ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ลีโอร์ วารัดคาร์ ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน​

แต่แทนที่จะพบปะพูดคุยกันหลังแก้วเบียร์กินเนสส์ในไอริชผับแสงสลัวตามธรรมเนียม วารัดคาร์กลับบอกให้ทรูโดเปลี่ยนรองเท้า แล้วสองผู้นำก็ออกไปวิ่งด้วยกันในสวนสาธารณะ

​วารัดคาร์ยืนยันว่าการทำเช่นนั้นไม่ใช่เพื่อโอกาสในการถ่ายรูปของผู้สื่อข่าว แต่การวิ่งจะทำให้เขาได้พูดคุยกับทรูโดโดยไม่มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพอยู่ใกล้ๆ

​“เขาจะได้ให้คำแนะนำกับผมเกี่ยวกับประสบการณ์การเป็นผู้นำคนใหม่ของรัฐบาล เขาอยู่ในตำแหน่ง 18 เดือน ขณะที่ผมอยู่ในตำแหน่ง 18 วัน ดังนั้น เขาต้องมีคำแนะนำสำหรับผมแน่ๆ”

จัสติน ทรูโด กับ ลีโอ วารัดคาร์ พบปะกับผู้สื่อข่าวที่บริเวณด้านหน้าของ Farmleigh House เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม (ภาพ: REUTERS/Clodagh Kilcoyne)

ผู้นำอายุน้อยที่สุด

​ในวัย 38 ปี ลีโอ วารัดคาร์ คือนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของไอร์แลนด์ และเป็นผู้นำในแบบฉบับที่ไอร์แลนด์ไม่เคยมี​

เขาเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1979 ที่ดับลิน พ่อเป็นนายแพทย์ชาวอินเดียจากมุมไบ ส่วนแม่เป็นพยาบาลชาวไอริช

​วารัดคาร์เติบโตในประเทศที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างมาก

​ก่อนทศวรรษ 1990 การหย่าร้างเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไอร์แลนด์ ขณะที่การรักร่วมเพศได้รับการยอมรับทางกฎหมายในปี 1993​

ในตอนนั้น จำนวนผู้อพยพยังมีไม่มาก และสาธารณรัฐไอร์แลนด์คือหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศยากจนของสหภาพยุโรป​

วารัดคาร์รู้ว่าเขาสนใจการเมืองตั้งแต่ยังเด็ก เรื่องราวที่ชาวไอริชจำนวนหนึ่งรู้ดีคือเขาประกาศว่าเมื่อโตขึ้น เขาอยากเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

​“แม่อยากให้ผมเป็นหมอเหมือนกับพ่อ ตอน 7 ขวบ ผมอยากเป็นนักการเมืองมากๆ ผมจึงคิดไว้ในใจว่าจะรวมสองอย่างเข้าด้วยกัน”

​วารัดคาร์เรียนแพทย์ที่วิทยาลัยทรินิตี เขาเป็นนักเรียนแพทย์ที่กระตือรือร้นทางการเมือง และใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนในกรุงวอชิงตัน ในฐานะเด็กฝึกงานของ แจ็ก ควินน์ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันในเวลานั้น

​หลังจากนั้น วารัดคาร์ก็ลงสนามการเมืองท้องถิ่น และได้เป็นสมาชิกรัฐสภาไอร์แลนด์ในปี 2007 โดยพรรค Fine Gael ต้นสังกัดของเขาอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน

​ปีต่อมา วิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ก็เกือบทำให้ไอร์แลนด์ล้มละลาย และทำให้พรรค Fianna Fáil พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2011 เป็นผลให้พรรค Fine Gael ได้เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล และวารัดคาร์ก็ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่ง การท่องเที่ยว และการกีฬา

​จนกระทั่งในปี 2014 ความฝันในวัยเด็กของวารัดคาร์ก็กลายเป็นความจริง เมื่อเขาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

หลังรับตำแหน่ง 5 วัน วารัดคาร์เดินทางไปลอนดอนเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ (ภาพ: REUTERS/Stefan Wermuth)

เปิดเผยและตรงไปตรงมา

​ในปี 2015 ไอร์แลนด์คือประเทศแรกในโลกที่การแต่งงานกับเพศเดียวกันได้รับการยอมรับในทางกฎหมาย (โดยการออกเสียงประชามติ) ในระหว่างการรณรงค์ วารัดคาร์ (ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) ก็ประกาศผ่านการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุว่าเขารักชอบเพศเดียวกัน

​“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมอีกต่อไปแล้ว ผมหวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคนอื่นๆ ด้วย มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น”

​ถึงแม้คำประกาศนี้จะทำให้คนจำนวนหนึ่งเซอร์ไพรส์ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันแทบจะไม่มีผลต่อความนิยมในตัวเขา

​“ผมคิดว่ามันเพียงแค่สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วในสังคมไอริช” วารัดคาร์ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ “แต่มันกลับเพิ่มความรับผิดชอบให้กับผมในฐานะผู้นำรัฐบาล สำหรับการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน … ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในไอร์แลนด์ แต่รวมถึงทุกประเทศในโลก”

​และเมื่อ เอ็นดา เคนนี ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค Fine Gael เมื่อเดือนพฤษภาคม วารัดคาร์ก็ได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ความท้าทายของคนหนุ่ม

​ถึงแม้จะอยู่ในรุ่นเจเนอเรชันเอกซ์ แต่วารัดคาร์ต้องการใช้สปิริตเรื่องการเปิดกว้างของรุ่นมิลเลนเนียลเป็นพาหนะนำพาไอร์แลนด์เข้าสู่เวทีโลก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ จัสติน ทรูโด คือผู้นำคนแรกที่เขาส่งเทียบเชิญ

​วารัดคาร์บอกว่า จัสติน ทรูโด (นายกรัฐมนตรีแคนาดา, 45 ปี), เอ็มมานูเอล มาครง (ประธานาธิบดีฝรั่งเศส, 39 ปี) และ มาร์ก รุตต์ (นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์, 50 ปี) คือส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้นำอายุน้อยที่จะนำพาโลกไปสู่ยุคที่เปิดกว้างมากขึ้น “การแบ่งแบบดั้งเดิมระหว่างซ้ายกับขวา ทุนกับแรงงาน รัฐเล็กกับรัฐใหญ่ ภาษีสูงกับภาษีต่ำ ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดความเป็นไปของการเมืองแบบที่มันเคยเป็นในอดีต เราเห็นว่าการแบ่งใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้น”​

จากนี้เป็นต้นไป ปัญหาใหญ่ที่รอพิสูจน์ความสามารถของผู้นำไอร์แลนด์คนใหม่ คือการตัดสินใจหันหลังให้สหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร เนื่องจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไอร์แลนด์เปลี่ยนจากดินแดนชายขอบ สู่หนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญในทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

การเป็นตลาดเดียว (Single Market) ของสหภาพยุโรปมีผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของไอร์แลนด์ และ 3 ปีที่ผ่านมา ไอร์แลนด์คือหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม 19 ประเทศที่ใช้เงินยูโร ขณะที่ในเดือนก่อนที่วารัดคาร์จะรับตำแหน่ง อัตราการว่างงานในไอร์แลนด์อยู่ที่ร้อยละ 6.2 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

​การถอนตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรจะส่งผลต่อไอร์แลนด์โดยตรง เนื่องจากในแต่ละสัปดาห์ มูลค่าการค้าระหว่างสองดินแดนอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านยูโร และสหราชอาณาจักรคือตลาดใหญ่สำหรับสินค้าเกษตรของไอร์แลนด์ หากสหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรป นั่นก็หมายความว่าเศรษฐกิจของไอร์แลนด์จะได้รับผลกระทบอย่างมาก การนำเข้า-ส่งออกจะมีกำแพงภาษีเป็นอุปสรรคขัดขวาง และสินค้าจากไอร์แลนด์ก็อาจเดินทางสู่สหราชอาณาจักรได้น้อยลง

​ลีโอ วารัดคาร์ นำพาตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยศักยภาพและความสามารถ และบททดสอบที่ยากที่สุดสำหรับเขาก็กำลังจะมาถึง

 

ภาพ: วันที่ 2 มิถุนายน ลีโอ วารัดคาร์ ได้รับเลือกจากสมาชิกพรรค Fine Gael ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ (REUTERS/Clodagh Kilcoyne)

Tags: , , , , ,