วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเตือนทรัมป์ โหวตระงับการสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการก่อสงครามในเยเมน และเห็นชอบมติประณามมกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบียในกรณีการเสียชีวิตของจามาล คาช็อกกิ

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาลงมติด้วยคะแนนเสียง 56 ต่อ 41 ให้ระงับการสนับสนุนทางการทหารแก่ซาอุดีอาระเบียในสงครามเยเมน โดยมีส.ว.จากพรรครีพับลิกันร่วมลงคะแนนกับพรรคเดโมแครตด้วย

ประเด็นนี้เคยตกไปในการเสนอเมื่อเดือนมีนาคม แต่ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากการเสียชีวิตของจามาล คาช็อกกิเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2018 และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปีที่สภาคองเกรสเห็นชอบให้ถอนทหารสหรัฐออกจากความขัดแย้งทางการทหาร ภายใต้กฎหมายที่ให้ประธานาธิบดีต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาในการใช้กําลังทหารอเมริกันต่อสู้นอกประเทศ (War Powers Resolution)

อย่างไรก็ตาม การลงมติเรียกร้องให้ทรัมป์ถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากเยเมน (ยกเว้นกรณีการต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง) เป็นความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์มากกว่าจะเป็นกฎหมาย เพื่อส่งข้อความถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมักแสดงการสนับสนุนรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

มติของวุฒิสมาชิกเป็นก้าวสำคัญในการตรวจสอบการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารในการทำสงคราม อย่างไรก็ตาม การยุติการสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในเยเมนยังมีหนทางอีกยาวไกล เพราะเรื่องต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังไม่มีกำหนดพิจารณาเรื่องนี้ในปี 2018 นี้

แต่ผลการลงมติของวุฒิสมาชิก 56-41 ชี้ให้เห็นว่า วุฒิสมาชิกจะยังผลักดันเรื่องนี้ในการประชุมสภาคองเกรสครั้งต่อไป ซึ่งตอนนั้นอาจจะได้รีบเสียงสนับสนุนจากส.ส.ซึ่งพรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากแล้ว  วุฒิสมาชิกแซนเดอร์คาดว่ามตินี้จะเป็นผลในเดือนมกราคม เมื่อพรรคเดโมแครตมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นผลจากการเลือกตั้งกลางเทอมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีการลงมติเห็นชอบให้ประณามการสังหารคาช็อกกิ นักข่าวซาอุดีอาระเบียที่ถูกสังหารในสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียที่ตุรกี โดยระบุว่า มกุฏราชกุมารฯ ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ทรัมป์หลีกเลี่ยงที่จะกล่าวโทษมกุฏราชกุมารฯ และบอกด้วยว่า สหรัฐฯ ยังเป็นคู่ค้าที่มั่นคงกับซาอุดีอาระเบีย

เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ส.ว.อิสระซึ่งลงมติเห็นชอบกล่าวว่า การลงมติเรื่องเยเมนเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ “วันนี้เราจะบอกกับรัฐบาลเผด็จการของซาอุดีอาระเบียว่า เราจะเป็นส่วนหนี่งของกิจกรรมทางทหารของพวกเขา”

การลงมติครั้งนี้มีขึ้นพร้อมกับที่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติประกาศเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมว่า คู่ต่อสู้ในสงครามเยเมนตกลงร่วมกันว่าจะยุติการโจมตีและถอนทหารออกจากเมืองอัลฮูเดดะห์ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญที่อยู่ติดทะเลแดง

เยเมนเป็นหนึ่งในประเทศอาหรับที่ยากจนที่สุด ตั้งแต่ปี 2014 มีการแย่งชิงอำนาจระหว่างรัฐบาลที่ลี้ภัยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบียและกลุ่มกบฏฮูธี (Houthi)

องค์กร Save the Children ประมาณว่า มีเด็กอายุต่ำ 5 ปี 85,000 คน เสียชีวิตในเยเมน ตั้งแต่เกิดสงคราม

 

ที่มา:

Tags: , , , ,