วันนี้ (9 สิงหาคม 2566) เวลา 12.35 น. ที่อาคารรัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดย ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคพรรคประชาชาติ, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่, บัญชา เดชเจริญศิริกุล หัวหน้าพรรคท้องที่ไทย และวรเชษฐ เชิดชู เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง ร่วมแถลงในการจัดตั้งรัฐบาล 

ก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้แถลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับแนวทางการจัดตั้งไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 สิงหาคม 2566) โดยคำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองต่างๆ อีก 6 พรรคร่วมรัฐบาล มีดังนี้

“วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว

“พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองคาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมือง ทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง และเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไร จะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

“เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤตความขัดแย้งในสังคม การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งขั้ว

“การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็น ‘วาระประเทศ’ ที่สำคัญอย่างสูงสุด

“เราอยากขอวิงวอน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิฤตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทุกคน เราหวังจะเห็นความสามัคคีของทุกฝ่ายในประเทศ”

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงต่อสื่อมวลชนในนามของพรรคชาติพัฒนากล้าว่า ต้องขอขอบคุณหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่ให้พรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมหารือ สำหรับวันนี้ พรรคชาติพัฒนากล้ายินดีตอบรับคำเชิญการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีเหตุผล 5 ข้อ ได้แก่

  1. พรรคเชื่อไทยเป็นพรรคที่มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล จากการเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 2
  2. พรรคเพื่อไทยยืนยันกับทุกพรรคการเมืองว่าสามารถรวบรวมเสียงจากสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้เกินกึ่งหนึ่ง
  3. ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะไม่แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่อย่างใด
  4. พรรคเพื่อไทยจะเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน
  5. ต้องการเร่งจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และเพื่อปิดช่องสุญญากาศทางการเมือง ณ ขณะนี้

ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคพรรคประชาชาติ กล่าวว่าพรรคประชาชาติจะเป็นแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาล และทางพรรคจะโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตนมองว่าพรรคอันดับที่ 2 ก็มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล จึงขอสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยรวบรวมเสียงให้ได้ 375 เสียงขึ้นไปเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว อีกทั้งการจัดตั้งรัฐบาลหากหลุดจากพรรคที่ 2 ไปนั้นไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย

ต่อมา เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ตนก็ทำทุกอย่างสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ตอนนี้ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเพื่อให้สลายขั้วทางการเมืองจากทุกฝ่ายเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน อีกทั้งยังขยายเกี่ยวกับกรณีข้อวิจารณ์จากประชาชนเกี่ยวกับการหาเสียง ‘ไล่หนู ตีงูเห่า’ ของพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า

“สำหรับการหาเสียง และการพูดว่าต้องยึดมั่น ผมอยากเรียนว่าการหาเสียงคือการหาเสียง ไม่ใช่นโยบายพรรค ดังนั้นจึงไม่ใช่การผิดสัญญา เมื่อจบไปแล้วได้คะแนนมาเท่าไรก็บริหาร ขณะนี้มีเสียงบางเสียงที่ให้รวมไม่รวมพรรคนั้นพรรคนี้ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนให้เปิดใจให้กว้าง”

ด้านนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการทำงานของพรรคก้าวไกลว่า ทางพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลสามารถทำงานร่วมกันได้ตามครรลองของของการทำงานแบบฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองไม่มีปัญหากัน

ดตั้งสำหรับประเด็นคำถามเรื่อง ส.ส. ในพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่ออกตัวไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตอบว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยเพิ่งประชุมกันเมื่อวานนี้ (9 สิงหาคม 2566) ไม่มี ส.ส. คนใดในพรรคไม่เห็นด้วย มากสุดเป็นแค่การห่วงใยเรื่องผลกระทบจากสิ่งที่เป็นข้อครหาจากสัญญาประชาคมแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งยืนยันได้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงมีเอกภาพอย่างดีไม่แตกแยก

สุดท้ายนี้ ชลน่านยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะยังคงส่ง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่มีรายชื่อสำรอง และคิดว่าไม่มีทางโหวตไม่ผ่าน ทางภูมิธรรมเสริมว่าตรวจสอบกระบวนการทางกฎหมายแล้วไม่มีปัญหา 

Tags: , ,