สินค้าบางชนิด บางครั้งก็มีชื่อเรียกแทนด้วยยี่ห้อของมัน เช่นยุคหนึ่งเราเคยเรียกยาสระผมว่า ‘แฟซ่า’ หรือเรียกผงซักฟอกว่า ‘แฟ้บ’ สินค้าทัปเปอร์แวร์ก็เช่นกัน เป็นกล่องพลาสติกขนาดต่างๆ ใช้สำหรับบรรจุอาหาร ที่เราเคยคุ้นชื่อเรียกของมันตามชื่อแบรนด์ว่า ‘ทัปเปอร์แวร์’ (Tupperware)

บราวนี ไวส์ (Brownie Wise) คือผู้บุกเบิกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนมีความสามารถด้านการขายอันดับต้นๆ ของโลกในยุคหลังสงคราม เรื่องราวของเธอกับทัปเปอร์แวร์เริ่มจากเย็นวันหนึ่ง พนักงานขายของบริษัทสแตนลีย์ โฮม โปรดักต์ไปเคาะประตูบ้านของเธอ เพื่อเสนอขายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องใช้และครัวเรือน 

หลังการมาเยือนของพนักงานขาย ทำให้หญิงวัย 34 เกิดไอเดียขึ้นมาและเชื่อมั่นว่า เธอสามารถทำได้ดีกว่านั้น

ไวส์ก้าวเข้าสู่สนามการขายและกลายเป็นคนมีชื่อเสียง จากการสร้างชื่อให้ ‘ทัปเปอร์แวร์’ กลายเป็นที่รู้จักของโลก และ ‘ทัปเปอร์แวร์ โฮม ปาร์ตี้’ ได้กลายเป็นเสมือนสถาบันของชาวอเมริกัน แต่ก่อนหน้านั้น เธอเริ่มทำงานให้กับบริษัทสแตนลีย์ จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการและก่อตั้งสาขาของเธอเอง ที่นั่น เธอได้พบกับแฟรงก์ สแตนลีย์ บีเวอริดจ์ (Frank Stanley Beveridge) ผู้บุกเบิกการเร่ของขายตามบ้าน เธอจึงเรียนรู้และเกิดไอเดียเกี่ยวกับ ‘โฮม ปาร์ตี้’ จากเขา แล้วค่อยๆ พัฒนาให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นในภายหลัง

แต่เมื่อเธอฉายแววความสามารถให้เห็นในครั้งแรก บีเวอริดจ์กลับเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เขาบอกเหตุผลง่ายๆ ว่า มันเป็นการทำงานที่เปลืองเวลาสำหรับผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างไวส์ เธอได้ฟังแล้วรู้สึกโกรธ และสาบานในใจ “ฉันจะพิสูจน์ให้เขาเห็น”

จากนั้น ไวส์ก็มาทำงานให้กับทัปเปอร์แวร์ คอร์ปอเรชัน ก่อนหน้านั้นไวส์เคยรู้จักกล่องบรรจุอาหารของเอิร์ล ทัปเปอร์ (Earl Tupper) บ้างแล้ว มันเป็นกล่องที่ใช้วัสดุโพลีเอธิลีน หรือพลาสติกที่ผลิตขึ้นจากสารตั้งต้นเอธิลีน ซึ่งถือเป็นผลงานปฏิวัติวงการ เพราะการใช้วัสดุสังเคราะห์ยังเป็นของใหม่ โดยเฉพาะวัสดุที่มีความยืดหยุ่นอย่างพลาสติก 

แต่สมัยนั้น ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านยังไม่เชื่อมั่นกล่องบรรจุอาหารมากนัก อีกทั้งเอิร์ล ทัปเปอร์ก็ไม่รู้ว่าจะขายกล่องไอเดียล้ำของตนเองอย่างไร แต่ไวส์รู้ เธอเป็นคนต้นคิดในการจัด ‘ทัปเปอร์แวร์ โฮม ปาร์ตี้’ ขึ้น และเธอได้ลิขสิทธิ์การจำหน่ายในรัฐฟลอริดาตั้งแต่ปี 1950 และเพื่อเผยแผ่ความรู้ในการขายให้ครอบคลุมทั้งรัฐ เธอจึงเขียนคู่มือขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับตัวแทนขายทุกคน เป็นคัมภีร์ของสุภาพสตรีทัปเปอร์แวร์

“บรรยากาศงานเลี้ยงที่ดีจะทำให้รู้สึกเร้าใจ แขกทุกคนจะเข้าถึงจิตวิญญาณของงานเลี้ยง ความเป็นกันเองจะช่วยลดแรงต้านการขายของผู้คนที่อยู่ในงาน และจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ความอยากซื้อจะกลายเป็นโรคติดต่อ มันคือความจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า คุณสามารถขายให้กับกลุ่มผู้หญิง 15 คนได้คล่องกว่าขายให้กับพวกเธอเป็นรายบุคคล”

ไวส์รู้จักกลเม็ดทุกชนิดในการนำเสนอกล่องบรรจุอาหารให้กับแม่บ้าน ในงานเลี้ยงทุกครั้งจะต้องมีกล่องทัปเปอร์แวร์ใบหนึ่งที่เธอบรรจุน้ำองุ่นสีแดงไว้เพื่อใช้โยนไปมา เป็นการสร้างบรรยากาศ พร้อมการพิสูจน์ความสนิทแน่นของกล่องบรรจุ

บราวนี ไวส์ไม่ได้ว่าจ้างพนักงานขายมืออาชีพ ตัวแทนขายของเธอมาจากแวดวงเดียวกันกับลูกค้า สำหรับเธอแล้ว นั่นถือเป็นโอกาสที่จะนำพาชีวิตออกจากการเป็นแม่บ้านธรรมดา พวกเธอสามารถมีรายได้จากทัปเปอร์แวร์ แต่มันก็เป็นปาร์ตี้ที่คงอยู่ตลอดไป ไวส์เป็นคนคิดค้นการขายด้วยอีเวนต์ การจัดประชุมตัวแทนขายทัปเปอร์แวร์ของไวส์ก็นับเป็นอีเวนต์เช่นกัน โดยมีบรรดาพ่อบ้านเฝ้ารอและคอยลุ้นอยู่นอกวง ตัวแทนขายคนไหนสามารถทำยอดถึงเป้าติดอันดับท็อปจะได้เสื้อคลุมขนสัตว์หรือรถคาดิแลคเป็นรางวัล ส่วนตัวไวส์เองนั้น ขับรถคาดิแลคสีชมพูที่เธอได้เป็นรางวัลจากทัปเปอร์แวร์เหมือนกัน

แม้จะประสบความสำเร็จด้านการขาย แต่ตัวเธอกลับทำงานกับทัปเปอร์แวร์ไม่สู้จะราบรื่น ปี 1951 ที่เธอมีปัญหาเรื่องการจัดส่งสินค้า เธอถึงกับบีบเจ้านายทางโทรศัพท์ “ความเคารพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อทัปเปอร์ และปากทะลึ่งเช่นนี้อาจมีผลนำไปสู่การไล่พนักงานออก” ทว่าความสำเร็จในการขายของไวส์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ทัปเปอร์ต้องทนนิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้ไวส์แม้สักคำ

ในทางตรงข้าม เมื่อมีการเลือกประธานคนใหม่ในทัปเปอร์แวร์ คอร์ปอเรชันตอนสิ้นปี บราวนี ไวส์กลับได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัท ยอดขายกระจุย ไวส์มีรายได้ในตอนนั้น 30,800 ดอลลาร์ต่อปี และมีที่พักอาศัยเป็นวิลลาหลังใหญ่เป็นของแถม

ขณะเดียวกัน ไวส์ก็ได้รับการยกย่องเป็นโฉมหน้าของแบรนด์โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ ตัวทัปเปอร์เองนั้นออกสื่อไม่เป็น ไวส์จึงกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีโอกาสได้รับเลือกขึ้นปกนิตยสาร Business Week แต่โชคไม่ดีตรงที่ ‘การบินสูง’ ของเธอถูกมองในแง่ลบ คล้ายเป็นผู้หญิงดื้อด้านและขาดความเคารพต่อทัปเปอร์ อีกทั้งความก้าวหน้าของไวส์ยังทำให้ทัปเปอร์หวั่นเกรงด้วยว่า เธอจะห่วงความมีชื่อเสียงของตนเองมากกว่าความสำเร็จของบริษัท

ปี 1955 ทัปเปอร์แวร์เริ่มประสบปัญหาด้านการขายครั้งแรก สองปีถัดมา ‘ทัปเปอร์แวร์ ปาร์ตี้’ ที่เริดหรูของไวส์เริ่มสะดุด เธอเชิญแขกจำนวน 1,200 คนไปยังเกาะแห่งหนึ่ง วันนั้นสภาพภูมิอากาศย่ำแย่ พายุฝนซัดลำเรือ ทำให้เกิดเหตุการณ์จลาจล และต่อสู้กันเพื่อเอาตัวรอด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 21 คน เป็นเหตุให้บริษัทถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ในเดือนมกราคมปี 1958 ทัปเปอร์ไล่นักขายมือทองของบริษัทออก และมีคำสั่งให้ลบประวัติ ร่องรอยของไวส์ทุกอย่างที่จะส่งผลเสียให้กับบริษัท ความสัมพันธ์ระหว่างไวส์กับทัปเปอร์สิ้นสุดลงที่การฟ้องร้องซึ่งกันและกัน

บราวนี ไวส์ยังประสบความสำเร็จด้านการทำงานในเวลาต่อมา ทว่าไม่สามารถมีชื่อเสียงเหมือนยุคเก่าก่อนที่เธอเคยสร้างไว้ เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกในสังคมนักธุรกิจหญิง ในขณะที่เธอเองกลับมองว่าเส้นทางอาชีพของเธอเป็นเรื่องปกติธรรมดา “ฉันแค่ต้องการเงินสำหรับตัวเองและลูกของฉัน ดังนั้นฉันจึงออกไปทำงาน และแสดงให้พวกเขาเห็น”

บราวนี ไวส์เสียชีวิตในปี 1992 ด้วยวัย 79 ปี

 

อ้างอิง:

Tags: , , ,