เมื่อวานนี้ (27 สิงหาคม 2025) เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน โดยมาตรการข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2026 ท่ามกลางความวิตกของสังคมถึงผลกระทบในหมู่เด็กและเยาวชน หลังผลสำรวจจากครูในโรงเรียนกว่า 70% ระบุตรงกันว่า นักเรียนเสพติดโซเชียลมีเดียและโทรศัพท์ ขณะที่มีกลุ่มคัดค้านว่า มาตรการดังกล่าวละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็ก

ทั้งนี้สมัชชาเกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาฉบับแก้ไข เพื่อแบนการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน ด้วย 115 เสียง จาก 163 เสียง ขณะที่มีผู้ไม่เห็นด้วย 31 เสียง และงดออกเสียง 17 เสียง ซึ่งเสนอโดย โจ จองฮุน (Cho Jung-hun) สส.ฝ่ายค้านจากพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ (People Power Party: PPP) 

“เด็กๆ ของเราตาแดงในทุกเช้า เพราะเขาเล่น Instagram จนถึงตี 2-3” โจให้เหตุผลกับรัฐสภาว่า ขณะนี้คนรุ่นใหม่ในประเทศกำลังอยู่ในสภาวะ ‘เสพติด’ การใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมกับยกหลักฐานทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ว่า อาการเสพติดนี้ส่งผลเสียร้ายแรงต่อพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ของนักเรียน โดยยกกรณีศึกษาการแบนของประเทศอื่นประกอบ

กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2026 หรือวันเริ่มปีการศึกษาใหม่ในเกาหลี ทั้งในระดับโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย ยกเว้นในกรณีจำเป็นคือ ต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ประกอบการเรียนการสอน หรือกรณีผู้พิการที่ต้องใช้อุปกรณ์สื่อสารช่วยเหลือ รวมถึงมีเหตุผลจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากครูหรือเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนก่อน 

อันที่จริงโรงเรียนในเกาหลีใต้มีมาตรการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือเป็นทุนเดิม แต่เพราะปัญหาดังกล่าวกำลังกลายเป็นวิกฤตร้ายแรงในระดับชาติ โดยผลสำรวจจาก Pew Research Center ระบุว่า คนเกาหลีใต้ 99% ติดโซเชียลมีเดีย และ 98% ติดโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นตัวเลขมากที่สุดในบรรดา 27 ประเทศที่ทำผลสำรวจปี 2022 และ 2023 

นอกจากนี้ผลสำรวจในประเทศจากครูและบุคลากรในโรงเรียน 70% ยังระบุตรงกันว่า นักเรียนติดโทรศัพท์มือถือมากเกินไป และบางคนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เมื่อถูกห้าม จนบางครั้งเรื่องราวเกินเลยด้วยการที่นักเรียนด่าทอ และลงมือทำร้ายร่างกายครูเพื่อตอบโต้

ขณะที่ผลสำรวจจากกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้ในปี 2024 พบนักเรียนชั้นมัธยมปลาย 37% ระบุว่า การใช้โซเชียลมีเดียกระทบต่อชีวิตประจำวัน และอีก 22% ยอมรับว่า ตนรู้สึกกังวล ถ้าไม่ได้เข้าไปเช็กโซเชียลฯ ของตนเอง

น่าสนใจว่า กฎหมายดังกล่าวมีเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย คือกลุ่มผู้สนับสนุน ซึ่งในหมู่ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีเพียง Korean Federation of Teachers’ Association กลุ่มเคลื่อนไหวอนุรักษนิยมเท่านั้นที่เห็นด้วย ขณะที่ในด้านผู้คัดค้าน นำโดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนเชื่อว่า การแบนดังกล่าวกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของเด็ก ซึ่งมีท่าทีคล้ายคลึงกับสหภาพครูและแรงงานทางการศึกษาที่ไม่ประกาศจุดยืนอย่างเป็นทางการ บ้างถึงกับแสดงความคิดเห็นว่า กฎหมายดังกล่าวจะลิดรอนสิทธิการใช้มือถือของนักเรียน

โจ ยองซุน (Cho Young-sun) นักเรียน ม.ปลาย ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเพียงวิธีที่จะพูดคุยกับเพื่อนใน KakaoTalk นอกจากการอุดอู้กับโรงเรียนและสถาบันกวดวิชา โดยเธอเชื่อว่า กฎหมายครั้งนี้มุ่งเป้าผิด แทนที่จะสนใจมาตรการการสอบซูนึง (Suneung) หรือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเกาหลีใต้ที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด ซึ่งจากภาวะดังกล่าว ทำให้เด็กเกาหลีแทบจะไม่ใช้โทรศัพท์ นอกจากเวลาว่างเท่านั้น

ปัจจุบันฟินแลนด์และฝรั่งเศสแบนการใช้โทรศัพท์มือถือในเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ขณะที่อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และจีน ห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกโรงเรียน เช่นเดียวกับออสเตรเลียที่ออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลฯ ทุกชนิด

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/articles/c776ye6lrvzo

https://www.koreaherald.com/article/10563208

https://www.reuters.com/business/media-telecom/south-korea-ban-mobile-phones-school-classrooms-2025-08-27/

https://www.france24.com/en/culture/20241128-australia-passes-world-s-first-social-media-ban-for-under-16s