นพื้นที่สงครามทันที เมื่อเหตุสงบลงก็พบว่าภายในบ้านมีอุปกรณ์ประกอบระเบิดมากมาย ในช่วงปะทะชาวบ้านไปรวมตัวกันอยู่ที่โรงเรียน

ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา กล่าวว่าจะมีมาตรการใหม่ที่เข้างวดมาใช้ตรวจสอบและติดตามผู้ต้องสงสัย แบบเดียวกันที่ใช้ในช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มทมิฬและรัฐบาล ตอนนี้ผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสถูกจับกุมแล้วมากกว่า 70 คนแล้ว

 

ที่มา:

 

ที่มาภาพ: REUTERS/Athit Perawongmetha

Tags: , ,