ชื่อของ Silly Fools วงร็อกชื่อก้องที่เคยครองใจวัยรุ่นไทยทั่วประเทศในยุคมิลเลนเนียม กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนบนโซเชียลอีกครั้งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ วีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ ‘พี่โต’ อดีตนักร้องนำของวง ปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ออกรายการ ‘ป๋าเต็ดทอล์ก’ ของ ‘ป๋าเต็ด’ ยุทธนา บุญอ้อม อดีตนักจัดรายการวิทยุขวัญใจชาวอินดี้ ที่ผันตัวมาเป็นคนจัดงานเทศกาลดนตรีระดับประเทศในปัจจุบัน

ป๋าเต็ด สัมภาษณ์ Silly Fools ยุคคลาสสิก

ทันทีที่รายการออกอากาศผ่านช่องยูทูบและเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ป๋าเต็ด’ ซึ่งบันทึกทุกคำพูดของ พี่โต จำนวน 2 ตอน ทั้งเหตุผลที่เขาหันหลังให้กับวงการดนตรี ผันตัวมาทำงานด้านศาสนาอย่างจริงจัง ก็ทำให้แฟนเพลงหลายคนเกิดความคิดถึงพร้อมเฝ้าภาวนาให้เขาจะกลับมาจับไมค์ร้องเพลง เล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ที่ร่วมสร้างวง SF อีกครั้ง แม้ต่างรู้ดีว่าคงเป็นไปไม่่ได้เพราะทั้งสองฝั่งดูจะตัดความสัมพันธ์กันสะบั้นแล้ว จากคำพูดของทั้งพี่โต รวมถึงสองสมาชิกวง ต้น-จักรินทร์ จูประเสริฐ (กีต้าร์) และ หรั่ง-เทวฤทธิ์ ศรีสุข (เบส) ที่ให้สัมภาษณ์กับป๋าเต็ดในเทปต่อมา 

ความขัดแย้งที่นำมาสู่จุดแตกหักของ Silly Fools ยุคคลาสสิกไลน์อัพ เมื่อปี 2549 หลายคนคงรู้กันแล้วดังนั้นไม่ต้องฉายหนังซ้ำ พอๆ กับเรื่องราวหลังจากนั้นว่าทั้งสองฝ่าย (นักร้อง-นักดนตรี) แยกย้ายกันไปทำอะไร อย่างที่ทราบกัน พี่โต ออกมาทำวงใหม่ Hangman มีอัลบั้มออกมา 1 ชุด ก่อนยุบวงและหันไปทำงานเผยแพร่ศาสนา พร้อมธุรกิจค้าเนื้อวัวที่เติบโตไปได้สวย ส่วนสมาชิก Silly Fools ท่านอื่นก็ยังทำผลงานต่อในนามของวง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือไม่ว่า Hangman หรือ Silly Fools ยุคใหม่ ผลงานของเพลงของทั้งสองฝั่งไม่ได้รับความนิยมเท่ากับสมัยรวมกันเราอยู่ 

SF ไลน์อัพที่หลายคนชื่นชอบ

เมื่อเอ่ยถึง Silly Fools ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึง Big Ass วงร็อกชื่อดังอีกวงที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบเดียวกัน นั่นคือการเปลี่ยนตัวนักร้องจาก แด็กซ์-เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด เจ้าของน้ำเสียงแหบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์และอยู่กับวงมาตั้งแต่อัลบั้มแรก กลายเป็น เจ๋ง-เดชา โคนาโล นักร้องหนุ่มเคราเฟิ้ม อย่างไรก็ตาม วง Big Ass ยุคปัจจุบันกลับยังรักษาความนิยมของตัวเองไว้ได้แบบคงเส้นคงวา 

นั่นเลยเป็นเหตผลที่ผู้เขียนอยากหยิบมาพูดถึงสักหน่อยว่า สองวงร็อกชื่อดังของประเทศไทย เปลี่ยนนักร้องเหมือนกัน แต่ทำไมผลลัพธ์กลับแตกต่างกัน

เนื้อเพลงของ Silly Fools ที่ใครก็เขียนแทนไม่ได้ 

Silly Fools ถูกยกให้เป็นวงดนตรีร็อกที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวงการเพลงไทย ด้วยภาคดนตรีและเนื้อร้องที่สอดประสานกันได้อย่างลงตัวรอบด้าน ทั้งไลน์กีต้าร์กับลูกโซโล่ของ ‘พี่ต้น’ ที่ติดหูเป็นเอกลักษณ์, ไลน์เบสของ ‘พี่หรั่ง’ เดินเครื่องสร้างความหนักแน่นให้วง และลูกกลองอันแพรวพราวของ ‘พี่ต่อ’ ต่อตระกูล ใบเงิน จนทำให้ทั้งสามถูกยกเป็นไอดอลและอาจารย์ของเหล่านักดนตรีในเมืองไทยมากมาย เรียกว่า 95% ของนักดนตรีประเทศนี้ ต้องเอาเพลงของ SF มาแกะเล่นเสริมสร้างทักษะให้แก่ตัวเองแน่นอน

ทักษะทางด้านการเล่นดนตรี เราสามารถใช้เวลาฝึกฝนเพื่อให้เก่งกาจแบบบุคคลที่เป็นต้นแบบได้ แต่สิ่งที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้คือการเขียนเนื้อร้องของ ‘พี่โต’ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครทำได้เหมือน

หากสังเกตกันดู เพลงของ Silly Fools ยุคไลน์อัพคลาสสิก ที่รังสรรค์เนื้อเพลงโดยพี่โตเพียงคนเดียว มีภาษาที่แปลกต่างจากนักแต่งเพลงคนอื่น แถมติดหูแบบแกะไม่ออก เช่น “ไหนว่าจะไม่หลอกกัน” ท่อนที่ร้องว่า “เธอบอกว่าวันนี้เป็นวันที่สวยงาม / เธอบอกว่าวันนี้เป็นวันของเรา” เอาภาษาพูดมาเป็นเนื้อเพลงกันเลย, เพลง “เหนื่อย” ที่ทำเอาซึ้งและแอบกวน “ไม่ใช่ว่าไม่รักไม่ต้องการเธอ / เพียงแค่ว่าต้องพักเรื่องรักก่อน อยากนอน”, หรือเพลง “บ้าบอ” แค่ท่อนขึ้นต้นก็เจ๋งโคตรแล้ว “อยากได้ก็ให้ หากไม่สูงเกินไป / อยากกลายไปเป็นดาวแถมเดือนไป / ขอให้เธอพอใจ ฉันให้ได้เพียงเท่านี้”

ริม นักร้องของ SF คนปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ภาคดนตรีของ 3 สมาชิก กีต้าร์-เบส-กลอง มีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกัน ด้วยการช่วยขับเน้นให้เพลงของ SF ทรงพลังเป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น เพลงของ SF จะเป็นผลงานที่ไร้คู่ต่อกรหาก 4 สมาชิกนี้อยู่ด้วยกัน ประหนึ่งราว Avengers แห่งวงการเพลงไทย

ดังนั้นพอทั้ง โต เทพฝั่งเนื้อร้อง และ 3 สมาชิก Silly Fools เทพฝั่งดนตรี แยกกันไป เพลงของทั้งสองฝั่งจึงให้รสชาติไม่ครบเครื่อง ไม่ว่าทั้ง Hangman หรือ Silly Fools ยุคต่อมา โดยฝ่ายหลังถึงจะได้คนเขียนเพลงระดับแนวหน้าอย่าง บอย โกสิยพงษ์, สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา กระทั่ง ฟองเบียร์- ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม มาช่วยแต่งเนื้อให้นักร้องใหม่ทั้ง เบน-เบนจามิน และ ริม-กฤษณะ ถึงตัวเพลงจะอยู่ในคุณภาพที่ดี แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจคนฟังได้เหมือนเพลงของ SF ยุคคลาสสิก

นั่นเลยทำให้แฟนคลับ Silly Fools ที่เติบโตมากับเสียงร้องและเนื้อเพลงจากปลายปากกาของ ‘บังโต’ และยังคงสลัดภาพในอดีตไม่หลุด (ยกเว้นฝั่งตัววงที่เขา Move On กันไปหมดแล้ว) เลือกที่จะไม่สนับสนุนวง SF ในยุคปัจจุบัน ยกเว้นแฟนคลับตัวจริงที่พร้อมบุกน้ำลุยไฟไปด้วยกันกับวงเสมอ

เปลี่ยนนักร้องเป็น เบนจามิน ที่ทำให้แฟนคลับยุคเก่าไม่ปลื้ม

 BIG ASS เปลี่ยนนักร้อง แต่คนเขียนเนื้อเพลงยังเหมือนเดิม

การแยกย้ายระหว่าง แด๊ก นักร้องนำและสมาชิกวง Big Ass ยังคงเป็นปริศนาในหมู่แฟนเพลง เพราะเอาจริงแม้จะรู้กันดีว่าตั้งแต่อัลบั้ม LOVE เป็นต้นมา เสียงร้องของ แด๊กซ์ มีปัญหาและแผ่วพลังลงไปมากเวลาเล่นคอนเสิร์ต (มีให้พิสูจน์มากมายในยูทูบ) จนต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เพราะต่างฝ่ายต่างให้เหตผลเชิงสวนทางกัน ทำให้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเป็นเพราะอะไรนอกจากคนในวง (ซึ่งต้องรอดูในรายการป๋าเต็ดทอล์ก ที่ทั้งสองฝั่งให้สัมภาษณ์เหมือน SF ในโอกาสต่อไป)

แม้แยกทางกับนักร้องนำที่ร่วมทางกันมา แต่ Big Ass เลือกเดินหน้าสร้างงานกันต่อโดยดึง เจ๋ง มาเป็นนักร้องคนใหม่ ออก EP. 1 ชุด กับอัลบั้มเต็มอีก 1 ชุด ถึงเสียงเชียร์จากแฟนคลับรุ่นเก่าสมัยที่ แด๊กซ์ เป็นนักร้องนำจะหดหายไปพอสมควร อย่างไรก็ตาม Big Ass ยุคที่มีเจ๋งเป็นนักร้อง กลับรักษาชื่อเสียงและความนิยมเอาไว้ได้ แม้จะไม่เท่าเดิมแต่ก็ยังออกเดินทางไปต่อได้ ออกไปปรากฏตัวเล่นคอนเสิร์ตเกือบทุกคืน เป็นวงระดับ Headline ในหลายเทศกาลดนตรี เพลงใหม่มียอดวิวในยูทูบหลักล้านวิวขึ้น และมีแฟนคลับหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก 

Big Ass สมัย แด๊ก ยังเป็นนักร้อง

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ Big Ass ยังใช้คนเขียนเพลงคนเดิมนั่นคือ “กบ-ขจรเดช พรมรักษา” มือกลองประจำวง หากสังเกตดูจะพบว่าเพลงฮิตของ Big Ass ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน เช่น ทางผ่าน, เล่นของสูง, คนไม่เอาถ่าน, เกิดมาแค่รักกัน, ปลุกใจเสือป่า, ข้าน้อยสมควรตาย ฯลฯ มาจากลายมือของ “พี่กบ” ทั้งสิ้น (มีบางเพลงที่ให้ทีมงานและเพื่อนสนิทมาช่วยกันเขียน) พอเปลี่ยนนักร้องใหม่ พวกเขาก็ยังสร้างเพลงฮิตได้อีกเหมือนเดิมทั้ง แดนเนรมิต, เท่าที่มี, ลมเปลี่ยนทิศ, บินเข้ากองไฟ, เพลงรักของคนแพ้ และล่าสุด ฆ่าคนด้วยมือเปล่า ราวกับคนเขียนเพลงคนนี้จะรู้ใจว่าแฟนเพลงของพวกเขาชอบฟังอะไร (แม้จะโดนแฟนคลับสายร็อกส่งเสียงไม่ปลื้มเพราะวงทำเพลงป๊อปขึ้นเยอะมากก็ตาม)

เรียกได้ว่า Big Ass โชคดีที่มีคนกุมบังเหียนทำเพลงที่แข็งแรงและมีทิศทางที่ชัดเจน แม้จะเปลี่ยนคนร้องนำแต่วงก็ยังไปต่อและอยู่ในวงการเพลงกระแสหลักในตอนนี้

ไม่มีวงไหนอยากเปลี่ยนนักร้องนำ

วงดนตรีที่ประสบความสำเร็จครองใจแฟนเพลง ไม่ว่าจะเป็นวงไทยหรือต่างประเทศ ล้วนไม่อยากเปลี่ยนนักร้องนำทั้งสิ้นหากไม่มีเรื่องจำเป็น เพราะนั่นหมายถึงการทำลายฐานแฟนเพลง ประหนึ่งทำ “ฮาราคีรี” วงตัวเอง โดยเฉพาะวงการดนตรีเมืองไทยที่ “นักร้องนำ” มีสถานะเป็นหน้าตาของวงและมีชื่อเสียงมากที่สุด ถึงจะแยกตัวออกไปทำอย่างอื่นคนฟังเพลงก็ยังคงจดจำนักร้องได้มากกว่านักดนตรีที่อยู่ในวงเดียวกันอยู่ดี ซึ่งเป็นความจริงที่โหดร้าย

ดังจะเห็นได้จากคอมเมนต์ทางโซเชียลมีเดีย เมื่อเวลาพูดถึง Silly Fools หรือ Big Ass แฟนคลับทุกคนก็ยังส่งเสียงเรียกร้องให้วงไปดึงนักร้องคนเก่ากลับมาอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าพี่เขาจะ Move On กันไปหลายปีแสงแล้ว หรือโคตรจะเป็นเรื่องยากเลยก็ตาม (เพราะเอาจริงทั้งสองวง ดูเหมือนจะยุติความสัมพันธ์กับนักร้องนำคนเก่าไปแบบไม่ค่อยดีนัก)

กบ-ขจรเดช พรมรักษา มือกลองของ Big Ass เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าการเปลี่ยนนักร้องคือ “สิ่งที่โง่ที่สุดที่วงดนตรีจะทำ” เพราะมันคาดเดาไม่ได้เลยว่าเปลี่ยนแล้วจะเจ๋งหรือเจ๊ง ถ้าวงยังดังเหมือนเดิมก็เปรียบดั่งคนถูกหวย แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ดีขึ้นก็กู่ไม่กลับ กรณีของ Silly Fools ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเองก็คงไม่อยากเปลี่ยนนักร้องนำอย่างแน่นอนในวันที่วงเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของวงการดนตรี ชนิดที่ว่าผับไหนอยากได้ SF ไปเล่นถึงขั้นต้องจับฉลากต่อคิวกัน แต่ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ก็ต้องยอมรับกันไป

เปลี่ยนเป็น เจ๋ง แต่วงก็ยังไปต่อได้

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมสำหรับวงทั้งสองคือ Silly Fools และ Big Ass เลือกที่จะทิ้งอดีตอันเรืองรองไว้ข้างหลังแล้วเดินหน้าสร้างผลงานกันต่อในฐานะ “ศิลปิน” ที่ต้องทำงานต่อไปจนกว่าจะถึงวันเกษียนอายุ รายของ SF ปัจจุบันอยู่สังกัด ME Records ปล่อยเพลงใหม่โดยมี ริม-กฤษณะ ปานดอนลาน เป็นผู้ถ่ายทอดเสียงร้อง ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ ต้น และ หรั่ง ก็ดูชัดเจนว่าพวกเขามีความสุขดีแล้วกับการทำวง SF และชีวิตนักดนตรีในปัจจุบัน ส่วน โต นักร้องคนเก่าก็อยู่กับครอบครัว ทำงานด้านศาสนาและเป็นพ่อค้าขายเนื้อวัวอย่างมีความสุข โดยไม่คิดถึงดนตรีที่เขามองว่าเป็นสิ่งที่ทำลายสติมนุษย์ ตามความเชื่อของเขา

เช่นเดียวกับ Big Ass ที่วงยังคงไปต่อกับนักร้องนำคนปัจจุบัน เจ๋ง-เดชา โคนาโล ทำเพลงกับค่าย genie records โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องที่อยากให้ดึงนักร้องนำคนเก่ากลับมา ส่วน แด๊กเลือกแล้วที่จะทำในสิ่งที่เขารักนั่นคือขับขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวไปกับผองเพื่อนในรายการ Rock Rider รวมถึงออกผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยว ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตร้องเพลงให้แฟนเพลงรุ่นเก่าหายคิดถึงกันบ้างตามโอกาสต่างๆ

ส่วนแฟนเพลงของทั้งสองวง จะเลือกเดินทางไปต่อกับพวกเขา  ให้กำลังใจศิลปินที่ตัวเองรักตลอดไปโดยไม่มีวันทิ้งไปไหน / หรือเลือกที่จะอยู่กับความทรงจำที่งดงามตอนที่นักร้องคนเก่ายังอยู่ต่อไป – ลองเลือกกันดูว่าจะไปทางไหน

Tags: ,