วันนี้ (14 กรกฎาคม 2565) จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลังจากที่มีการตอบโต้จากทาง ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีจัดซื้อแท็บเล็ต iPad Pro โดยยืนยันว่ามีการจัดซื้อจริง หากแต่มีรายละเอียดผิดบางประการ โดยหน่วยงานที่ขอจัดซื้อคือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ไม่ใช่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดยปรากฏในเอกสารว่ามีการจัดซื้อรวมทั้งสิ้นไม่ใช่ 130 เครื่อง หากแต่เป็น 210 เครื่อง โดยเอกสารที่นำมาชี้แจงมี 2 ชุด ชุดหนึ่ง 130 เครื่อง และชุดหนึ่ง 210 เครื่อง

จิรัฏฐ์กล่าวต่อไปว่า ต้องขอบคุณนายธนกรที่ออกมาตอบโต้ จึงได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้ง 2 หน่วยงาน และพบว่า สลน. เองก็มีการสั่งซื้ออุปกรณ์นี้เช่นกัน โดยชื่อโครงการคือ ‘โครงการจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแทนระบบเดิม’ และให้เหตุผลความจำเป็นว่าเพื่อใช้ดูการประสานงานและอาจมีต่างประเทศบ้าง รวมถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่เห็นว่าการมีเครื่องมือดี จะทำให้คนเหล่านี้มาตอบกระทู้ถามสดของ ส.ส. เท่าไร ยิ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้นไม่เคยมาด้วยตัวเองเลย

“โครงการนี้อ้างว่าของเดิมใช้มา 5 ปีแล้ว แต่บรรทัดสุดท้ายของการจัดซื้อเขียนว่าจะใช้ไปอีกไม่น้อยกว่า 3 ปี ใช้งบประมาณทั้งหมดในโครงการราว 38 ล้าน งบขนาดนี้ต้องถามว่าเพื่อใช้งาน 3 ปีเท่านั้นแล้วก็เอาใหม่อีกใช่หรือไม่

“ในโครงการเขียนว่าแท็บเล็ตแบบที่ 1 แท็บเล็ตแบบที่ 2 แท็บเล็ตแบบที่ 3 โดยเฉลี่ยคือ 6 หมื่นบาท ซึ่งสเป็กนี้ก็มียี่ห้อเดียวในโลก ดังนั้นก็ควรเขียนว่า iPad ไปเลย ทุกคนจะได้รับรู้ตรงกัน และจะได้มีการพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่

“สำหรับโครงการจัดซื้อระบุว่า แท็บเล็ตแบบที่ 1 สเป็กต้องมีการประมวลผล 8 core ความจำ 512GB หน้าจอ 12-13 นิ้ว ซึ่งจะเหลือเพียงไม่กี่ยี่ห้อ ทั้งยังระบุว่าต้องมีบลูทูธ​และใส่ซิมได้ กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล มีปากกา มีคีย์บอร์ด มีเคส เขียนมา 10 บรรทัด ซึ่งชัดเจนว่าเป็น iPad Pro แต่น่าสังเกตว่า เป็นสเป็กเพื่องานเขียนโปรแกรมและงานตัดต่อทักษะสูง ซึ่งต้องตั้งคำถามว่าการประสานงานจำเป็นต้องใช้ขนาดนี้เลยหรือ

“รายการสุดท้าย เขียนว่าแท่นแท็บเล็ต ก็คือ Magic Keyboard แพงมากจนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าเจตนาที่ต้องการแท่นแท็บเล็ตคืออะไร เห็นว่าต้องการความสะดวก ถือไปไหนมาไหนได้ แล้วจะมาซื้อแท่น มาวางจอเหมือนคอมพิวเตอร์ทำไม ถ้าอย่างนั้นก็ไปซื้อโน้ตบุ๊กดีกว่า ราคา 2.5 หมื่นบาท ก็ได้รุ่นดีๆ แล้ว”

จิรัฏฐ์กล่าวอีกว่า การเขียนงบประมาณแบบคลุมเครืออย่างแท็บเล็ตแบบที่ 1, 2 และ 3 ทำให้ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกันแน่ ซึ่งการซื้อของร้านสะดวกซื้อยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ และส่อไปในทางทุจริต ไม่โปร่งใส

“ถ้าคุณเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อเงินทุกบาททุกสตางค์ เพราะเป็นภาษีของประชาชน ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มีประชาชนกี่คนที่ได้เงินเดือนถึง 6 หมื่นบาท แต่ทางรัฐบาลกลับจะซื้อแท็บเล็ตราคา 6 หมื่นบาทให้ข้าราชการใช้เกินกว่าความจำเป็นในหน้าที่การงาน เรื่องนี้จึงไม่ถูกต้อง”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ธนกรได้เผยแพร่ข่าวตอบโต้จิรัฏฐ์ โดยระบุตอนหนึ่งว่า จิรัฏฐ์นำข้อมูล 2 โครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยมาแต่งเป็นนิทานเรื่องใหม่ โดยโครงการแรกเป็นการขอจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ALL-IN-ONE จำนวน 138 เครื่อง เพื่อทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือ 7 ปีตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงบประมาณกำหนด ส่วนโครงการที่ 2 คือโครงการจัดทำฐานข้อมูลภารกิจด้านต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีที่มีรายการจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมอุปกรณ์เพียง 6 เครื่องเท่านั้น คิดเป็นค่าขอจัดซื้อคอมพิวเตอร์ (รวมค่าระบบปฏิบัติการ) และแท็บเล็ตรวมทั้ง 2 โครงการ 4.03 ล้านบาท ไม่ใช่ขอจัดซื้อแท็บเล็ตตัวท็อป 10 ล้านบาท ตามที่กล่าวอ้าง

Tags: , ,