เฟรดดี ครูเกอร์ (Freddy Krueger) แห่งภาพยนตร์ A Nightmare on Elm Street (1984) เป็นตัวละครที่ทุกคนนึกถึงทุกครั้งเมื่อใกล้วันฮาโลวีน
ตามท้องเรื่อง เฟรดดีเป็นอดีตคนทำงานในโรงเรียน เขาคอยลักพาตัวและฆ่าเด็กเล็กจำนวนมากในเมืองสมมติที่ชื่อ สปริงวูด รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากถูกจับแต่รอดคดี เพราะข้อผิดพลาดทางกฎหมาย พ่อแม่ของเหยื่อจึงรวมตัวไปเผาเฟรดดีทั้งเป็นในหม้อไอน้ำ
ทว่าวิญญาณของเฟรดดีไม่ยอมตาย เมื่อถูกเผาทั้งเป็น เขากลับได้รับพลัง ‘ปีศาจแห่งฝันร้าย’ คอยฆ่าผู้คนในความฝันของลูกหลานคนที่ฆ่าเฟรดดี
รูปลักษณ์ภายนอกของเฟรดดีคือ คนใส่เสื้อสเวตเตอร์สีแดง-เขียว สวมหมวกทรงกว้าง และมีถุงมือใบมีดโลหะ คนไทยรู้จักเฟรดดีในชื่อไทยว่า ‘นิ้วเขมือบ’ และคอยหลอกหลอนผู้คนมาตั้งแต่ปี 1984 จนถึงวันนี้
กระนั้นเองเรื่องที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ เจ้านิ้วเขมือบมีที่มาเริ่มต้นจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในกัมพูชา
เวส คราเวน (Wes Craven) ผู้กำกับ เริ่มต้นเล่าถึงแรงบันดาลใจว่า ในเวลานั้นจากข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times เป็นบทความว่าด้วยครอบครัวหนึ่งที่หนีภัยจากสงครามทุ่งสังหารในกัมพูชามายังสหรัฐฯ
ครอบครัวซึ่งประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก ตอนแรกก็ดูเหมือนจะมีความสุขดีที่หนีจากประเทศต้นทางที่กำลังป่นปี้ได้สำเร็จ ปรากฏว่าวันหนึ่ง เจ้าเด็กน้อยกลับฝันร้ายมากๆ เด็กน้อยบอกกับพ่อแม่ว่า กลัวที่จะนอนหลับ เพราะมีบางสิ่งกำลังไล่ตามเขา ไล่สังหารเขาในความฝัน
อีกคืนต่อมา เด็กน้อยพยายามลืมตาตื่นขึ้นตลอดเวลา แต่เมื่อเด็กน้อยง่วงนอนและนอนหลับอีกรอบ พ่อแม่กลับได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่นในช่วงกลางดึก เมื่อเข้าไปดูอีกทีก็พบว่าลูกน้อยตายแล้ว ตายท่ามกลางฝันร้ายนั่นเอง
ทั้งหมดคือคำให้สัมภาษณ์ของคราเวนในปี 2014 เมื่อย้อนกลับไปมองต้นทางของ A Nightmare on Elm Street
แต่เรื่องราวความเป็นจริงน่าสะพรึงยิ่งกว่านั้น สำนักงานควบคุมโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention) พบว่ามีผู้อพยพจากกัมพูชาจำนวนมากที่เสียชีวิตขณะนอนหลับ และไม่สามารถหาสาเหตุได้
ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย อายุเฉลี่ย 33 ปี ไม่มีโรคประจำตัว และทั้งหมดเสียชีวิตขณะนอนหลับ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่มเรื่อยไปจนถึง 8 โมงเช้า
สิ่งเดียวที่พบคือ หัวใจของเหยื่อมีความเครียดบางอย่าง สาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการมักถูกระบุว่า เป็น ‘ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ’ หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าภาวะนี้ทำให้ผู้ที่มีสุขภาพดีเสียชีวิตกะทันหันขณะนอนหลับได้อย่างไร
ในสหรัฐฯ มีการเรียกผู้ลี้ภัยที่มีอาการนี้ว่า SUNDS อันย่อมาจาก Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome หรือโรคการเสียชีวิตในเวลากลางคืนโดยไม่ทราบสาเหตุ
นั่นทำให้คราเวนสนใจว่า ผู้ที่เสียชีวิตอาจมีประสบการณ์สะเทือนใจร้ายแรง ตามมาจากเหตุการณ์ที่บ้านเกิดในกัมพูชา
แล้วเกิดอะไรขึ้นที่กัมพูชาในเวลานั้น เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปยังปี 1975 หลังจาก พล พต (Pol Pot) นำกองทัพเขมรแดงยึดพนมเปญสำเร็จ พวกเขานำชาวกัมพูชาออกจากพนมเปญไป ‘ทำนา’ ยังชนบท ตั้งชื่อประเทศใหม่ว่า ‘กัมพูชาประชาธิปไตย’ และจะสร้าง ‘สังคมคอมมิวนิสต์บริสุทธิ์’ ด้วยการล้มล้างทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทุนนิยม ศาสนา และการศึกษา
ผลที่ตามมาคือ ประชาชนจำนวนมากที่ถูกมองเป็น ‘ศัตรูของรัฐ’ ถูกสังหาร ปัญญาชน ประชาชนที่สวมแว่น ครู นักเรียน แพทย์ พระ กระทั่งชาวต่างชาติ ก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด หลายพื้นที่ทุ่งนากลายเป็นทุ่งสังหาร ทุ่งที่ใหญ่ที่สุดคือทุ่งสังหารเจืองเอ็ก (ChoeungEk) ใกล้กรุงพนมเปญ
ประมาณการว่า มีผู้เสียชีวิต 1.7-2 ล้านคน ก่อนที่กองทัพเวียดนามจะบุกยึดพนมเปญในปี 1979 แล้วขับไล่เขมรแดงออกไปอยู่ตามแนวชายไทย
ในห้วงเวลานั้นเอง ชาวกัมพูชาจำนวนมากหาทางออกนอกประเทศ เพื่อหลบหลีกจากฝันร้ายที่เกิดขึ้น ค่ายผู้ลี้ภัยจำนวนมากผุดขึ้นตามชายแดนไทย-กัมพูชา บางส่วนอยู่ตรงนั้นไปเรื่อยๆ ขณะที่บางส่วนโชคดีได้ลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3
ประเทศที่ 3 ที่รับผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา-เวียดนาม รวมถึงม้งลาวเป็นจำนวนมากคือ ‘สหรัฐฯ’ หนึ่งในต้นเหตุของสงครามแถบนี้
แต่เมื่อย้ายไปแล้ว ฝันร้ายจากเหตุการณ์จริง ยังหลอกหลอนใครหลายคน รายงานจากหนังสือพิมพ์ Lost Angeles Times เล่าประสบการณ์ ‘ฝันร้าย’ ของชาวกัมพูชา เป็นต้นว่า สุภาพสตรีคนหนึ่งเห็นพี่ชายถูกสังหารต่อหน้าต่อตา จับมัดกับเก้าอี้ ใช้อิฐฟาดหน้า แล้วนำ ‘ตับ’ ออกมาจากร่าง
ขณะที่อีกคนหนึ่งเล่าว่า ลูกชายวัย 2 ขวบของเขาป่วยขณะถูกเขมรแดงคุมตัว ทหารเขมรแดงเห็นว่าเด็กคนนี้ไร้ประโยชน์ จึงจับโยนใส่เก้าอี้ไม้ไผ่และทำให้เด็กหลังหัก อีก 2 วัน เด็กคนนั้นก็เสียชีวิต
เป็นที่รู้กันว่าเขมรแดงห้ามใช้กระสุน เพราะถือว่า ‘สิ้นเปลือง’ ทหารเขมรแดงใช้อาวุธพื้นบ้านทั้ง จอบ เสียม ค้อน เหล็กแหลม ไม้ไผ่ มีด ด้ามปืน ตีที่ท้ายทอยเหยื่อจนเสียชีวิต รวมถึงการใช้ไฟฟ้าช็อต จับเหยื่อแขวนคอหรือ ‘ถอดเล็บ
“เขมรแดงฆ่าคนไม่เพียงเพราะความแค้น แต่เพราะต้องการลบล้าง ‘อดีต’ ของประเทศ” ยุก ฉัง (Youk Chhang) ผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุกัมพูชา เคยให้สัมภาษณ์ไว้
นั่นทำให้เห็นว่าประสบการณ์จริงที่หลายคนเผชิญหน้านั้น รุนแรงและร้ายแรงกว่าในหนังที่ว่าด้วยฆาตกรไล่ฆ่ากลุ่มวัยรุ่นในความฝันเสียอีก
หลังออกฉายในปี 1984 A Nightmare on Elm Street กลายเป็นหนังดังแบบที่ไม่คาดคิด เรื่องของเฟรดดีนิ้วเขมือบถูกสร้างเป็นหนังต่อกันกว่า 9 ภาค
ขณะที่เหตุการณ์ SUNDS หรือการเสียชีวิตขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ ถูกบันทึกไว้อีกครั้งในปี 1990 โดยทางการสิงคโปร์ระบุว่า ในปี 1982-1990 มีคนงานไทยกว่า 230 รายเสียชีวิตจากอาการนี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่อาจเร่งเร้ากระตุ้นให้เกิดอาการ SUNDS อาจเป็นได้ทั้งเรื่องโภชนาการ พันธุกรรม โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน
ในท้ายที่สุด เรื่องราวของเฟรดดีจึงไม่ได้เป็นเพียงตำนานของฆาตกรเหนือจริงในโลกภาพยนตร์ แต่คือภาพสะท้อนของฝันร้ายที่มีอยู่จริง ฝันร้ายของผู้คนที่ผ่านสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และบาดแผลทางใจ
เพราะสำหรับบางคน ‘การหลับตา’ อาจหมายถึงการได้พักผ่อน แต่สำหรับบางคนอาจหมายถึง ‘การไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย’
A Nightmare on Elm Street จึงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในหนัง แต่คือเรื่องโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์มนุษย์ เป็นฝันร้ายที่เริ่มต้นจากกัมพูชา และยังสะท้อนอยู่ในใจคนทั่วโลกมาจนวันนี้
อ้างอิง:
– https://www.museumoflost.com/the-real-life-inspiration-for-nightmare-on-elm-street/
– https://www.latimes.com/archives/la-xpm-1987-06-06-mn-5160-story.html
– https://www.syfy.com/syfy-wire/the-true-stories-that-inspired-a-nightmare-on-elm-street
Tags: เฟรดดี ครูเกอร์, นิ้วเขมือบ, หนัง, กัมพูชา, ประวัติศาสตร์, ฮาโลวีน, ฮาโลวีน 2025, A Nightmare on Elm Street



