วันนี้ (24 มีนาคม 2568) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านกรณีการจัดการไฟป่าและฝุ่น PM2.5 พร้อมกับให้คำพูดตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งว่า เป็นวาระของอาเซียนในการจัดการมลพิษ ทั้งนี้ฝุ่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นฝุ่นควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องประสานกับทุกระดับ อธิบดีกับอธิบดี ปลัดกับปลัด รัฐมนตรีกับรัฐมนตรี ให้ประเทศเพื่อนบ้านไม่เผาพื้นที่เกษตร โดยประเทศเพื่อนบ้านกำลังทำเรื่องนี้อยู่ และประเทศเพื่อนบ้านก็รู้ดีว่าควันมาจากทางฝั่งประเทศตนเอง
“ที่บอกว่าดิฉันสั่งการได้แต่สั่ง ไม่มีคนทำ ท่านอย่าพูดอย่างนั้นเลย การอภิปรายครั้งนี้ท่านมาอภิปรายดิฉัน อย่าอภิปรายข้าราชการทั้งประเทศ ดิฉันแทบไม่ต้องสั่งการ ข้าราชการทั้งประเทศอยากทำเลย ข้าราชการก็อยากทำ เราทุกคนก็อยากทำทั้งประเทศ อย่าขีดเส้นตัดสินกันอย่างนี้เลย” แพทองธารระบุ
นายกฯ ยังระบุตอนหนึ่งด้วยว่า ที่ผ่านมาฝุ่นลดลงอย่างมาก ด้วยสิ่งต่างๆ ที่แต่ละกระทรวงทำ การที่ค่าฝุ่นลดลง เพราะเกิดการบูรณาการจากทุกฝ่ายร่วมกัน เช่น กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ 76 จังหวัด ให้ยกระดับปฏิบัติการ และการบังคับใช้ข้อกฎหมายอย่างเด็ดขาด มีการประกาศห้ามเผา ส่งผลให้การเผาในพื้นที่เกษตรลดลง มีการดำเนินคดีกับผู้ที่จงใจฝ่าฝืนถึง 133 คดี
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็มีการอนุมัติงบประมาณเรื่องไฟป่า โดยงบเหล่านี้ถือว่า ช่วยได้อย่างมากและยังกระจายงบประมาณไปยังกรมป่าไม้ กระจายไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังไฟป่ารวมทั้งหมด 3,895 จุด นอกจากนี้ยังมีการระดมสรรพกำลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร มีชุดปฏิบัติการมากกว่าปีที่แล้วถึง 40% ทำให้จุดความร้อนลดลงไปถึง 30%
“ผลงานที่เป็นรูปธรรม เราคงไม่สามารถทำให้ฝุ่นหายไปได้พริบตา เราคงไม่สามารถทำให้ฝุ่นหายไปได้พริบตา แต่เราก็เห็นแล้วว่า มีจุดความร้อน มีฝุ่นที่ลดลง จำนวนวันของฝุ่นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ลดลงเช่นกัน มันอาจมีบางวันที่มากขึ้นไป แต่พอเฉลี่ยจำนวนวันก็น้อยกว่าปีที่แล้ว เราคงดำเนินการอย่างนี้ต่อไป และคงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อไป”
นายกฯ ยังชี้แจงประเด็นการทำสัญญาซื้อไฟจากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้น โดยยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ยังไม่เคยอนุมัติซื้อไฟเพิ่มจากบริษัทใดเลย และการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนของประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกกล่าวหาว่าเอื้อกลุ่มทุน ก็เป็นสัญญาซื้อขายเก่าที่ทำมาหลายปีแล้ว ก่อนตนเองจะดำรงตำแหน่งนายกฯ
ขณะที่ปัญหาปลาหมอคางดำ ที่มีการเปรียบเทียบภาพที่ได้รับดอกไม้จากกลุ่มประมงพาณิชย์นั้น นายกฯ ชี้แจงว่า วันนั้นเป็นการรับตัวแทนจากสมาคมประมงจากหลายจังหวัด ที่มาขอบคุณนายรัฐมนตรีที่อนุมัติงบกลาง 1,622 ล้านบาท เพื่อชดเชยเรือประมง 923 ลำ จากกรณีการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) โดยเรื่องดังกล่าวก็เป็นปัญหามาจากรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งเช่นกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่เคยแยกว่าเป็นประมงพาณิชย์หรือประมงพื้นบ้าน
ทั้งนี้ในวันดังกล่าวได้มอบหมายให้ สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เป็นผู้ออกไปรับหนังสือกับชาวประมงที่มาประท้วงเรื่องปลาหมอคางดำ และยังมีอธิบดีกรมประมงไปฟังความเดือดร้อนจากประชาชนด้วย
ขณะที่ปัญหาการต่อสัญญารถไฟฟ้า 3 สนามบิน และการต่อสัญญาทางด่วน Double Deck ยังคงอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายปฏิบัติ ไม่ได้อยู่ในระดับนโยบาย โดยหลังจากนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นผู้ชี้แจงโดยละเอียดต่อไป
Tags: นายกรัฐมนตรี, อภิปรายไม่ไว้วางใจ, ประชุมสภา, แพทองธาร, แพทองธาร ชินวัตร, ดีลแลกประเทศ