วันนี้ ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษกกรุงเทพมหานคร ทีม พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี ‘คลองช่องนนทรี’ ตอนหนึ่งว่า งบประมาณที่ใช้ในการสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีที่เห็นอยู่ ใช้ไปเพียง 80 ล้านบาท ไม่ใช่ 980 ล้านบาท และไม่ใช่ 1,556 ล้านบาท พร้อมกับยืนยันว่า โครงการพัฒนาคลองช่องนนทรีเป็นการพัฒนาทั้งหมด ทั้งสวนสาธารณะ ทางเดินริมคลอง การฟื้นฟูคลอง และระบบไหลเวียนน้ำ คลองช่องนนทรี คลองสาทร และคลองไผ่สิงโต
ร้อยตำรวจเอกพงศกร ระบุว่า โครงการคลองช่องนนทรีเป็นการพัฒนาระบบระบายน้ำ ระบบไหลเวียนน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย รวมถึงควบคุมปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจากทั้ง 3 คลอง ให้เชื่อมกันได้เป็นระบบ โดยทั้งหมดเป็นงบประมาณตามแผนที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ ส่วนสวนสาธารณะที่เห็นด้านบน และก่อสร้างเสร็จแล้ว ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 80 ล้านบาท โดยภาพที่เห็นคือลานกิจกรรมด้านบนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ มีการแก้ไขน้ำมีกลิ่นเหม็น จากการเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำที่ตกตะกอน มีการไหลเวียน และในระยะยาวจะใช้น้ำบำบัดจากโรงบำบัดน้ำเสียผลักดันน้ำลงคลอง และทำให้น้ำในคลองโดยรอบดีขึ้นทั้งระบบ
ข้อมูลจากลูกชายพลตำรวจเอกอัศวิน ยังยืนยันด้วยว่า โครงการดังกล่าวมี กชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน และทุกโครงการเป็นการออกแบบเพื่ออนาคต ตอบโจทย์ทั้งทัศนียภาพความสวยงามและการใช้งานที่คุ้มค่า เช่น อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ขณะเดียวกัน ยังมีผลการศึกษาโครงการคลองช่องนนทรีว่า เป็นโครงการที่พูดถึงมาแล้วกว่า 14 ปี โดยควรพัฒนาย่านสีลม สาทร บางรัก ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมให้มีภาพลักษณ์ที่ดี แข่งกับเมืองอื่นได้ และการพัฒนาคลองช่องนนทรี ส่วนหนึ่งเกิดจากผังแม่บทการพัฒนาและฟื้นฟูเมือง โดยมีการจ้างศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง หรือ Urban Design and Development Center (UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาร่วมกับสำนักงานผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร และจากการศึกษาดังกล่าวได้เสนอแนะให้ กทม. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 จนกระทั่ง กทม. ได้นำข้อเสนอแนะดังกล่าวมาผลักดันให้สำเร็จ
“ประโยชน์ที่ได้เพิ่มขึ้น สวนสาธารณะคลองช่องนนทรีเป็นโครงการฟื้นคืนชีวิตคลอง สายแรกของเมืองกรุงเทพฯ และฟื้นความสัมพันธ์เมือง-ระบบนิเวศ ด้วยการใช้ความรู้ด้านภูมิสถาปัตยกรรมเมือง ปรับใช้แนวคิดการแก้ปัญหาที่ยึดหลัก ‘เข้าใจ-ประยุกต์-ปรับเปลี่ยน-เลียน-รู้ บทเรียนจากธรรมชาติ เพื่อการออกแบบที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน ทำให้คลองได้ทำหน้าที่ทางนิเวศ มีการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เชื่อมการไหลของน้ำ จัดการการไหลให้สัมพันธ์กับทิศทางน้ำขึ้น-น้ำลง เพิ่มศักยภาพคลองในการกักเก็บ ชะลอ ซึม รองรับ และระบายน้ำฝน ฟื้นฟูตลิ่งริมคลองด้วยการปรับใช้โครงสร้างทางชีววิศวกรรม เพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงฟื้นฟูความสัมพันธ์คนกับคลองให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง” ข้อมูลจากร้อยตำรวจเอกพงศกรระบุ
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าว ร้อยตำรวจเอกพงศกรได้นำมาชี้แจงภายหลังจากมีรายงานของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และ UddC ออกมาระบุว่า โครงการขนาดใหญ่อย่างคลองช่องนนทรี ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 1,556 ล้านบาท และสวนลุมพินี ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 3,800 ล้านนั้น อาจไม่คุ้มค่า และทำให้สวนกระจุกตัวอยู่ในเฉพาะใจกลางเมืองอย่างเขตสาทรและปทุมวัน โดยจะทำให้เหลืองบประมาณพัฒนาสวนอื่นเพียง 120 ล้านบาท
Tags: Bangkok Upside Down, พงศกร ขวัญเมือง, Report, อัศวิน ขวัญเมือง, คลองโอ่งอ่าง