เมื่อวานนี้ (10 พฤษภาคม 2566) เวลาประมาณ 16.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองกว่า 20 คน นำโดย ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นัดทำกิจกรรม #SAVEหยก เพื่อทวงถามและร้องขอความเป็นธรรม ให้กับ ‘หยก’ เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกจับกุมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งขณะนี้ถูกขังในสถานพินิจบ้านปรานีมาแล้ว 43 วัน ล่าสุดถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมในยามวิกาล ไร้ผู้ปกครองรวมถึงทนายเข้ารับทราบในความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน
กลุ่มผู้ชุมนุมเผยถึงสาเหตุที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมครั้งนี้ว่า เนื่องจากเหลือเวลาอีก 6 วัน จะถึงกำหนดเปิดภาคเรียนวันแรก หลังจากหยุดปิดเทอมช่วงฤดูร้อน หากไม่มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมในความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน หยกจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานพินิจบ้านปรานีในวันดังกล่าว และเข้าเรียนตามกำหนดได้
หลังจากทวงถามและร้องขอไม่เป็นผล ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการจุดธูป มอบของเซ่นไหว้บริเวณบันไดทางขึ้น สน.สำราญราษฎร์ พร้อมนำของเหลวสีแดงลักษณะคล้ายเลือดสาดใส่ศาลพระภูมิ และเทกระจายไปทั่วบริเวณดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า หากตำรวจไม่ออกมาคุยพวกตนจะเป็นฝ่ายขึ้นไปคุยกับตำรวจในอาคารเอง
ต่อมาเวลาประมาณ 18.40 น. กลุ่มมวลชนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองพยายามเข้าไปใน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อพูดคุยและสอบถามเรื่องดังกล่าวกับผู้กำกับการ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อเจรจาหาทางออกเบื้องต้น แต่กลับไร้วี่แววผู้กำกับการ ส่งผลให้การเจรจาไม่เป็นผล ประกอบกับบริเวณหน้า สน.สำราญราษฎร์มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่คุมพื้นที่และควบคุมฝูงชนเข้ามาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน เกิดความไม่พอใจระหว่างทั้งสองฝ่าย มีการด่าทอกันไปมา รวมถึงการทุบกระจกประตูทางเข้าสถานีตำรวจจนแตกเสียหาย และนำของเหลวสีแดงสาดบริเวณโรงพัก พร้อมกับพ่นสีสเปรย์ตามผนังและรถยนต์ จนท้ายที่สุดเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้น ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแกนนำกลุ่มนักกิจกรรมจำนวน 9 คน ซึ่งรวมทั้งตะวันและแบม
ตะวันเล่าให้ทนายฟังว่า ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวในโรงพัก ทางผู้กำกับการได้ชูนิ้วกลางใส่ผู้ถูกจับกุม โดยมีเจ้าหน้าที่ใช้กุญแจห้องขังฟาดไปยังมือของแบมและดึงหัวของตะวัน พร้อมกับพูดจาในเชิงประทุษร้ายและข่มขู่ตลอดเวลา
ในเวลาต่อมาแบมได้ปลดเสื้อผ้าทั้งตัวออกเพื่อแสดงอารยะขัดขืน เนื่องจากเธอและเพื่อนๆ ไม่ได้รับการแจ้งข้อกล่าวหาและเหตุผลในการจับกุม แต่ในระหว่างแสดงออกทางสัญลักษณ์ กลับมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนนำโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายคลิปวีดีโอในช่วงดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิอย่างรุนแรง
ทางด้าน พันตำรวจเอก ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับการ สน.สำราญราษฎร์ เผยถึงความเสียหายข้างต้นว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีทรัพย์สินของราชการเสียหาย เช่น กระจกประตูของสถานีตำรวจแตก 1 บาน รถยนต์ถูกพ่นสีสเปรย์เสียหาย 2 คัน และพื้นที่ในบริเวณโรงพักได้รับความเสียหายจากของเหลวสีแดงเป็นจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่า มีการจับกุมถอดเสื้อและถ่ายภาพล้วนไม่เป็นความจริง ตำรวจไม่มีการบังคับให้กระทำการดังกล่าวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาทั้ง 9 คน จำนวน 4 ข้อหา ได้แก่
- ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธในครอบครอง
2. ทำลายและทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย
3. ทำให้เจ้าหน้าที่และทางราชการเสียทรัพย์สิน
4. ร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นตัวการและแกนนำในการกระทำผิด
และคัดค้านการประกันตัว โดยจับกุมตัวทั้ง 9 คนไว้ใน สน.สำราญราษฎร์ และในช่วงบ่ายของวันนี้ (11 พฤษภาคม 2566) ได้ขออำนาจศาลอาญาขอหมายขังและรอการพิจารณาต่อไป
ถัดมาเวลาประมาณ 20.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมออกจาก สน.สำราญราษฎร์ โดยแบ่งการควบคุมตัวออกเป็น 3 สถานที่ ตะวันและแบมถูกควบคุมตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง ส่วนนักกิจกรรมที่เหลือถูกควบคุมตัวไป สน.ลาดกระบัง และ สน.ฉลองกรุง ซึ่งทั้งสามล้วนไม่ใช่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ อีกทั้งสถานียังอยู่ห่างไกลออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้ยากต่อการเดินทางติดตามทั้งในส่วนของทนายความ ครอบครัว หรือผู้ที่ได้รับการไว้วางใจ
ทั้งนี้เวลาประมาณ 21.30 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ตะวันและแบมได้ประท้วงโดยการใช้ชุดชั้นในผูกคอตัวเอง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องเข้าไปนำชุดชั้นในดังกล่าวออกมา ต่อมาศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่า ตะวันและแบม พร้อมเพื่อนอีก 9 คน ล้วนมีแผลฟกช้ำและอาการบาดเจ็บจากการถูกลากเข้าไปในสถานีตำรวจ และจากการถูกจับขึ้นรถตำรวจ
หนึ่งในนักกิจกรรมผู้ถูกจับกุมได้รับความรุนแรง มีอาการปวดระบมบริเวณซี่โครงด้านซ้ายอย่างรุนแรง ต่อมาเวลาราวเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องอ่านบันทึกจับกุมต่อหน้าตะวันและแบม และแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อเป็นที่เรียบร้อย
ถัดมาวันนี้ ในเวลาราว 13.27 น. พนักงานสอบสวนนำตัว ตะวัน แบม และนักกิจกรรมรวม 9 คน ไปยังศาลอาญารัชดา เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากสร้างความวุ่นวายและทำลายทรัพย์สินทางราชการ ซึ่งตลอดเวลาช่วงบ่ายโมงมีประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุมไปให้กำลังใจนักกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
จากการสอบถามไปยังศูนย์ทนายฯ ได้เผยข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 1 คดี โดยเป็นข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งนักกิจกรรมไม่ยอมลงลายมือชื่อในบันทึกข้อหาแจ้งจับกุม เนื่องจากผู้ถูกจับกุมอ้างว่า เจ้าหน้าที่บันทึกไม่ตรงกับการกระทำ ทำให้ไม่ยินยอมในการลงลายมือ ส่วนเรื่องการย้ายนักกิจกรรมทั้ง 9 คน ไปยัง สน.ที่ห่างไกล ทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า สน.สำราญราษฎร์ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจึงต้องพาตัวย้ายไปยัง สน.อื่น และนำตำรวจของ สน.ไปแจ้งหมายจับ
ทางศูนย์ทนายฯ ให้ความเห็นว่า เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ไม่ควรกระทำ เนื่องจากระหว่างการเดินทางมีโอกาสที่ผู้ต้องหาจะถูกเจ้าหน้าที่ลิดรอนสิทธิ บางครั้งก็ไม่ยอมบอกว่าจะพาตัวผู้ต้องหาไปสถานที่ใดอีก และไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ทนาย จึงอาจส่งผลให้เกิดอันตรายเพิ่มเติมได้ รวมถึงไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายฯ แจงว่า ประชาชนล้วนมีสิทธิในการร้องเรียนและสอบถามเรื่องราวต่างๆ ไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจ หรือตัวผู้มีอำนาจในสถานที่แห่งนั้น แต่หากประชาชนได้รับการขัดขวางไม่ให้เข้าพบ พร้อมทั้งกีดกันประทุษร้ายร่างกาย ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง จึงเตรียมดำเนินการคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาทุกคน ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ชุมนุมที่ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย หรือการทำร้ายเจ้าหน้าที่ย่อมต้องรับผลตามกฎหมายต่อไป
Tags: ทานตะวัน ตัวตุลานนท์, ตะวัน, อรวรรณ ภู่พงษ์, แบม, นักโทษการเมือง, ตะวันแบม, SAVEหยก, ทะลุแก๊ซ, ม็อบ 10 พฤษภา 66, กระบวนการยุติธรรม, ศาลอาญา