วันนี้ (1 เมษายน 2567) ที่ทำการพรรคก้าวไกล เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข รองประธานคณะกรรมาธิการการทหารและ ส.ส.เขตบึงกุ่ม พรรคก้าวไกล แถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการพลทหารปลอดภัยของ กมธ.การทหาร ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดหวังจะแก้ไขปัญหาความไม่ไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อกองทัพ โดยมีความคาดหวัง ดังนี้
1. รับเรื่องร้องเรียนจากพลทหาร กำลังพล ครอบครัว หรือผู้พบเหตุ ในกรณีที่ทหารไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้รับบาดเจ็บหรือการธำรงวินัยที่ผิดวิธีจากกองทัพ กมธ.การทหารจะมุ่งยุติเหตุทันทีและประสานงานโดยตรงกับกระทรวงกลาโหมหรือตัวแทนเหล่าทัพ
2. หากเหตุการณ์เกิดขึ้นและไม่สามารถยับยั้งได้ทันท่วงที หรือพลทหารเสียชีวิตหรือบาดเจ็บร้ายแรง กมธ.จะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และดำเนินการเรื่องโดยแจ้งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือสำนักงานสอบสวนของอัยการสูงสุด
3. หากกำลังพลเก่าหนีทหาร กมธ.จะเปิดช่องทางให้พลทหารเก่าเข้าสู่กรมกองด้วยความปลอดภัยเพื่อคืนสิทธิการใช้ชีวิตของกำลังพลให้ได้
4. เพื่อป้องกันไม่ให้พลทหารเผชิญปัญหาความวิตกกังวลและปัญหาทางความคิดที่กระทำ จนนำมาสู่การอัตวินิบาตกรรมตนเอง กมธ.จะนำจิตแพทย์เข้าพบกำลังพลให้เป็นแบบอย่าง (Role Model) กับกระทรวงกลาโหมต่อไป
ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นก้าวแรกของพลทหารปลอดภัย ในเมื่อวันนี้ยังไม่สามารถยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการคุ้มครองกำลังพล คุ้มครองความปลอดภัย และเป็นพื้นที่ให้ครอบครัวกำลังพลทหารอุ่นใจว่า จะมี ส.ส.จะอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์
นอกจากนั้นแล้ว ร.ท.ธนเดชยังเผยอีกว่า พรรคก้าวไกลจะยื่นกฎหมายอีกฉบับ ซึ่งจะไม่ใช่ร่างทางการเงิน แต่เป็นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลเสนอร่างกฎหมายยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหารไปเมื่อ 18 กรกฎาคม 2566 แต่ร่างดังกล่าวยังค้างอยู่ในสภาฯ ทั้งนี้หวังว่า ร่างของพรรคก้าวไกลจะเป็นร่างที่วัดใจรัฐบาลว่า สิ่งที่เคยพูดเมื่อหาเสียงครั้งการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ทุกพรรคจะทำด้วยความจริงใจหรือไม่
ร.ท.ธนเดชเผยว่า การยกเลิกการเกณฑ์ทหารมีด้วยกัน 2 แบบ คือ
1. ลุ้นปีต่อปี
2. การันตีไม่มีเกณฑ์ทหาร
ในปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยความต้องการกำลังพลที่ 9 หมื่นนาย และมียอดสมัครรับราชการกว่า 3 หมื่นนาย หมายความว่า มีประชาชน 6 หมื่นคนเข้าไปเสี่ยงจับใบดำ-ใบแดงโดยไม่เต็มใจ
ร.ท.ธนเดชระบุว่า การมีอยู่ของการเกณฑ์ทหารไม่ได้มีผลดีเลย เพราะทุกคนที่ถูกเกณฑ์ไปนั้นมีต้นทุนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ความเจริญเติบโตหน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งการดูแลบุพการีและครอบครัว
ทั้งนี้ ร.ท.ธนเดชยืนยันว่า การยกเลิกเกณฑ์ทหารของพรรคก้าวไกล จะไม่กระทบต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างแน่นอน โดยข้อเสนอของพรรคก้าวไกล คือ
1. ลด Demand: หากกองทัพพิจารณาความต้องการกำลังพลด้วยความตั้งใจจะพบว่า พลทหารหลายนายถูกใช้ไปในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายไปอยู่บ้านเจ้านาย การจำหน่ายไปอยู่ที่พักของบุคคลสำคัญ และการจำหน่ายเป็นยอดผี ซึ่งคาดว่ากำลังพลที่ต้องการใช้จะอยู่ที่ 5 หมื่นรายเท่านั้น
2. เพิ่ม Supply: เพิ่มสวัสดิการจูงใจให้คนสมัครเข้าไปเป็นกำลังพล ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต การประกันรายได้และสวัสดิการ หรือแม้แต่การคุ้มครองความปลอดภัยพื้นฐาน ซึ่งเป็นภารกิจพื้นฐานของกองทัพอยู่แล้ว
“หากเราสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตกำลังพลในอนาคตได้ ผมมั่นใจว่าจะมีประชาชนอีกไม่น้อยที่พร้อมสมัครใจไปเป็นรั้วของชาติ” ร.ท.ธนเดชกล่าว
สุดท้าย ร.ท.ธนเดชหวังว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่า “ทหารต้องมาจากการสมัครใจไม่ใช่การเกณฑ์” จะกล้าหาญพอที่จะเซ็นผ่านร่างนี้บรรจุเข้าสภาฯ ในอนาคต และหวังว่า เพื่อนสมาชิก ส.ส.จะให้การสนับสนุนและเดินหน้าไปสู่การยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบถาวร
Tags: พรรคก้าวไกล, ก้าวไกล, ยกเลิกเกณฑ์ทหาร, จับใบดำใบแดง