วันนี้ (20 มีนาคม 2025) โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐอเมริกา เตรียมลงนามคำสั่งประธานาธิบดี ยุบกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ หลังส่งสัญญาณปลดข้าราชการ 50% เป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม ย้ำเป็นการ ‘คืน’ โอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กทุกคน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจนำไปสู่ปัญหาครั้งใหม่ระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ
ทั้งนี้ New York Times ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวในทำเนียบขาว 2 คนที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า ทรัมป์เตรียมเซ็นคำสั่งยุบกระทรวงศึกษาธิการ โดยย้ำว่า เป็นการคืนโอกาสทางการศึกษาให้กับพ่อแม่ มลรัฐ และชุมชนต่างๆ เพื่อเข้ามาควบคุมและพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนอย่างเต็มรูปแบบ หลังกระทรวงล้มเหลวในการทำหน้าที่และสูญเสียงบประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอด 46 ปีไปโดยปริยาย
ก่อนหน้านี้ ลินดา แม็กแมน (Linda McMahon) รัฐมนตรีหญิงกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ The David Webb Show ว่า เป้าหมายการบริหารงานของรัฐบาลทรัมป์คือ การสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางด้านการศึกษาในระดับรัฐให้ดีที่สุด โดยอ้างว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้สั่งสอนใคร ทั้งไม่ได้จ้างครู ไม่มีหลักสูตร ไม่มีคณะกรรมการบริหารใดๆ
อันที่จริงความคิดการยุบกระทรวงศึกษาธิการดังไม่ใช่เรื่องใหม่ หากย้อนกลับไปในอดีต พรรครีพับลิกัน (Republican Party) พยายามปิดหน่วยงานดังกล่าวตั้งแต่ทศวรรษ 1980 แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิดดังกล่าวได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ปกครอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ โดยมองว่า โรงเรียนคือแหล่งบ่มเพาะอุดมการณ์หัวก้าวหน้าจนล้นเกิน (Woke) ที่ทำลายสิทธิของผู้ปกครองในการเลี้ยงดู เช่น การเชื่อว่าโรงเรียนล้างสมองให้เด็กกลายเป็นมาร์กซิสต์ หรือการออกนโยบายเอื้อกลุ่มความหลากหลายทางเพศ
ขณะที่ทรัมป์อ้างว่า การมีอยู่ของกระทรวงศึกษาธิการถือเป็นการหลอกลวงประชาชนครั้งใหญ่ เพราะไร้ประโยชน์และเต็มไปด้วยอุดมการณ์เสรีนิยม สะท้อนจากรายงาน Project 2025 เมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ในการปฏิรูปการเมืองสหรัฐฯ ที่ย้ำว่า กระทรวงดังกล่าวมีขนาดใหญ่เกินไป มีคนไม่กี่กลุ่มที่ได้ผลประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตคนประเภท Woke ออกมาในสังคม
อย่างไรก็ตามความพยายามยุบกระทรวงศึกษาธิการ อาจนำมาสู่ปัญหาทางกฎหมายครั้งใหม่ เพราะอำนาจดังกล่าวเป็นของสภาคองเกรส ที่ก่อตั้งกระทรวงผ่านบัญญัติในปี 1979 ในรัฐบาลของ จิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต (Democratic Party) ทำให้เงื่อนไขสำคัญการยุบกระทรวงครั้งนี้คือ ทรัมป์ต้องผ่านกฎหมายและได้รับคะแนนโหวต 60 เสียงขึ้นไป ยังไม่รวมคะแนนจากเดโมแครตอีก 7 เสียง ถือเป็นเงื่อนไขที่เป็นไปได้ยาก แม้พรรครีพับลิกันจะครองคะแนนเสียงในวุฒิสภา คือ 54 ต่อ 47 เสียง เพราะวุฒิสภาฝั่งเดโมแครตไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว
สำหรับท่าทีที่เกิดขึ้น NAACP กลุ่มเคลื่อนไหวออกมาประณามท่าทีรัฐบาลทรัมป์ว่า คำสั่งดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นหายนะสำหรับเด็กอเมริกันนับล้านในชนบทและยากจนที่ต้องพึ่งพาเงินทุนของรัฐ
นอกจากนี้อัยการสูงสุด 20 รัฐยังยื่นฟ้องศาลในบอสตัน หลังรัฐบาลประกาศเลิกจ้างข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 1,300 ราย โดยให้เหตุผลว่า การปลดข้าราชการครั้งนี้ทำให้หน่วยงานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้และละเมิดสิทธิพลเมือง อีกทั้งการกระทำของฝ่ายบริหารครั้งนี้ละเมิดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ถือเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวยืนยันว่า แม้จะยุบกระทรวงศึกษาธิการ แต่เงินทุนสำหรับนักเรียนกลุ่มยากจนและด้อยโอกาสจะไม่หายไป
อ้างอิง
https://edition.cnn.com/2025/03/19/politics/trump-department-of-education/index.html
https://www.nytimes.com/live/2025/03/19/us/trump-news#trump-education-department
https://www.npr.org/2025/03/19/nx-s1-5333861/trump-executive-action-education-department
https://apnews.com/article/trump-education-department-shutdown-b1d25a2e1bdcd24cfde8ad8b655b9843
Tags: Donald Trump, สหรัฐอเมริกา, โดนัลด์ ทรัมป์, การศึกษา, สหรัฐฯ, กระทรวงศึกษาธิการ