วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2566) ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา นายสัตว์แพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับผู้บริหารของ ByteDance เจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานรวม 1,500 ล้านรายทั่วโลก และมีการใช้งานจากภาคธุรกิจมากกว่า 15 ล้านรายต่อเดือน โดยเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า การค้าบน TikTok มีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมาก จึงอยากเชิญชวนบริษัทให้ร่วมพัฒนา Soft power ในจังหวัดเมืองรองของทุกภูมิภาคของไทย ที่มีสินค้าท้องถิ่น (OTOP) เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด เพื่อช่วยส่งเสริมสินค้าและบริการ ทั้งนี้ ผู้บริหารของ TikTok ชื่นชมและยินดีที่มีผู้ใช้ TikTok จำนวนมากในประเทศไทย และบริษัทกำลังเดินหน้าสู่ภาคการศึกษาต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังหวังว่า TikTok จะพิจารณาเปิดศูนย์ฝึกอบรม (Training Center) ในไทย เพื่อกระจายรายได้ โดย TikTok เคยมีความร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซียในการสอนความรู้ทั่วไป เช่น การเขียน Resume สมัครงาน และการทำอาหาร ที่มีผู้ชมรวมกว่า1,000 ล้านครั้ง ซึ่งมองเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม Soft Power ได้ โดยเชิญชวนให้ TikTok ตั้งศูนย์ฝึกอบรมในการส่งเสริมและสนับสนุนนธุรกิจในไทย และคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุน (BOI) ก็พร้อมหามาตรการเพื่อส่งเสริมการลงทุน

นอกจากนี้ เศรษฐายังหารือกับ CitiGroup บริษัทให้บริการด้านการเงิน เช่น ธุรกรรมทางการเงิน บริการด้านวาณิชธนกิจ และการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดย CitiGroup ชื่นชมนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีของรัฐบาล พร้อมร่วมกับไทยจัดโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ รวมถึงหารือกับบริษัท Booking.com ซึ่งมี booking.com, Agoda และ OpenTable โดย Agoda มีสำนักงานใหญ่ในไทย และมีพนักงานหลายพันคนจากไทยและหลากหลายสัญชาติ

ทั้งนี้ Booking ชื่นชมนโยบาย Soft Power ของไทย ซึ่งนายกฯ หวังให้บริษัทมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ไทยเป็น World Festival Destination ที่สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

Tags: ,