นานๆ ทีเราจะเจอร้านที่ขายแต่เหล้าบ๊วย และ SHUU SHUU ก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมตอนนี้ยังเป็นสถานที่ที่หลายคนตามหาอีกต่างหาก
ร้านนี้เพิ่งเปิดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ถูกระบุตัวตนว่าเป็น hidden place แต่ก็ไม่ได้ลับขนาดจะหาไม่เจอ เราเดินจากตลาดน้อย เลี้ยวเข้าสู่ถนนทรงวาดที่เงียบเชียบ พบแมวยามค่ำคืนหลายตัวเดินผ่านโดยไม่ได้ทักทายกัน เดินเพลินๆ สักพักก็เจอตรอกเล็กทางด้านขวาที่พอจะเห็นแสงสีชมพูบางๆ ออกมาจากด้านใน—ร้าน SHUU SHUU ตั้งอยู่ในนั้น
ตึกแถวสเกลเล็กจิ๋วแห่งนี้มีหลายคาแรกเตอร์ในพื้นที่เดียว ในตอนกลางวันจะออกแมนๆ เป็นคาเฟ่ปูนเปลือยในชื่อ Pieces café & bed ที่ด้านบนเป็นโฮสเทลน่านอนพัก แต่ตกกลางคืนวันศุกร์-เสาร์ มันจะกลายร่างเป็นหญิงสาวน่ารักปนทะลึ่ง เห็นคาแรกเตอร์ได้ชัดจากป้ายนีออนรูปเจ้าลูกพลัมเอานิ้วจรดปากคล้ายจะบอกกับเราว่า จุ๊ๆ อย่าส่งเสียงดัง แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนรูปคนเอานิ้วจิ้มตูด!
ภายในร้าน สองสาวในชุดนักดับเพลิงสีชมพูฮ็อตพิงค์ กำลังง่วนตักเหล้าบ๊วยใส่แก้วให้พวกเรา พวกเธอคือ พิมพ์-ชโลชา นิลธรรมชาติ เจ้าของร้าน Nahim Cafe และ เหมียว-ปิยาภา วิเชียรสาร อดีตกราฟิกดีไซเนอร์แห่ง Greyhound ผู้เป็นเจ้าของ Pieces café & bed ที่คราวนี้มารวมตัวกันเปิดร้านเหล้าบ๊วยซึ่งเริ่มจากการคุยกันเล่นๆ แล้วกลายเป็นจริงจัง และลงมือทำทั้งหมดกันเองตั้งแต่โลโก้ยันแบรนดิ้งจนเสร็จภายในไม่ถึงสิบวัน
“เมื่อก่อนเราจะชอบดื่มเบียร์กัน แต่พออายุใกล้สามสิบก็พบว่ามันเริ่มอืดๆ พอลองเปลี่ยนมาเป็นไวน์ก็พบว่าการแฮงค์ไวน์มันไม่โอเค จนได้รู้จักเหล้าบ๊วยนี่แหละ กลิ่นหอม กินง่าย ดูเป็นมิตร แล้วเราว่ามันมีเสน่ห์ทุกตัวเลย มีส่วนผสมต่างๆ เต็มไปหมด ทั้งยูสุ หรือดอกไม้อื่นๆ ให้ทำความรู้จักเรื่อยๆ”
ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงตั้งใจขายแต่เหล้าบ๊วย โดยมีให้เลือกดื่มทั้งแบบออนเดอะร็อก (น้ำแข็งในแก้วจะเป็นทรงกลมไม่ก็ลูกบาศก์—น่ารัก) และแบบผสมโซดา ส่วนเหล้าบ๊วยมีให้เลือกห้าสูตร ภายใต้ชื่อเป็นหมายเลขที่มีความหมายในตัวเอง ในเมนูมีระบุระดับความหวานและปริมาณแอลกอฮอล์ให้เสร็จสรรพ แต่ถ้าต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สองสาวก็พร้อมจะส่งยิ้มและเล่าให้ฟังกันทีละตัว
101
SHUUSHUU’s choice
“ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้น สำหรับคนที่อยากลองทำความรู้จักกับเหล้าบ๊วย หรือคนที่อยากทานยาวๆ เราก็จะแนะนำตัวนี้ให้ก่อน” พิมพ์เล่าอย่างนั้น และเมื่อเราลองชิมก็รู้สึกว่ามันหวานจ๋อยแบบที่คนชอบของหวานจะต้องปลื้มแน่ๆ แต่เราเชื่อว่าหลายคนคงไม่หยุดแค่นั้น เพราะตัวอื่นก็มีไม้เด็ดที่พลาดไม่ได้
420
Kishu Monogatari
“ตัวนี้แอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นมาจากตัวแรกเยอะเลย จาก 8% เป็น 14% เป็นตัวที่ก็ยังทานง่าย แต่เมาอยู่เหมือนกัน แล้วตัวเลขนี้คือวันกัญชาโลก ซึ่งเราคิดว่ามันเหมาะกับตัวนี้ดี” —นั่นล่ะ ฟังจากที่มาก็น่าจะจินตนาการได้ว่าถ้าอยากดื่มชิลล์เพลินๆ แต่ได้ความเมาไปแบบไม่รู้ตัว หมายเลขนี้น่าจะเหมาะกับคุณ และรสชาติก็เข้มขึ้นมาจากตัวแรกอีกนิดหน่อย ให้อารมณ์คืนวันศุกร์ดีชะมัด
214
Kotsuzumi Baishinshunju
“เป็นตัวที่พวกเรากินเข้าไปครั้งแรกแล้วหันมามองหน้ากันเลย คือชอบมาก เลยยกเลขที่บ้านหลังนี้ให้เป็นชื่อของมัน สีขุ่นที่สุดในบรรดาทั้งหมด มีเนื้อบ๊วยอยู่ข้างในด้วย” เหมียวเล่าอย่างนั้น และสำหรับเราเอง ตัวนี้กลิ่นบ๊วยค่อนข้างชัด หวานยิ่งกว่าตัวแรก หวานสุดในบรรดาทั้งหมด แต่ก็เข้มกว่าด้วย เลยทำให้กินได้นานกว่า
1543
Plumtonic Baishin
“นี่เป็นเบอร์กรมทางหลวง ตัวนี้จะแอลกอฮอล์แรงสุดในร้าน ใครที่ขอหนักๆ เราก็จะแนะนำแก้วนี้แหละ” และก็ไม่ต้องพูดมาก ด้วยแอลกอฮอล์ที่ฟาดไปถึง 18% สมชื่อโทนิค ทำให้กลิ่นและรสเข้มโดดออกมาจากแก้วอื่น ความเมาก็เช่นกัน
888
Miyoshino No Sakura
“สาวเบอร์ตองของร้าน ก็จะแพงหน่อย ซึ่งเราเปลี่ยนมาครั้งหนึ่ง คราวที่แล้วเป็นตัวยูซุ ตอนนี้เราสลับมาเป็นตัวนี้แทน” แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าควรลิ้มลอง ตัวนี้มีส่วนผสมของมิโยชิโนะ ซากุระจากเขตนาระ ความหวานใกล้เคียงตัวแรก ปริมาณแอลกอฮอล์ก็เท่ากัน แต่เราพบว่าชอบแก้วนี้กว่ามาก กลมกล่อมสมกับที่ถูกยกให้เป็นสาวเบอร์ตอง
ความที่ทั้งร้านมีเหล้าบ๊วยเพียงห้าสูตร ดูเหมือนจะน้อยนิด แต่นี่คือความตั้งใจของพิมพ์และเหมียวอย่างที่พวกเธอเล่าว่า “เราไม่ได้มองว่าร้านเรารู้จักเหล้าบ๊วยขนาดนั้นนะ เราแค่เลือกตัวที่เราชอบมาให้ลูกค้าทาน อยากให้สนุกกับการทานแอลกอฮอล์ภายใต้หมายเลขที่เราตั้งขึ้นมา”
ผลออกมาก็เป็นอย่างที่ทั้งคู่ตั้งใจ และแม้จะเปิดได้ไม่นานแต่ผู้คนก็พร้อมใจกันพุ่งมาที่นี่ ขณะที่โลเคชั่นของมันก็ทำให้บรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ดีทีเดียว
ในตรอกเล็กๆ ที่ทุกบ้านเตรียมนอนกันหมดแล้ว ชาวเหล้าบ๊วยยังตื่นอยู่ เหล่าคนที่ล้นออกมานอกร้านก็นั่งกันตามม้านั่งเล็กๆ เลยไปถึงฟุตปาธแคบๆ ของคูหาข้างๆ ที่แม้จะพ้นจากรัศมีแสงสีชมพูไปแล้วก็ยังดูเป็นมิตรอยู่ดี ไม่รู้ทำไม นานๆ ทีก็จะมีรถมอเตอร์ไซค์ขับผ่านเข้ามาในตรอกบ้าง แต่ทุกคนดูก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ไม่มีอะไรให้อึดอัด แถมในวันที่เราไปถึง บรรดาลูกค้าก็คล้อยตามเจ้าโลโก้ลูกพลัมด้วยการคุยกันเงียบๆ ไม่ส่งเสียงดัง เป็นมิตรต่อชาวบ้านชาวช่อง ส่วนในร้านมีเพลงคลอๆ ในเสียงดังกำลังดี เพลย์ลิสต์ที่นี่ก็เยี่ยมยอด
จิบเหล้าบ๊วยพอกรึ่มๆ เสร็จแล้วเดินทะลุตรอกซอกซอยไปอีกนิดเดียว ไม่ทันเหนื่อยก็จะถึงเยาวราช ทานรอบดึกกันตามใจชอบ เป็นอันว่าจบวันที่ดี
Fact Box
SHUU SHUU เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์และเสาร์เวลา 19.00-23.00 หรือบางสัปดาห์ก็จะตามใจเจ้าของหน่อยๆ ด้วยการเปิดแค่วันเดียว
ทางที่ดี เช็กให้ชัวร์ที่ IG: shuushuu.hiddenplace หรือโทร 089-783-3099 จะได้ไม่นก