วันนี้ (24 สิงหาคม 2565) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุติการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ตามที่ฝ่ายค้านยื่นให้วินิจฉัย โดยพิธากังวลว่าอาจเกิดภาวะสุญญากาศในการบริหารระหว่างช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนหลายจังหวัด อาทิ สุโขทัยและพิษณุโลก กำลังเดือดร้อนจากอุทกภัย ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ซับซ้อน ฉะนั้นจึงต้องการนายกรัฐมนตรีที่ฉับไว กระฉับกระเฉง และทันต่อเหตุการณ์
ทั้งนี้ การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและสั่งให้พลเอกประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงให้พลเอกประวิตรเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีแทนนั้น คล้ายกับการพายเรือวนในอ่างของระบอบประยุทธ์ ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศนี้ โดยสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการ คือการปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว ไม่อยากให้ประวิงเวลา และการที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าจะต้องพิจารณาให้เสร็จภายในเดือนกันยายนนั้น เห็นว่ายาวนานเกินไป เพราะคำวินิจฉัยในอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ซับซ้อน โดยศาลรัฐธรรมนูญควรต้องตัดสินอย่างยุติธรรม โปร่งใส รวดเร็ว และทันเหตุการณ์ เพื่อให้สุญญากาศสั้นลง
พิธายังเรียกร้องด้วยว่า เรื่องของกติกาการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกันนั้น ก็ไม่อยากให้มีการประวิงเวลา โดยอยากให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสุญญากาศ
ขณะเดียวกัน หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งเสร็จทันเวลา ก็อาจมีการเปิดช่องให้รัฐสภาสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ตามบัญชีรายชื่อเมื่อปี 2562 หรือหากจะคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านการยุบสภาก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดยถ้าทำได้ตาม 2 ทางเลือกดังกล่าว ก็จะพาประชาชนออกจากวิกฤตการเมืองที่ประสบกันอยู่ ในขณะนี้
Tags: Report, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นายกรัฐมนตรี, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ระบอบประยุทธ์