วิ่งไล่ลุง

จากการที่กลุ่มนักกิจกรรมในนาม ‘คณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงเพื่อประโยชน์ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนประเทศไทย’ ประกาศจัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า ‘วิ่งไล่ลุง’ เชิญชวนผู้คนตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ผ่านเพจของนักกิจกรรมนักศึกษา ธนวัฒน์ วงค์ไชย หนึ่งในคณะผู้จัดงาน ‘วิ่งไล่ลุง’

โดยในระหว่างนั้น นอกจากจะต้องย้ายสถานที่แถลงข่าวจากโรงแรมรัตนโกสินทร์ มายังบริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แล้ว เส้นทางการวิ่งที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วิ่งผ่านถนนพระอาทิตย์ ถนนพระสุเมรุ ผ่านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วนสามรอบ ขึ้นสะพานผ่านพิภพลีลาศ กลับเข้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระยะทางทั้งสิ้นเกือบ 6 กิโลเมตร ก็ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟแทน หลังจากไม่สามารถใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ได้

แต่ในขณะเดียวกันก็ปรากฏว่ามีการจัดงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ในจังหวัดอื่นๆ ร่วมด้วย รวม 34 จังหวัด 39 จุด ถึงแม้ว่าการจัดงาน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะมีข่าวการกดดันและตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ออกมาเรื่อยๆ เช่น มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่มีการออกแถลงการณ์ ไม่อนุญาตให้จัดงาน หรือมีการเชิญผู้จัดงานในแต่ละจังหวัดเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่บุรีรัมย์ แพร่ ลำปาง พะเยา ฯลฯ  ในขณะที่ที่เชียงรายมีการขอความร่วมมือเลื่อนกิจกรรมดังกล่าวออกไป เนื่องด้วยเส้นทางในวันเวลาดังกล่าวคาบเกี่ยวกับขบวนเสด็จ และอุบลราชธานี ปรากฏเอกสารลงจาก สภ.เมืองอุบลราชธานีสั่งห้ามกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เพราะเกรงว่าจะกีดขวางการสัญจรของประชาชน

แต่เมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียนออนไลน์สองรอบ ปรากฏว่ามียอดผู้ลงทะเบียนกว่าหมื่นคน และในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งมีการแจกเบอร์วิ่งและจำหน่ายเสื้อ ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง ก็ปรากฏว่ามีการแจกเบอร์วิ่งไปแล้วกว่า 1 หมื่นหมายเลข ขณะที่เสื้อวิ่งไล่ลุงจำหน่ายไปแล้วกว่า 7 พันตัว

จนเมื่อถึงวันงาน เช้าตรู่ของวันที่ 12 มกราคม ประชาชนทยอยมายังสวนรถไฟตั้งแต่เช้ามืด แต่งานต้องล่าช้าเล็กน้อยเนื่องด้วยการตรวจรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าตำรวจและเจ้าหน้าที่ของสวนรถไฟ ที่ติดตั้งเครื่องสแกน ตรวจกระเป๋าผู้เข้าร่วมงานอย่างเข้มงวดและสามารถปล่อยให้เข้าสู่บริเวณสวนรถไฟได้ในเวลา 05.00 น.

บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความคึกคัก มีการจัดตั้งเวทีและเครื่องขยายเสียง โดยมีคณะผู้จัดงานเป็นพิธีกรกล่าวต้อนรับประชาชนที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ ป้ายนาฬิกา บริเวณจุดออกตัว ซึ่งมีข้อความว่า ‘เรือนนี้ยืมเพื่อนมา’ แล้ว ปรากฏว่าผู้ที่มาร่วมงานหลายคนมีการนำป้ายสัญลักษณ์และข้อความต่างๆ ติดตัวมาด้วยไม่ว่าจะเป็น ‘พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป’ ‘ลุงตู่ออกไป’ แต่ ก็มีการร้องขอไม่ให้นำเข้ามาในงาน เนื่องด้วยเกรงว่าจะกลายเป็นกิจกรรมการชุมนุมทางการเมือง แต่ถึงอย่างนั้นในบริเวณงานยังพบป้ายสัญลักษณ์และข้อความต่างๆ จากผู้ที่มาร่วมงาน รวมไปถึงสีสันของผู้คนที่มีการแต่งชุดแฟนซีเป็นรถถัง ถือปืนของเล่นโดยที่ปลายปืนเป็นดอกกุหลาบ หรือการแต่งตัวเป็นสไปเดอร์แมนมาร่วมงานอีกด้วย

โดยในงานนี้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และภรรยาเข้าร่วมด้วย รวมไปถึงพรรณิการ์ วานิช รังสิมันต์ โรม และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อีกจำนวนหนึ่ง และยังมีจอห์น วิญญู พิธีกรชื่อดังเข้าร่วมด้วย โดยก่อนการวิ่ง บนเวทีมีการประกาศให้นำนกหวีดกู้ชาติของ กปปส. ขึ้นมาแลกเหรียญปราบกบฏ

ก่อนจะการปล่อยตัวนักวิ่งกลุ่มแรกในเวลา 07.00 น. ระยะทางการวิ่งประมาณ 4 ก.ม. โดยนักวิ่งที่เข้าเส้นชัยคนแรกใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น ธนวัฒน์ วงค์ไชย หนึ่งในคณะผู้จัดงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ประเมินว่ากิจกรรม  ‘วิ่งไล่ลุง’  ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 2 หมื่นคน และจะมีการจัดกิจกรรม  ‘วิ่งไล่ลุง ครั้งที่ 2’  ขึ้นอีกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่

เดินเชียร์ลุง

ไม่นานหลังจากที่มีการประกาศกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ ในวันที่ 3 ธันวาคม ก็มีการประกาศจัดกิจกรรมคู่ขนานในวันเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า ‘เดินเชียร์ลุง’ ซึ่งจัดขึ้นที่สวนลุมพินี แม้ไม่มีการเปิดเผยแกนนำผู้จัดกิจกรรมต่อสาธารณะ แต่ก็ปรากฏกิจกรรมนี้ได้รับการประชาสัมพันธ์หลักจากเพจ ‘เชียร์ลุง’ ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารเกี่ยวกับกิจกรรมตั้งแต่แรกเริ่ม และมีผู้ที่ประกาศตัวสนับสนุนกิจกรรมนี้อย่าง อุ๊-หฤทัย ม่วงบุญศรี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา โดยกำหนดการปล่อยตัวกิจกรรม ‘เดินเชียร์ลุง’ เวลา 09.00 น. ในวันเดียวกันกับกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง’ ถือเป็นกิจกรรมคู่ขนานที่แตกต่างด้วยจุดยืนทางการเมือง

โดยหลังที่เพจ ‘เชียร์ลุง’ เปิดตัวกิจกรรม ‘เดินเชียร์ลุง’ แล้ว ต่อมาก็มีการเปิดตัวเสื้อยืดและหมวกที่ผลิตขึ้นมาสำหรับงานนี้ จำนวน 2,000 ตัว พร้อมเชิญชวนผู้ที่สนใจกิจกรรมร่วมลงทะเบียนผ่านกล่องข้อความในเฟซบุ๊ก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนแต่อย่างใด ต่อมามีการประกาศว่ามีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน

บรรยากาศที่สวนลุมพินีเต็มไปด้วยความคึกคักเช่นเดียวกัน โดยมีผู้มาร่วมกิจกรรมเดินทางมาถึงสวนลุมฯ ตั้งแต่เช้ามืด แม้ว่ากำหนดการนั้นจะเริ่มในเวลา 08.00 น. ก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าสู่บริเวณพื้นที่ในสวนลุมพินีในเวลา 05.30 น. ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีป้ายผ้าโลโก้ของงานถือเป็นริ้วขบวนแล้ว ยังมีขบวนกลอง ขบวนผืนธงชาติไทยขนาดใหญ่ ป้ายข้อความสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง “ถ้าไม่รักลุงแล้ว จะให้ไปรักแมวที่ไหน” “ใครด่าลุง กูด่ากลับ” “ลุงเหนื่อยมั้ยคะ” “พ่อคุณของอีปริก” “อยู่ต่อเลยได้ม๊ะ” “ทูลหัวของบ่าว” และอีกมากมาย การเดินเริ่มขึ้นเวลาประมาณ 9.00 น.โดยในระหว่างการเดินนั้นก็มีการตะโกนร่วมกันว่า “ลุงตู่สู้ๆ” และ “ลุงตู่อยู่ยาว” สลับกันไป

ในงานยังมีมาสคอตรูป พล.อ.ประยุทธ์ และกิจกรรม เขียนข้อความ ‘จดหมายถึงลุง’ ไปติดบนบอร์ดที่มีการเตรียมไว้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมและมีข้อความให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างล้นหลาม ทั้ง “รักลุงตู่ นายกฯ ที่ดีที่สุด” “ขอบคุณลุงตู่ที่อดทน” “ลุงตู่สู้เพื่อชาติและประชาชน” และอีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์อย่างการนำเอารูปผลไม้ทั้งส้ม แตงโม และสตรอว์เบอร์รี่ มาแขวนและใช้ไม้ตีอีกด้วย

โดยในกิจกรรมครั้งนี้มี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ อุ๊-หฤทัย ม่วงศรี และร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม เข้าร่วมด้วย โดยเมื่อเดินครบหนึ่งรอบสวนลุมพินีแล้ว ก็มีการรวมตัวกันถ่ายภาพหมู่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยผู้จัดงาน ‘เดินเชียร์ลุง’  เปิดเผยว่า งานนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 13,000 คน

Tags: , , ,