วันนี้ (30 มีนาคม 2565) ที่โกดังสเตเดียม เขตคลองเตย พรรคไทยสร้างไทย จัดงานเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวตอนหนึ่งในงานว่า ไม่เคยเห็นยุคไหนที่ประชาชนเดือดร้อน ทุกข์แสนสาหัส ประเทศตกต่ำถึงที่สุดแบบในยุคนี้ โดยปัญหาการเมือง 17 ปีนี้ ได้ทำให้พี่น้องทุกคนทุกข์ยาก ต้องออกจากความขัดแย้งให้ได้ การแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายเป็นปัญหาหลัก พรรคไทยสร้างไทยจึงเกิดขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้ง รับฟังความเห็นต่าง และมุ่งสร้างเศรษฐกิจให้คนไทยทุกคน

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า ผู้ว่าฯ กทม. ทำงานคนเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องมีเครือข่าย สก. เป็นมือเป็นไม้ และเป็นเครือข่ายใยแมงมุม พรรคไทยสร้างไทยจึงส่งผู้สมัคร สก. ครบถ้วน 50 คน ใน 50 เขต และมั่นใจว่าทุกคนมีดีเอ็นเอเดียวกัน คือทำงานจริงจัง และฟังเสียงประชาชน

ส่วน นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า เป็นคนที่มีดีเอ็นเอตรงกัน โดยเมื่อครั้งตนเป็นรัฐมนตรี ก็มีศิธาไปด้วยทุกที่ เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ และเป็นผู้ที่ช่วยคิด จนทำให้งานยากสำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง

“ขอพี่น้องได้ให้การสนับสนุนผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส.ก. จากพรรคไทยสร้างไทยในทุกเขตเลือกตั้ง เพราะทุกคะแนนเสียง เท่ากับได้เลือกสุดารัตน์เป็นผู้ช่วยอีกหนึ่งคนเข้าไปรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เลือกศิธาเป็นผู้ว่า กทม. ได้สุดารัตน์อีกหนึ่งคนไปช่วยทำงาน เลือก ส.ก. เขตไหน เท่ากับได้สุดารัตน์อีกหนึ่งคน ไปช่วยทำงาน เพราะฉะนั้น ขอให้ช่วยกันเลือกศิธายกทีม”

ขณะที่ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า ในวันนี้ เป็นอีกก้าวย่างสำคัญของชีวิต ที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. จึงขอใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มี สร้างกรุงเทพฯ ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน

นาวาอากาศตรีศิธากล่าวอีกว่า วันนี้ กทม. เปรียบเหมือนกับประเทศไทยย่อส่วน จัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างจากรัฐบาลกลาง แต่หลายอย่างก็ต้องประสานงานกับจังหวัดรอบข้างด้วย เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ อาทิ แก้ปัญหาน้ำท่วม ด้วยเหตุนี้ ความเป็นผู้นำของผู้ว่าฯ กทม. จึงมีความสำคัญ เพราะต้องไปประสานความร่วมมือกับจังหวัดรอบข้างและรัฐบาลกลางให้ได้ ดังนั้น ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

“ผมพร้อมจะเป็นมือประสานที่ดี บริหารให้เป็น เข้าใจโลก และรู้คุณค่าของประชาชน เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ที่ดีที่สุด กรุงเทพฯ จะต้องเป็นมหานครของโลก โดยการติดปีกให้คนกรุงเทพฯ และผมจะร่วมกับพี่น้องประชาชนทุกคน สร้างลูกหลานของเรา ให้เป็น Global Citizen ผมจะขอทำในสิ่งที่ ผู้ว่าฯ กทม. คนอื่นไม่เคยทำ

“สำหรับนโยบายกรุงเทพฯ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หรือ 3P ได้แก่ People – Profit – Planet เพื่อยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็น ‘มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ’ ได้แก่

“People – คือการสร้างเมืองแห่งโอกาสให้กับชาวกรุงเทพฯ โดยจะเป็นผู้ว่าฯ คนแรก ที่มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน (Community Council) เพื่อกำจัดคอร์รัปชัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม. ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain โดยการประเมินความสามารถของทุกหน่วยงานของ กทม. จะใช้ Bangkok Coin ให้รางวัลจูงใจในการสร้างการมีส่วนร่วมของคน กทม. เพื่อให้เป็น Active Citizen และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนให้มากที่สุดนับตั้งแต่กรุงเทพฯ เคยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมา

“ทั้งนี้ จะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกัน มีความเป็นเลิศทางการศึกษา ต้องไปพร้อมกันทุกโรงเรียน และช่วยกันเปลี่ยนโรงเรียนจากเดิมที่สอนเด็กให้อยู่ในระบบไม่ต่างจากหุ่นยนต์ ให้สามารถคิดเป็นและค้นพบความต้องการของตัวเอง

“หลังจากนี้ หากมีน้ำท่วมที่ไหน ถนนไหน ถนนนั้นคือถนนที่ผู้ว่าฯ กทม. และ ผอ.เขตไปเดินทันที ขณะเดียวกัน ถ้ารถเมล์ทั่ว กทม. ยังบุโรทั่ง ยังเป็นรถเมล์ร้อน ประชาชนยังไม่ได้รับความสะดวก ผู้ว่าฯ และ ผู้อำนวยการเขตจะต้องไปนั่งรถเมล์กับประชาชน

“Profit – สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อเทกออฟกรุงเทพฯ โดยจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ คนตัวเล็กไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน

“นอกจากนี้ สร้าง Bangkok Creative City ใช้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ จัดอีเวนต์สร้างรายได้ให้ทุกเขต ทุกเดือน ทั่วกรุงเทพฯ และสร้างเมืองหลวงสตรีทฟู้ดของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขายทุกเขตทั่วกรุงเทพฯ ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ และกลไกสภาชุมชน สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็น New Economy Hub บ่มเพาะเด็กกรุงเทพฯ ให้เป็น Nano Entrepreneur ด้วยการสนับสนุนเงินลงทุนและให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นออฟฟิศดึงดูดคนเก่ง และนักลงทุนจากทั่วโลก

“Planet – สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน บอกลาน้ำรอระบาย ด้วยแพ็กเกจแก้น้ำท่วมก่อนกรุงเทพฯ จมบาดาล ลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 โดยห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม. สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต

“ขณะเดียวกัน จะสร้างเมืองสุขภาพดี ผ่านการเพิ่มสถานที่ออกกำลังกาย ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม. ให้ออกกำลังกาย รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็น 9 ตารางเมตรต่อคน ตามมาตรฐานนานาชาติ

“ผมจะขอทุบทำลายทุกปัญหา ให้พี่น้องคนกรุงเทพฯ จะไม่แก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่เกี้ยเซี้ย ปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์ใน กทม. ให้เป็นสมบัติผลัดกันชม เราจะทุบหม้อข้าวผู้ที่หาผลประโยชน์ทางการเมืองในหน่วยงานต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต”

ขณะเดียวกัน พรรคไทยสร้างไทยยังได้ประกาศเปิดกองอำนวยการการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ สก. โดยมี ประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก., โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย เป็นผู้อำนวยการนโยบายพัฒนา กทม. และ สุธา ชันแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ภาค กทม.

Tags: , , ,