วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) ที่อาคารรัฐสภา รัชนีกร ทองทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายประเด็นการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมือง โดยชี้ว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และแก้ไขรื้อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่จัดทำโดยคณะรัฐประหาร เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมือง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้ยังระบุว่า ในยุคที่ประชาธิปไตย ‘ไม่เต็มใบ’ ประชาชนมองว่าประเทศไทยเจริญก้าวหน้ามาก

รัชนีกรระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้งบประมาณของชาติเพิ่มเติม ทั้งการทำประชามติและการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ​ (สสร.) และเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะจัดทำขึ้นก็คงไม่แตกต่างจากฉบับปี 2560 มากนัก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็มีรากฐานมาจากฉบับก่อนหน้า จึงตั้งคำถามว่า เหตุใดต้องเสียงบประมาณของชาติอีกหลายพันล้านบาทเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“ถ้าเป็นเงินของท่าน เป็นเงินของบิดามารดาของท่าน ดิฉันเชื่อว่าท่านจะไม่ทำเช่นนี้” รัชนีกรกล่าว

สว.ระบุต่อว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีการแตะต้องหมวดที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ ก็จะมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การประท้วงและก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศอีกครั้ง

ทั้งยังชี้ว่า ประชาชนเบื่อหน่ายกับการเมืองรูปแบบเก่าที่ไม่เคยคิดแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง การดำเนินการส่วนใหญ่ล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง เมื่อประเทศย่ำอยู่กับที่ ประชาชนจึงหันหน้าไปหาคนรุ่นใหม่

“แต่สุดท้ายท้ายสุดก็เข้ามาเพื่อมุ่งแก้รัฐธรรมนูญและมาตรา 112 ใช่ไหมคะ ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนอีกเช่นเคย”

รัชนีกรยังชี้ถึงเหตุผลที่ฝ่ายการเมืองยกมาสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจัดทำขึ้นระหว่างการยึดอำนาจ ซึ่งตนมองว่าด้วย ‘อคติ’ เช่นนี้จะทำให้ประเทศต้องสูญเสียงบประมาณไปหลายพันล้านบาท เพียงเพื่อประทับตราว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาจากประชาชน

“ทหารเข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง แก้ปัญหาบางส่วนของประเทศที่หมักหมมมายาวนาน โดยการเขียนบทเฉพาะกาลไว้อย่างแยบยล ซึ่งทหารเขาก็แก้ปัญหาไปได้ในระดับหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้ประชาชนชาวไทยรู้ว่า ในเวลาที่ประชาธิปไตย ‘ไม่เต็มใบ’ บ้านเมืองเจริญรุดหน้าขนาดไหน” รัชนีกรกล่าว

Tags: , , , , , ,