ท่ามกลางตึกสูงระฟ้าของกรุงเทพมหานคร ในบรรดาคอร์สอบรมสัมมนาที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือองค์กรที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ ที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง ที่จะตอบโจทย์แก่ผู้ที่กำลังมองหาทั้งองค์ความรู้และสถานที่สำหรับการลับคมความคิด สร้างแรงบันดาลใจเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รุนแรงและรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา
ศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงแห่งนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่ใหญ่กว่า 4,550 ตารางเมตร จำนวน 3 ชั้น ณ อาคารสำนักงานเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center) สวยงาม ทันสมัย ครบวงจร จัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวประกอบไปด้วยห้องเรียน ห้องประชุม ห้องสัมมนา และพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการทำงานร่วมกันของผู้นำองค์กรต่างๆ และพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากร ภายใต้ความเชื่อที่ว่า บรรยากาศภายในศูนย์จะสามารถสร้าง Learning Ecosytem หรือสังคมแห่งการเรียนรู้ & Learning Experience หรือประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพเพื่อการเรียนรู้ไม่น้อยไปกว่าตำราหรือโครงสร้างหลักสูตร
แต่ละชั้นของ SEAC ออกแบบโดยคำนึงถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สบายตา แต่เต็มไปด้วยพลังที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น ชั้นที่ 1 เรียกว่าเป็น The Hub ตกแต่งด้วยบรรยากาศอบอุ่นในสีโทนร้อน เปิดต้อนรับทุกคนให้เข้ามานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชั้นที่ 2 Center for Innovation and Leadership มีห้อง The Capital ซึ่งเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ รองรับจำนวนคนได้มากถึง 180 คน โทนสีของชั้นนี้เน้นความสดใส สร้างความตื่นตัวให้เกิดความรู้สึกที่อยากจะเรียนรู้ และชั้นที่ 3 Center for Executive Education เป็นชั้นที่มีจำนวนห้องสำหรับอบรมและห้องประชุมย่อยมากที่สุด ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อผู้นำและผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ ค่อนข้างหรูหราและสะดวกสบาย ทั้งในแง่ของพื้นที่ใช้สอยและการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ
จุดเด่นของห้องอบรม ห้องประชุม และพื้นที่ต่างๆ ของ SEAC หรือศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงแห่งนี้ คือทุกตารางเมตรสามารถจัดสรรกิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งพฤติกรรม ความชอบ และจำนวนผู้ใช้งาน ที่สำคัญ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เทคโนโลยีทุกประเภท วัสดุทุกอย่าง ผ่านกระบวนการคิดและได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งานเพื่อการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ผนัง กำแพง ประตูที่สามารถปรับเปลี่ยนมาเป็นอุปกรณ์ช่วยประชุม เช่น ประตูกระจกสามารถใช้เป็นบอร์ดจดบันทึก ผนังห้องบุผ้าใช้ปักหมุดกระดาษนำเสนอไอเดีย เป็นต้น ทุกรายละเอียดคือความใส่ใจที่ SEAC เลือกและให้ความสำคัญ
นอกเหนือจากสถานที่และบรรยากาศที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมแก่การเป็นศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูงที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในอาเซียนแล้วนั้น หลักสูตรและคอร์สอบรมต่างๆ ก็ออกแบบให้ผู้เรียน ซึ่งมีทั้งผู้นำ ผู้บริหารองค์กรต่างๆ มีโอกาสศึกษาเรียนรู้อย่างใกล้ชิดกับนักคิดทางธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสถาบันระดับโลก ผ่านโปรแกรมการเรียนการสอนที่ออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะสมและสอดคล้องในแต่ละธุรกิจ โดยได้รับเอกสิทธิ์ Exclusive Partnership จากสถาบันการศึกษาและการฝึกอบรมชั้นนำของโลก อย่างมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สถาบันอาร์บิงเจอร์ สถาบันเคน บลานชาร์ด เป็นต้น
SEAC ให้บริการใน 4 ด้านหลักๆ ได้แก่ หนึ่ง การพัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูง เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จผ่านโปรแกรมการเรียนการสอนต่างๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนวทางและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด สอง การทำวิจัยทางวิชาการ เพื่อเป็นกลไกขยายผลความรู้จากการวิจัยในโจทย์ปัญหาของหลากหลายธุรกิจทั่วโลก ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดหลักการคิดต่างๆ และเป็นประโยชน์สำหรับทุกภาคส่วน สาม การให้บริการที่ปรึกษา เพื่อนำเสนอแนวทางพัฒนาและแก้ปัญหาประเด็นธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะของแต่ละองค์กร และสี่การเปิดพื้นที่เพื่อการเรียนรู้และพัฒนา สำหรับให้บุคคลและองค์กรภายนอกได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้โดยใช้ศูนย์ SEAC เป็นจุดเชื่อมต่อในการทำงาน การประชุมอบรม สัมมนา และจัดกิจกรรมต่างๆ สู่การต่อยอดไอเดียในการเรียนรู้และการทำงานให้กว้างขวางออกไปไม่สิ้นสุด
เบื้องหลังการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและศูนย์พัฒนาผู้นำระดับสูงนั้น ประกอบด้วยทีมงานที่ปรึกษา ผู้อบรม และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพองค์กรและทรัพยากรมนุษย์มากกว่า 50 ท่าน ซึ่งทุกคนต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและแนวความคิดทางด้านธุรกิจใหม่ๆ ที่พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะต่างๆ ให้แก่ผู้บริหารยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตนเองและองค์กร
หลักสูตรของ SEAC ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำของประเทศมีมากมาย ตัวอย่างเช่น หนึ่ง “Leading in a Disruptive World” (LDW) หรือโปรแกรมเจาะลึกด้านนวัตกรรมและการดำเนินธุรกิจในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ผู้เข้าร่วมจะได้เดินทางไปศึกษาและดูงานยังซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์รวมสำนักงานใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ซึ่งดำเนินการมาแล้วรวม 2 รุ่น สอง “Leading Innovation with DESIGN THINKING” (DESIGN THINKING) หรือโปรแกรมพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัยด้วยการคิดเชิงแก้ปัญหา ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เน้นการส่งเสริมกระบวนการคิด เฟ้นหากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อใช้แก้ปัญหาและสร้างสรรค์นวัตกรรม ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้รับบริการได้สูงสุด และสาม “Outward Mindset” การปรับมุมคิดด้วยการยึดความต้องการของผู้อื่นเป็นที่ตั้ง โดยเป็นการจัดโปรแกรมให้แก่บุคลากรภายในองค์กรต่างๆ เน้นการปรับความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมต่างๆ ปรับเปลี่ยนมุมมองในการมองโลก และปลดล็อกศักยภาพของบุคลากรในองค์กร
นอกเหนือจาก SEAC จะเป็นสถานที่ที่ได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับลูกค้าในการเข้ามาอบรม สัมมนาหลักสูตรต่างๆ แล้วนั้น ภายใต้ความเป็นองค์กร SEAC เองก็ได้มีการจัดสรรพื้นที่สำนักงาน SEAC ให้ทันสมัย น่าอยู่ และเต็มไปด้วยพื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ แบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนทำงานซึ่งเปิดโล่งทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด มีโซนครัว สำหรับรับประทานอาหาร หรือปรุงอาหารเล็กๆ น้อยๆ ห้องนันทนาการ มีโต๊ะปิงปอง กีตาร์ โซฟาเบดสำหรับพักผ่อน หรือแม้กระทั่งมีเตียงนอนสำหรับพนักงานที่อาจรู้สึกเหนื่อยล้าและต้องการชาร์จพลัง เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบโดยยึดหลักการทำงานที่ต้องมีความสุขไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญ คือเพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน SEAC ให้เกิดขึ้นจะได้พร้อมเดินเคียงข้างลูกค้าไปสู่เป้าหมายเดียวกันอย่างยั่งยืนต่อไป
Fact Box
- SEAC พัฒนาต่อยอดจากประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรและบุคลากรมาตลอด 25 ปีของบริษัท เอพีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535
- วิสัยทัศน์องค์กรคือ เป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้นำด้านการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการพัฒนาผู้นำองค์กรและผู้บริหารระดับสูง สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้นำ และช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
- กลุ่มธุรกิจชั้นนำในเมืองไทยที่ SEAC ได้รับความไว้วางใจในการเข้ามาพัฒนาจนประสบความสำเร็จไปแล้วมากกว่า 200 ราย ได้แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ. ธนาคารกสิกรไทย, บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ. ธนาคารกรุงไทย, บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ. เอพี (ไทยแลนด์), บมจ. เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป, บมจ. สมิติเวช, บจ. ฟู้ดแพชชั่น เป็นต้น