เมื่อวานนี้ (17 เมษายน 2024) สำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่าเนสท์เล่ (Nestlé) บริษัทอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ใส่น้ำตาลและน้ำผึ้งลงในอาหารสำหรับเด็กที่จำหน่ายในประเทศโลกที่สาม ซึ่งขัดต่อแนวปฏิบัติสากลในอุตสาหกรรมอาหาร

ทั้งนี้ พับลิกอาย (Public Eye) หน่วยงานวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในสวิตเซอร์แลนด์ร่วมกับเครือข่ายนานาชาติสำหรับอาหารเด็ก (International Baby Food Action Network: IBFAN) ส่งตัวอย่างอาหารสัญชาติสวิสที่จำหน่ายในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกาไปตรวจสอบยังแล็บทดลองในประเทศเบลเยียม

ผลการตรวจสอบพบว่า บางสินค้าของเนสท์เล่มี ‘น้ำผึ้ง’ และ ‘น้ำตาล’ เจือปนในผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา เช่น เซเนกัล ฟิลิปปินส์ และไนจีเรีย โดยหนึ่งในสินค้าประกอบด้วย นิโด (Nido) นมผงทดแทนของเนสท์เล่ และซีรีแล็ค (Cerelac) อาหารเสริมธัญพืชสำหรับทารก 

ตามรายงานของไทม์ (TIME) การตรวจสอบครั้งนี้พบน้ำตาลสูงสุดในซีรีแล็คที่จำหน่ายในฟิลิปปินส์ถึง 7.8 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ขณะที่นมผงนิโดในปานามามีน้ำตาลสูงสุดถึง 5.3 กรัม ซึ่งฉลากภัณฑ์ 7 ใน 5 ประเทศของสินค้าไม่ได้ระบุว่า มีส่วนผสมดังกล่าวอยู่ด้วย 

ในทางกลับกัน ผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ชนิดเดียวกันที่จำหน่ายในยุโรป เช่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ปราศจากน้ำตาลตามที่หมายเหตุจริง โดยพับลิกอายและ IBFAN ประณามสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ‘สองมาตรฐาน’ ไม่เป็นธรรม และขัดต่อจริยธรรม รวมถึงสุขอนามัยของเด็ก

“เนสท์เล่จะต้องหยุดการกระทำที่เป็นอันตรายและสองมาตรฐาน รวมถึงยุติการใส่น้ำตาลลงในสินค้าสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ที่จำหน่ายไปยังทั่วทุกมุมโลก”

ลอเรนซ์​ กาเบเรลล์ (Laurent Gaberell) ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมและอาหารของพับลิกอาย ย้ำว่า การบริโภคน้ำตาลในเด็กและเยาวชนกำลังเป็นปัญหาใหญ่ นำไปสู่วิกฤตโรคอ้วนที่กำลังเกิดขึ้นในโลก ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อร่างกายมากมาย เช่น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) บัญญัติมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่มในยุโรปว่า ไม่ควรใส่น้ำตาลหรือส่วนผสมที่เพิ่มความหวานให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งในทางปฏิบัติมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศในโลก 

ขณะเดียวกัน โฆษกของเนสท์เล่แสดงความเห็นผ่านไทม์ต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยระบุว่า องค์กรควบคุมกระบวนการผลิตอาหารสำหรับเด็กด้วยความเข้มงวด และคำนึงถึงความละเอียดถี่ถ้วน ทั้งมาตรฐานในภาคท้องถิ่นหรือระดับสากลก็ตาม ก่อนจะย้ำว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทลดจำนวนการใส่น้ำตาลในผลิตภัณฑ์ทั่วโลกถึง 11% 

อย่างไรก็ตาม แบรนด์อาหารชื่อดังสัญชาติสวิสยอมรับว่า น้ำตาลในนมผงนิโดและซีรีแล็คอาจ ‘แตกต่างกัน’ ออกไปเล็กน้อย เนื่องจากกฎข้อบังคับและวัตถุดิบการผลิตในแต่ละท้องถิ่น

ปัจจุบัน ประชากร 1 ล้านคนกำลังเผชิญวิกฤตโรคอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา โดย WHO เปิดเผยว่า เด็กในแอฟริกาอายุต่ำกว่า 5 ปี มีน้ำหนักเกินมาตรฐานเพิ่มขึ้น 23% ตั้งแต่ปี 2000

อ้างอิง

https://www.theguardian.com/global-development/2024/apr/17/nestle-adds-sugar-to-infant-milk-sold-in-poorer-countries-report-finds

https://time.com/6968112/nestle-sugar-baby-milk-cereal-poorer-nations/

https://www.who.int/tools/elena/interventions/ssbs-childhood-obesity

Tags: , , , , , , ,