เมื่ออายุ 21 ปี หรือในปี 1953 ฮอว์กิงในวัยหนุ่มได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม (motor neuron disease) และขณะนั้นคาดว่าจะมีชีวิตได้อีกเพียงแค่ 2 ปี
แต่เขาก็มีชีวิตเรื่อยมาจนกระทั่งเช้าวันนี้ (14 มี.ค.) ผ่านร้อนผ่านหนาวจนในวัย 76 ปี ฮอว์กิงเสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านในเคมบริดจ์
แม้ว่าชีวิตเขาจะต้องอาศัยการสื่อสารผ่านเครื่องสังเคราะห์เสียงและนั่งรถเข็น แต่ฮอว์กิงสามารถเขียนหนังสือ ‘ประวัติย่อของกาลเวลา’ ซึ่งป็นคู่มือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจักรวาลวิทยา
สำหรับคนทั่วไปได้สำเร็จในปี 1988 หนังสือมียอดจำหน่ายมากกว่า 10 ล้านเล่ม แต่ผู้เขียนเองก็ตระหนักว่าใครๆ กล่าวแซ็วหนังสือเบสเซลเลอร์นี้ว่าเป็น “หนังสือยอดนิยมที่สุดที่ไม่มีใครอ่าน”
แต่เพราะ “ทฤษฎีสรรพสิ่ง” (Theory of Everything) ของเขานี่เองที่น่าดึงดูดใจมากที่สุด เขาเสนอว่าเอกภพดำเนินไปด้วยกฎต่างๆ
“ชุดของกฎเหล่านี้จะสามารถตอบคำถามต่างๆ อย่างคำถามว่า จักรวาลเริ่มต้นขึ้นอย่างไร มันกำลังไปทางไหน และจะมีจุดสิ้นสุดหรือไม่ และถ้ามี มันจะสิ้นสุดอย่างไร”
เรื่องราวชีวิตของเขาได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ในชื่อ Theory of Everything (2014) นำแสดงโดยเอดดี เรดเมน และตัวเขาเองเคยเป็นนักแสดงรับเชิญในซิตคอมอเมริกันชวนหัวเรื่อง Big Bang Theory เข้าฉากกับตัวละครดังอย่างเชลดอน คูเปอร์ (Sheldon Cooper)
ที่มา:
- http://www.nytimes.com/2004/12/12/magazine/the-science-of-secondguessing.html
- http://www.bbc.com/news/science-environment-15555565
- http://www.bbc.com/news/uk-43396008
- https://www.theguardian.com/science/2018/mar/14/stephen-hawking-professor-dies-aged-76
