เมื่อวานนี้ (23 ตุลาคม 2568) ที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในงาน ‘The Momentum at 9 : The (AI)dge – Navigating the New Era of Thai Talent’ เวทีสนทนาที่จะพามองข้ามขอบของวันนี้ ไปสำรวจ ‘โอกาส’ และ ‘ความท้าทาย’ ของโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนทุกกติกาในการทำงาน 

Reza Sadri ผู้อำนวยการ AI Bootcamp จาก California Institute of Technology (Caltech) ขึ้นเป็นสปีกเกอร์ในเซสชันที่ 3 ‘Upskilling Thai Talent’ กล่าวถึงภาพรวมผลกระทบของ AI ต่อการทำงานในสายงานต่างๆ ของมนุษย์ โดยชี้ว่า AI จะเข้ามา ‘ช่วย’ ทำให้ภาระงานที่อยู่ในความเชี่ยวชาญของมนุษย์ดีมากยิ่งขึ้น

ผู้อำนวยการ AI Bootcamp จาก Caltech กล่าวว่า ตัวเขาทราบดีว่าผู้ที่เข้าร่วมงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนมีความกังวลว่า อาชีพของพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากความนิยม AI ที่สูงขึ้นอย่างไร ก่อนชี้ให้เห็นว่า เมื่อ 40 ปีก่อนหน้านี้ในช่วงที่เขาจบการศึกษาจาก Caltech นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงหลายคนก็ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการคำนวณจึงใช้ปากกากับกระดาษเท่านั้น

“แต่ตอนนี้คุณทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เราต้องรู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานด้านวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับ AI คุณไม่สามารถทำงานด้านวิทยาศาสตร์ได้จริงๆ หรอก หากคุณยังไม่รู้จัก AI เพราะมันกลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็น ไม่ใช่เฉพาะกับวงการวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังจำเป็นกับทุกสิ่งที่คุณจะต้องทำในอนาคตทั้งใกล้และไกล” Reza ระบุ

นอกจากนี้ Reza ยังเปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวจากการใช้ AI ภายในองค์กร โดยชี้ว่า AI จะเข้ามาช่วยในกระบวนการที่ต้องตัดสินใจ ซึ่งประกอบไปด้วย 5 ประการ ได้แก่ 

1. วิเคราะห์ข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆ

2. คาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

3. เสนอแนะวิธีการ

4. สร้างแผนต่างๆ

5. ลงมือปฏิบัติแทนมนุษย์

“เพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างยุคก่อน AI กับยุคหลัง AI ถ้าเป็นยุคก่อนเราก็จะมีระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่มีข้อจำกัด ลองจินตนาการว่า คุณซื้อเครื่องทำกาแฟที่เพียงกดปุ่มมันก็จะทำกาแฟให้คุณ แต่มันก็ทำได้แค่อย่างเดียว และมันไม่เรียนรู้จากสิ่งที่มันกำลังทำ มันไม่รู้ว่าคุณชอบให้ใส่นมมากหรือใส่นมน้อย ต้องการกาแฟคั่วเข้มหรือคั่วอ่อน

“คนที่จะรู้คือคนที่เป็นบาริสตาที่มีความสามารถ เขาเริ่มรู้จักคุณและมีความสามารถในการเรียนรู้ เมื่อผ่านไป 2-3 ปี บาริสตาคนนั้นก็จะทำกาแฟได้ดีขึ้นมาก AI ก็เป็นแบบนั้น” ผู้อำนวยการ AI Bootcamp จาก Caltech เปรียบเทียบความต่างของระบบอัตโนมัติกับ AI 

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ AI เข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ Reza แนะนำว่า มนุษย์จะต้องไม่ทำให้ตัวเองทำงานเหมือนกับระบบอัตโนมัติ แต่ต้องใช้ AI ในการเพิ่มศักยภาพของตัวเอง เช่น การเข้ามาของ AI ในแวดวงวิศวกรอาจทำให้บุคลากรในวงการไม่จำเป็นต้องท่องสูตรทีละมากๆ แต่คนที่ทำงานในสายนี้ก็ยังต้องมีความเชี่ยวชาญในด้านฟิสิกส์และการให้เหตุผล เพื่อที่จะคิดค้นนวัตกรรมที่ AI ไม่สามารถทำได้

ในวงการแพทย์ AI อาจจะเข้ามาช่วยในการนำข้อมูลมหาศาลมาวินิจฉัย แต่ในท้ายที่สุดแพทย์ก็ต้องเป็นผู้ที่ตัดสินใจ ทั้งยังต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ป่วย ขณะที่ในด้านการสื่อสารการตลาด AI อาจเข้ามาช่วยในการแปล สรุป หรือสร้างเนื้อหาต่างๆ แต่กระบวนการสร้างสรรค์ยังคงเป็นหน้าที่ของมนุษย์ รวมไปถึงในวงการครูที่แม้ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทเป็นเครื่องมือในการสอน แต่ครูก็จะต้องกลายเป็น ‘โค้ช’ หรือ ‘พี่เลี้ยง’ ของนักเรียนอยู่ดี 

สำหรับการเตรียมตัวอยู่ร่วมกับ AI นั้น วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก Caltech ให้แนวทาง 3 ข้อคือ

1. ต้อง ‘ไว้วางใจ’ AI ซึ่งต้องเรียนรู้ด้วยว่าจะสามารถไว้วางใจด้านใดได้บ้าง เพราะ AI ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เช่นกัน

2. ต้อง ‘เรียนรู้’ การทำงานของ AI เพื่อตรวจสอบว่า AI จะสามารถเข้ามาช่วยในการทำงานในสายงานของเราเองได้หรือไม่ 

3. ต้อง ‘คล่องตัว’ เพื่อเรียนรู้ให้เท่าทัน AI เพราะ AI พัฒนาเร็วมาก และบางเครื่องมือที่ใช้ไปก่อนหน้านี้อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ล้าสมัย 

“นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด จงตรวจสอบดูสายงานของตัวเอง และดูว่า AI จะเข้ามาช่วยงานในการวิเคราะห์ คาดการณ์ ให้ข้อเสนอแนะ ไปจนถึงการปฏิบัติจริงได้อย่างไร แล้ว AI จะทำให้คุณมองสิ่งต่างๆ กว้างขึ้นReza กล่าวทิ้งท้าย

Tags: ,