วันนี้ (29 ธันวาคม 2568) ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. พลตำรวจเอก สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจเข้าขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชาวลาวจำนวน 22 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดลพบุรี และจังหวัดตรัง ก่อนพบเส้นทางเงินที่เชื่อมโยงไปยัง บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขต 33 (บางพลัด-บางกอกน้อย) ทำให้พรรคประชาชนจำเป็นต้อง ‘เปลี่ยนตัว’ ผู้สมัคร สส.อย่างเร่งด่วน
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังโทรศัพท์ไปพูดคุยกับบุญฤทธิ์เพื่อสอบถามถึงตารางการลงพื้นที่หาเสียง บุญฤทธิ์ได้บอกกับตนว่า ขณะนี้กำลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นที่พักอาศัยของเขาอยู่
พิจารณ์พยายามสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ก่อนจะพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขต 33 (บางพลัด-บางกอกน้อย) ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ในข้อหา ‘ฟอกเงิน’ ดังนั้นเมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงตนจึงนำไปพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคว่า ต้องรีบเปลี่ยนตัวผู้สมัคร
พิจารณ์เล่าต่อว่า บุญฤทธิ์เข้าไปเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทของเพื่อนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีธุรกิจเป็นบริษัทส่งออกน้ำมันไปยังต่างประเทศ
ข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการตั้งบริษัทเครือ TKP จำนวน 4 บริษัท มีลักษณะการเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นไขว้กัน พบเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในคดีความที่เกิดขึ้นมีผู้ต้องหาสามี-ภรรยาในพื้นที่ตลิ่งชันเป็นกรรมการบริษัทในเครือและเป็นผู้จดทะเบียบบริษัท มีการมอบเงินให้ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชนจริง
รองหัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวผ่านสื่อมวลชนว่า ต้องขอโทษประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เขตบางกอกน้อยและเขตบางพลัด ที่พรรคยังคัดเลือกผู้สมัครไม่ดีพอ ทั้งนี้กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคยืนยันว่า มีการพัฒนามาโดยตลอด ในรอบการเลือกตั้งทั่วไปปี 2569 พรรคตรวจสอบทั้งประวัติอาชญากรรม เครดิตบูโร รวมถึงประกาศชื่อผู้สมัครให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตามพิจารณ์ระบุต่อว่า พรรคจะเร่งกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขต 33 (บางพลัด-บางกอกน้อย) ใหม่ให้ทันต่อการเปิดรับสมัครของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2569
ส่วนการดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรม พิจารณ์กล่าวว่า พรรคจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของระบบยุติธรรมแต่อย่างใด แต่จะเป็นภาระของบุญฤทธิ์เอง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อแคมเปญหาเสียง ‘มีส้มไม่มีเทา’ หรือไม่ พิจารณ์ระบุว่า “นี่คือสิ่งที่เรายืนยันว่า มีส้มไม่มีเทา เราไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องปกป้องใคร การออกหมายจับมีกระบวนการของตำรวจอยู่แล้ว ผมคิดว่าให้กระบวนยุติธรรมจัดการต่อไป ในส่วนของพรรคเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ที่มีความเคลือบแคลงสงสัย พรรคก็จำเป็นเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.คนใหม่ทันทีเพื่อให้ประชาชนได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด”
พิจารณ์ยังกล่าวต่อว่า พรรคพยายามออกแบบกระบวนการคัดสรรผู้สมัครให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนผิดหวัง แต่ยืนยันว่าพรรคประชาชนยังมีจุดยืน มีส้มไม่มีเทา เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาทุนเทา ปัญหาสแกมเมอร์ ทันทีที่พบเห็น
“ยืนยันว่าเมื่อพรรคประชาชนเข้าสู่อำนาจ เราจะไม่อ่อนข้อต่อทุนเทาใดๆ ไม่อ่อนข้อกับการทุจริตใดๆ เพื่อพาประเทศไปสู่ประเทศไทยที่ไม่เทา เท่าเทียมกัน และเท่าทันโลก” พิจารณ์ทิ้งท้าย
Tags: เกมพลิกอำนาจ, เปลี่ยนตัว สส, กระบวนการยุติธรรม, อาชญากรรม, ฟอกเงิน, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, พรรคประชาชน, เลือกตั้ง69, House of Cards



