วันนี้ (11 กรกฎาคม 2025) รัฐบาลทหารเมียนมาเตรียมยื่นข้อเสนอ ขอลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา พร้อมส่งทีมเจรจาถึงที่ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีสูงถึง 40% ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ประเทศในอาเซียนจะได้รับข้อเสนอเจรจาภาษีที่ดีกว่าชาติอื่นๆ ในโลก

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีให้กับหลายประเทศทั่วโลก โดยเมียนมาและลาวเป็น 2 ประเทศในอาเซียน ที่เผชิญอัตราภาษีสูงที่สุดคือ 40% ขณะที่ตัวเลขของเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย กัมพูชา และไทย อยู่ที่ค่าเฉลี่ยราว 30% ซึ่งเนื้อหาภายในจดหมายอธิบายเหตุผลการขึ้นภาษีว่า มาจากการที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าประเทศเหล่านี้ พร้อมขีดเส้นตายไว้คือ วันที่ 1 สิงหาคม 2025

อย่างไรก็ตามสำนักข่าว Reuters รายงานว่า มิน อ่อง หล่าย (Min Aung Hlaing) ผู้นำเมียนมา เตรียมยื่นข้อเสนอลดภาษีให้เหลือเพียง 10-20% และยินดีส่งคนไปเจรจาถึงสหรัฐฯ โดยข้อเสนอแลกเปลี่ยนเบื้องต้นคือ เมียนมาจะลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ให้เหลือ 0-10% 

ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับการรายงานของสำนักข่าว Irrawady โดยวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา พลเอก ซอ มิน ตุน (Zaw Min Tun) โฆษกรัฐบาลทหาร ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Popular News สื่อภายใต้การควบคุมของรัฐฯ ว่า ทางการจะตอบโต้จดหมายของทรัมป์อย่าง ‘สร้างสรรค์’ และพยายามหาทางออกที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็นประเทศส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 4 ของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายในเมียนมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า แม้ไม่ใช่คู่ค้าที่ใหญ่ที่สุด แต่มีการประเมินว่า สงครามภาษีอาจทำให้เมียนมาสูญเสียมูลค่าทางการค้าถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท) 

เบื้องต้น สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเมียนมา (Myanmar Garment Manufacturers Association: MGMA) ออกมาแสดงความกังวลว่า ภาษีของทรัมป์จะกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าของเมียนมาให้ซ้ำหนักกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้ประเทศพึ่งพาการส่งออกเสื้อผ้าไปญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งรายได้มากกว่าเดิมในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่การซื้อขายจากตลาดสหภาพยุโรป (European Union: EU) ลดลง

ในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายเมียนมาทำเงินมูลค่า 5,000 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ต่อปี (ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท) โดยส่งออกไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือเพียง 4,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) เท่านั้น

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายในเมียนมาต้องเผชิญวิกฤตครั้งสำคัญจากการรัฐประหารปี 2021 ทั้งภาวะไฟฟ้าและเชื้อเพลิงขาดแคลน ขณะที่ระบบการควบคุมสกุลเงินเข้มข้น เพื่อคว่ำบาตรรัฐบาลทหาร ทำให้การส่งออกเสื้อผ้าเป็นไปได้ยากลำบาก

น่าสนใจว่าวันนี้ รูบิโอเผยระหว่างการเยือนมาเลเซียว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับข้อเสนอเจรจาภาษี ‘ดีกว่า’ ชาติอื่นๆ ในโลก พร้อมย้ำว่า สหรัฐฯ ไม่มีความตั้งใจที่จะทิ้งภูมิภาคนี้ โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา กับประเทศในอาเซียนที่เผชิญอัตราภาษีสูง 

“ผมอยากจะบอกว่า เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้ว หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าประเทศอื่นในโลก” รูบิโอกล่าว

อ้างอิง

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/myanmar-junta-chief-asks-trump-sharp-reduction-40-tariff-rate-2025-07-11/

https://www.irrawaddy.com/business/trumps-tariffs-to-hit-myanmars-garment-manufacturers-hard.html

https://edition.cnn.com/2025/07/07/economy/trump-letters-tariffs

https://www.theguardian.com/business/2025/jul/11/marco-rubio-asia-visit-trump-tariffs

Tags: , , , , , , , ,