วันนี้ (29 มกราคม 2568) ประดิษฐ์ เฟื่องฟู รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พร้อมด้วย ประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด กฟภ. จัดแถลงข่าวการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมา โดยระบุว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2539 เห็นชอบในหลักการให้ กฟภ.ขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านในหมู่บ้านใกล้ชิดกับประเทศไทย
ประดิษฐ์ระบุว่า ปัจจุบันการขายไฟฟ้าไปยังเมียนมามีทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ บ้านเจดีย์สามองค์ เมืองพญาตองซู (Payathonzu) รัฐมอญ, บ้านเหมืองแดง เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, สะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, สะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 อำเภอเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และบ้านห้วยม่วง อำเภอเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง โดยยืนยันว่า การจ่ายไฟฟ้าไปยังพื้นที่จุดซื้อขายไฟฟ้า คู่สัญญาทุกจุดเป็นผู้ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมา โดยผ่านการรับรองความถูกต้องและความน่าเชื่อถือด้านเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ
ตัวแทนจาก กฟภ.กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่มีการจำหน่ายไฟฟ้าไปยังเมียนมาได้ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงทุกครั้ง โดยการยกเลิกสัญญาการซื้อขายมีทั้งหมด 2 กรณี ได้แก่
- คู่สัญญาดำเนินการผิดสัญญา เช่น การผิดนัดชำระค่าไฟฟ้าตามกำหนด หรือการไม่วางหลักประกันการซื้อขายไฟฟ้า
- สัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
โดยในปี 2566 สถานทูตสาธารณรัฐแห่งเมียนมาร์ประจำประเทศไทยได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อแจ้งให้ กฟภ.ระงับการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมด 3 จุด แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
- ท่าวังผา อำเภอแม่ระมาด รัฐกะเหรี่ยง เนื่องจากกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
- บ้านก๊กโก๋และบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง อำเภอเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เนื่องจากกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
- พื้นที่อำเภอเชียงแสน เมืองพงษ์ จังหวัดท่าขี้เหล็ก เนื่องจากคู่สัญญาผิดนัดชำระค่าไฟฟ้า
อย่างไรก็ตามประดิษฐ์กล่าวว่า การตรวจสอบการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ กฟภ.ไม่สามารถตรวจสอบได้ ต้องอาศัยภาครัฐตรวจสอบและสั่งการให้ กฟภ.ดำเนินการต่อไป
“ถ้าไม่มีคนมารับรองว่า มีปัญหาหรือหากมีหน่วยงานที่คอนเฟิร์มมา เราพร้อมที่จะตัดไฟทันที ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟภ.ระบุ
ทั้งนี้กฟภ.ยืนยันว่า การขายไฟฟ้าให้เมียนมาร์ดำเนินการถูกขั้นตอนตามมติ ครม. และมีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยปริมาณการขายไฟอยู่ที่ 0.13% ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ ขณะที่ประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่า กฟภ.จำหน่ายให้กับประเทศเพื่อนบ้านและได้ผลประโยชน์มากมาย ขอเรียนว่า มีผลประโยชน์น้อยมาก แต่ที่ต้องจำหน่ายเป็นเพราะ มติ ครม.และเป็นการดำเนินการในความเห็นชอบของกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กฟภ. ได้ทำการหารือกับหน่วยงานความมั่นคง ถึงกรณีปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติแล้วหรือไม่ ประสิทธิ์ให้คำตอบว่า กฟภ.ได้สื่อสารทั้งแบบลายลักษณ์อักษรและทางวาจาไปยังหน่วยงานความมั่นคงเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้รับข้อเสนอในการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ออกมา อย่างไรก็ตามคาดว่า ความชัดเจนถูกเผยแพร่ออกมาโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า จากนี้เป็นต้นไปความเข้มข้นในการติดตามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเหมาะสม
ขณะที่ข้อเสนอการหยุดจ่ายไฟ ประสิทธิ์ระบุว่า “การจะหยุดขายไฟฟ้าต้องมีขั้นตอน เพียงแต่ว่าต้องมีแหล่งข่าวและหลักฐานที่ชัดเจนที่ไม่มีผลกระทบต่อการจ่ายไฟในอนาคต การไฟฟ้าฯ ยินดีที่จะหยุดขายไฟให้กับธุรกิจสีเทา เราไม่สนับสนุนอยู่แล้ว เพียงต้องรอบคอบว่าจะไม่มีผลกระทบภายหลังอีก”
Tags: เมียนมา, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, การไฟฟ้า, อาชญากรรมข้ามชาติ, ไฟฟ้า, กฟภ., ฟอกเงิน