‘ทำตามกฎทุกประการ’ พม่าแจงยิงเรือไทยเพราะล้ำเขตแดน ซ้ำอาจเชื่อมโยง ‘กลุ่มต่อต้าน’

วันนี้ (3 ธันวาคม 2024) สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า พลตรี จ่อ มิน ตุน (Zaw Min Tun) โฆษกรัฐบาลทหารพม่า ออกมาให้ข่าวว่า การที่พม่ายิงใส่เรือประมงไทย ขณะออกล้อมอวนจับปลาบริเวณเกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว เพราะเรือประมงเหล่านั้นข้ามเส้นเขตแดนเข้าไปยังพม่า

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อเรือประมงไทย 15 ลำ ถูกยิงบริเวณ 12 ไมล์ทะเล (22 กิโลเมตร) จากเกาะพยาม เมื่อเวลาราว 01.00 น. โดยโฆษกของคณะรัฐประหารพม่าระบุว่าหน่วยลาดตระเวนของกองทัพเรือเมียนมาพบเรือประมงกำลังทำกิจกรรมต้องสงสัยในบริเวณดังกล่าว พร้อมกันนี้ กองทัพเรือได้แจ้งให้ ‘หยุด’ เพื่อตรวจสอบ แต่เรือกลุ่มดังกล่าวพยายามแล่นหนี ทำให้เรือลาดตระเวนของกองทัพเรือพม่าต้องไล่ตาม และยิงใส่ในที่สุด จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทั้งยังมีเรือประมงไทยที่ถูกควบคุมไว้ 1 ลำ 

พลตรีจ่อมินตุนยังระบุด้วยว่า ทหารพม่าทำตามกฎระเบียบในการรับมือกับเรือประมงไทยที่ล้ำเข้ามาในน่านน้ำพม่าทุกประการ พร้อมระบุด้วยว่า อยู่ระหว่างสืบสวนเพิ่มเติมหลังจากพบ ‘วัสดุ’ บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มปฏิวัติบนเรืออวนลากของชาวประมงไทย

ปัจจุบัน ชาวประมงซึ่งเป็นแรงงานพม่าราว 27 คน และชาวไทยอีก 4 คน ยังถูกจับกุมอยู่ในพม่า ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากรัฐบาลไทย ทั้งจาก ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดโดยเร็ว

กรณีนี้ภูมิธรรมยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า กองทัพเมียนมาอาจกระทำการเกินกว่าเหตุ เพราะเรือทั้งหมดไม่ใช่เป็นเรือติดอาวุธ หากแต่เป็นเรือประมง ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธยิงตอบโต้ ขณะเดียวกัน เรื่องเส้นแบ่งทางทะเลก็ยังคงไม่ชัดเจน

ด้าน พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหมไทย กล่าวว่า คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา ได้เตรียมข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่เรื่องเรือ เวลาการเดินทาง จุดที่เรือเดินทางผ่าน ไปจนถึงเหตุปะทะ รายงานไปยังคณะกรรมการฝั่งเมียนมา โดยคาดว่าจะใช้เวลาราว 1-2 วันก่อนประชุมกันที่เกาะสอง และหากการประชุมจัดขึ้นแล้ว ก็อาจปล่อยตัวคนไทยทั้ง 4 คนได้