วันนี้ (4 ธันวาคม 2024) ชาวเกาหลีใต้ประท้วงเรียกร้องให้ ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-yeol) ประธานาธิบดี ลาออกจากตำแหน่ง หลังประกาศ ‘กฎอัยการศึก’ ครั้งแรกในรอบ 40 ปี เพื่อปราบปรามพรรคฝ่ายค้าน ขณะที่นักการเมืองประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชี้เป็นการ ‘รัฐประหาร’ พร้อมเดินหน้ายื่นเรื่องถอดถอน (Impeachment) หากผู้นำประเทศไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของประชาชน

“จำคุกอาชญากรกบฏ ยุน ซอกยอล!” คือป้ายข้อความส่วนหนึ่งของกลุ่มชุมนุมหน้าจัตุรัสควังฮวามุน (Gwanghwamn) ในเช้าวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้ ยุน ซอกยอล ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีจากปมประกาศกฎอัยการศึก ขณะที่สหภาพแรงงานเกาหลีใต้ (Korean Confederation of Trade Unions: KCTU) เรียกร้องให้มีการประท้วง ‘หยุดงาน’ อย่างไม่มีกำหนด และประณามเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ว่า เป็นการกระทำไร้เหตุผลและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย

“การที่ยุน ซอกยอล บังคับใช้กฎหมายโดยปราศจากเหตุผลอันชอบธรรม ถือเป็นภัยร้ายแรงในตัวมันเอง 

“เขาได้ปูหนทางของตนเอง สู่การถูกถอนถอดด้วยกฎอัยการศึก” อิม มยองพัน (Lim Myeong-pan) ชายวัย 55 ปี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี (AFP) โดยย้ำว่า แม้ผู้นำประเทศประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกตามมติของรัฐสภาด้วยคะแนนเสียง 190 จาก 300 เสียง แต่ไม่ได้หมายความว่า ยุน ซอกยอลจะปลอดจากความผิด

ขณะที่เมื่อคืนนี้ คิม มินซอก (Kim Min-seok) สมาชิกรัฐสภาจากพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้ (Democratic Party of Korea) หรือพรรคมินจูดัง (민주당) พรรคฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์ว่า การประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซอกยอลผิดกฎหมาย และเป็นความผิดทางอาญา ฐานละเมิดรัฐธรรมนูญของประเทศและกฎหมายฉบับอื่น ซึ่งไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของการใช้อำนาจคือ สถานการณ์ฉุกเฉินและภาวะสงคราม

“นี่คือการรัฐประหาร” คิม มินซอกย้ำว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ควรรับผิดชอบ และการมีอยู่ของทหารในรัฐสภาเกาหลีใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยแหล่งข่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า พรรคมินจูดังเตรียมยื่นเรื่องถอดถอน หากยุน ซอกยอลไม่ทำตามข้อเรียกร้องของประชาชน

ในด้านของพรรครัฐบาลคือ พรรคประชาชนเกาหลี (People Power Party) ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านผู้นำประเทศว่า กฎอัยการศึกคือ ‘โศกนาฏกรรม’ ของประเทศ และยุน ซอกยอลต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมกับเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี ‘ลาออก’ จากตำแหน่งทั้งคณะ 

หากยุน ซอกยอลลาออก นั่นหมายความว่า เขาจะไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกต่อไป แม้ว่าจะนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีได้เพียง 2 ปี เนื่องจากรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้อนุญาตให้ผู้นำประเทศดำรงตำแหน่งเพียง 1 สมัยเท่านั้น

สำหรับเงื่อนไขการถอดถอน รัฐสภาสามารถกระทำได้ด้วยการลงมติเห็นชอบถอดถอน ด้วยความผิดละเมิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน ซึ่งจะต้องมีคะแนนเสียงข้างมากพิเศษ (Supermajority) ของรัฐสภา หรือคิดเป็น 200 เสียงขึ้นไปจาก 300 เสียง จากนั้นจึงสามารถยื่นเรื่องกับศาลรัฐธรรมนูญ ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือ คณะตุลาการ 6 ใน 9 คนต้องพิจารณาเห็นชอบให้ถอดถอน โดยที่ประธานาธิบดีจะถูกระงับการใช้อำนาจบริหารตลอดขั้นตอนการถอดถอน

ขณะนี้พรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในรัฐสภาถึง 192 เสียง และในกรณีที่ ยุน ซอกยอลถูกถอดถอน เขาจะเป็นประธานาธิบดีของประเทศคนที่ 2 ที่หลุดจากเก้าอี้ผู้นำต่อจาก พัค กึนฮเย (Park Geun-hye) อดีตประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ และทายาทของ พัค จองฮี (Park Jong-hee) ผู้นำเผด็จการในอดีต

อ้างอิง:

https://www.theguardian.com/world/live/2024/dec/03/south-korea-declares-emergency-martial-law-yoon-suk-yeol-north-korea-latest-updates#top-of-blog

https://edition.cnn.com/world/live-news/martial-law-south-korea-intl/index.html

Tags: , , , , , , , , ,