วันนี้ (21 สิงหาคม 2567) ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปของ อุดม สิทธิวิรัชธรรม ในการบรรยายที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 โดยอุดม ‘หัวเราะ’ กรณีที่พรรคประชาชนสามารถหาเงินบริจาคได้ 20 ล้านบาทภายในวันเดียว ซึ่ง The Momentum ถอดความจากการบรรยายของอุดมเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในการบรรยายตอนหนึ่ง ผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามว่า ‘กระบวนการนิติบัญญัติโดยชอบ’ นั้น คืออะไร อุดมตอบคำถามว่า การแก้ไขกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรนั้นไม่ผิด และศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่า การแก้ไขกฎหมายคือการล้มล้างการปกครอง เพราะเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว หากกระบวนการเป็นไปโดยชอบ แก้ไขถูกต้อง ผ่านออกมาถูกต้อง บังคับใช้เป็นกฎหมายได้ ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่มีคนสงสัยส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กฎหมายนั้นผ่านกระบวนการโดยชอบหรือไม่

“เคยได้ยินเสียบบัตรแทนกันไหม กฎหมายลักหลับ องค์ประชุมไม่ครบ นี่คือกระบวนการทางนิติบัญญัติที่ไม่ชอบ นี่คือหน้าที่เราในการตรวจสอบกระบวนการนิติบัญญัติ ถ้าไม่สงสัยกัน ไม่ส่งมา เราก็ไม่ยุ่ง แต่ถ้ามีคนสงสัย หรือมีคนบางคนขอใช้สิทธิ ซึ่งรัฐธรรมนูญเปิดไว้ ส่งมาถูกต้อง เราก็ต้องทำ

“เขาบอกว่าก็ผมทำในสภาฯ ผ่านในสภาฯ ก็ว่ากันไป ถูกต้อง เราไม่เคยบอกว่าสิ่งที่คุณทำนั้นขัดรัฐธรรมนูญ แต่ที่คุณโดนคือคุณเอานโยบายที่คุณแก้ตรงนั้นมาหาเสียงนะครับ ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบพรรคการเมืองที่ออกระเบียบเกี่ยวกับการหาเสียงนั้นเขาบอกว่า ห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียง ดังนั้น ถามว่านโยบายที่คุณยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามโครงร่างที่คุณเคยเสนอ มันใช้แก้ไขโดยจริงไหม คุณซ่อนอะไรไว้ไหม ไปอ่านเถอะครับ ศาลรัฐธรรมนูญเขียนไว้หมด ตีแผ่ไว้หมด ว่าคุณมีเจตนาซ่อนเร้นอะไร

“อย่างล่าสุด ยุบพรรค บางคนบอกการยุบพรรคไม่เคยเกิดขึ้น มันจะทำให้สถาบันพรรคการเมืองอ่อนแอ จริงเหรอ ยุบสามวัน ตั้งพรรค แถมไม่ใช่ตั้งพรรคใหม่ คุณไปสวมรอย ส่งคนไปฝังอยู่ในพรรคเก่า นี่คือวิธีการที่ดำเนินการพรรคการเมืองโดยสุจริตและชอบธรรมจริงหรือ ใช่ไหม

“ไอ้การที่เราเห็นถึงขนาดนี้ คุณใสซื่อบริสุทธิ์ ทำพรรคการเมืองแบบคนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า บ้านใหญ่ บ้านนู้นบ้านนี่แย่ ผมต้องทำอย่างนี้ ไอ้ที่คุณทำแบบนี้ใช่รึเปล่า พูดอย่างจริงจังเขาเรียกว่ายุทธวิธี พูดอย่างหยาบคือเล่ห์กลอุบาย แล้วถามว่า ในการที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถมองเข้าไปลึกซึ้ง เห็นถึงเบื้องลึกของคุณที่แท้จริง แล้วเราชี้ออกมาเป็นจุดๆๆ ว่า สิ่งที่คุณกำลังทำนี่ ในที่สุด มันไปสู่อะไร มันไม่ใช่การคาดเดา มันเป็นสิ่งที่เห็นแล้ว”

อุดมยังบอกอีกด้วยว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เขียนไว้ชัดเจนว่า มาตรา 49 เป็นไปเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ปกป้องพระมหากษัตริย์โดยตรง เป็นการปกป้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ระบอบประชาธิปไตยมีหลายประเทศ แต่ประเทศเราเอาแบบว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การที่ไปทำอะไรก็ตามมันอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเป็นพระประมุขในระบอบนี้ มันก็ไม่อาจเรียกว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อาจเป็นระบอบประชาธิปไตยระบอบประธานาธิบดี ระบอบพ่อข้าก็เป็น ลูกข้าเป็น น้องเขยข้าเป็นก็ได้”​

ที่มา

https://www.facebook.com/suratthanicity/videos/1496707111218794

Tags: ,