ศาลสก็อตแลนด์ไม่รับคำร้องที่ขอให้ศาลบังคับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรต้องปฏิบัติกฎหมาย ว่าในกรณีที่สภายังสรุปข้อตกลงกันไม่ได้ภายใน 19 ตุลาคม ก็ให้ยื่นขอเลื่อนเวลาเบร็กซิตออกไปอีก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเบร็กซิตแบบไร้ข้อตกลง (no deal brexit)

เดล วินซ์ โจ มัฟแฮม และ โจแอนนา เชอร์รี ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลให้เหตุผลว่า คำประกาศของรัฐบาลเชื่อใจไม่ได้ จึงต้องการให้ศาลสูงสุดของสก็อตแลนด์ออกคำสั่งให้จอห์นสันทำตามกฎหมายที่เรียกว่าเบนน์ (Benn act.) ที่สภาเพิ่งลงมติเห็นชอบ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลง

ตามกฎหมายนี้ระบุว่า หากสภายังไม่สามารถลงมติเห็นชอบในข้อตกลงใดๆ ภายในวันที่ 19 ตุลาคม  นายกรัฐมนตรีต้องส่งจดหมายอย่างเป็นทางการต่ออียู เพื่อขอต่อเวลาเบร็กซิตไปอีก ถ้าสมาชิกสภาไม่เห็นด้วยที่จะออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแสดงเอกสารต่อศาลแล้วว่า จอห์นสันจะส่งจดหมายถึงอียู หากข้อตกลงไม่ได้รับการรับรองจากสภาตามกำหนดเวลา

ลอร์ด เพนต์แลนด์ ผู้พิพากษา ตัดสินไม่รับคำร้องและกล่าวว่า รัฐบาลได้ยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไม่มีข้อสงสัย ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงพิจารณาแล้วว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องออกคำสั่งเพื่อบังคับรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี เพราะต้องยอมรับคำประกาศของรัฐบาลเมื่อ 4 ตุลาคมที่ว่า จอห์นสันจะเขียนจดหมายเพื่อขอต่อเวลาออกไปอีกตามกฎหมายเบนน์ ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เพนต์แลนด์เห็นว่า คำประกาศต่อสาธารณะของรัฐบาลถือเป็นการแสดงถึงนโยบายทางการเมือง และชัดว่านายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกมา

หนังสือพิมพ์ดิอินดิเพนเดนท์ เปิดเผยผลสำรวจที่ทำร่วมกับบีเอ็มจีรีเสิร์ช จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,500 คนระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 34% ที่สนับสนุนการออกจากอียูแบบไร้ข้อตกลง ขณะที่อีก 51% ต้องการให้จอห์นสันต่อเวลาออกไป และเรียกร้องให้ทำประชามติใหม่ พวกเขายังเชื่อว่าจอห์นสันควรปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ นายกรัฐมนตรีต้องยื่นคำขอต่ออียูเพื่อต่อเวลาเบร็กซิตหากข้อตกลงใหม่ยังไม่ได้รับการเห็นชอบจากสภา

 

ที่มา:

 

 

ภาพ: REUTERS/Henry Nicholls

Tags: , , ,