เอกนัฏยื่นญัตติด่วน ‘ขบวนเสด็จ’ เร่งให้บังคับใช้กฎหมาย-ทบทวนแผน เกรงหากปล่อยจะกระทบความมั่นคง

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2567) ที่อาคารรัฐสภา เอกนัฏ พร้อมพันธุ์​ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมยื่นญัตติด่วนต่อสภาผู้แทนราษฎร กรณีป่วนขบวนเสด็จ โดยจะเป็นผู้เสนอญัตติด้วยตนเอง เอกนัฏอธิบายเหตุผลของการยืนญัตติดังกล่าวว่า หากเหตุการณ์รบกวนขบวนเสด็จไม่ได้รับการแก้ไข อาจบานปลายนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

สาระสำคัญของญัตติดังกล่าว เอกนัฏระบุ 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่

1. เร่งรัดการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบานปลายก่อให้เกิดการปะทะระหว่างประชาชนด้วยกันเอง

2. ทบทวนระเบียบ มาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัย ให้ระเบียบและแบบแผนการทำงานสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560

3. เมื่อปรับปรุงระเบียบและแผนการทำงานแล้ว ต้องมีการฝึกซ้อมและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไปรับรู้

เอกนัฏยังกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ตนไม่อยากจินตนาการหากมีการปล่อยปละละเลย จนอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าหญิงไดอาน่าของสหราชอาณาจักร

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ดีที่เหตุการณ์ยังไม่บานปลายไปจนถึงจินตนาการที่จะเกิดขึ้นได้” เอกนัฏกล่าว

สำหรับ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรม จะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยมีข้อหาทั้งหมด 3 ฐานความผิด ได้แก่

1. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ที่บัญญัติว่า

“ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต

“(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย

“(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ

“(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี”

2. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

3. ร่วมกันก่อความรำคาญในที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เตรียมยื่นคัดค้านการฝากขัง พร้อมทั้งขอไต่สวนการคัดค้านฝากขังเรียบร้อยแล้ว