“เด็กพวกนี้เหมือนของที่ใช้แล้วทิ้ง พวกเขาใช้เด็กๆ ทำงาน แต่สุดท้ายสิ่งที่เด็กเหล่านี้ต้องเผชิญคือความตาย”
นี่คือความเห็นของ กาเบรียลา ลุยซ์ (Gabriela Ruiz) ผู้เชี่ยวชาญด้านเยาวชนจาก National Autonomous University of Mexico แสดงความคิดเห็นในกรณีจำนวน ‘อาชญากรเด็ก’ ในเม็กซิโก ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ล่าสุดสำนักข่าว Reuters เปิดเผยสกู๊ปพิเศษเบื้องหลังการก่ออาชญากรรมเด็กในเม็กซิโก หลังแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่พยายามล่อลวงเยาวชนให้ทำงานเป็น ‘นักฆ่า’ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดียและเกมที่มีเนื้อหารุนแรงอย่าง Free Fire โดยในช่วงที่ผ่านมา Bureau of International Labor Affairs (ILAB) ประเมินว่า เด็กราว 3 หมื่นคน เข้าร่วมแก๊งอาชญากรรมค้ายา ขณะที่อีก 2 แสนคน ตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกล่อลวงไปค้ามนุษย์ ซึ่งเหยื่ออายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 6 ปีเท่านั้น
วิธีก่อเหตุของอาชญากรคือ การชักชวนเด็กผ่านเกมออนไลน์ โดยอ้างว่า หากทำงานนี้แล้วจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือบางกรณีล่อลวงด้วยความเชื่อทางศาสนา โดยในปี 2021 มีเด็กชายวัย 11-14 ปี จากเมืองโออาซากา ถูกล่อลวงจากเกม Free Fire เป็นเหตุให้กองกำลังป้องกันชาติเม็กซิโก พยายามออกมาตรการตรวจวิดีโอเกมให้มีความปลอดภัยสำหรับเด็ก ขณะที่สภาล่างกำลังพิจารณากฎหมายเอาผิดกับเกม เพลง และรายการโทรทัศน์ที่มีความรุนแรง
สาเหตุที่เยาวชนตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรค้ายา เพราะเชื่อกันว่าเด็กเหล่านี้ใช้งานง่าย เชื่อฟังมากกว่าผู้ใหญ่ ค่าตัวถูก และทดแทนกันได้ง่าย โดยแก๊งค้ายาจะให้เด็กทำงานตั้งแต่หน้าที่เล็กๆ อย่างส่งข้อความลับ เป็นหน่วยดูลาดเลา ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างการจับปืนเป็นนักฆ่า ซึ่งสมาชิกในกลุ่มค้ายาสารภาพกับ Reuters ว่า เด็กอายุเพียง 8 ปี ก็ทำงานดังกล่าวได้แล้ว
เหล่านี้สะท้อนจาก ‘โค้ดลับ’ ในกลุ่มแก๊งค้ายา ซึ่งมักจะเรียกเด็กเหล่านี้ว่า ‘Pollitos de Colores’ หรือ ‘ลูกไก่หลากสี’ โดยเปรียบเปรยพวกเขากับลูกไก่ตัวเล็กๆ ตามตลาดนัดที่มักพ่นสีสังเคราะห์ ซึ่งมักมีลักษณะร่วมกับเยาวชนคือ ราคาถูก มีความสดใส และอายุสั้น
โซล (Sol) หญิงวัย 20 ปี ออกมาเล่าประสบการณ์ของเธอในเส้นทางอาชญากรค้ายากับ Reuters ว่า เธอเคยเป็นเด็กขายกุหลาบหน้าบาร์แห่งหนึ่ง แต่ถูกชักชวนโดยแก๊งค้ายา โดยเริ่มต้นจากตำแหน่งเป็นคนดูลาดเลา แต่นายหน้าค้ายาชื่นชอบทักษะความกระตือรือร้น ความจงรักภักดีของเธอ และคิดว่าเธอจะไม่ได้รับโทษรุนแรง หากถูกจับได้ เพราะยังเป็นเด็กอยู่
สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือ โซลเริ่มติดเมทแอมเฟตามีนตั้งแต่อายุ 9 ปี และก่อเหตุฆาตกรรมตอน 12 ปี โดยที่เธอปฏิเสธไม่เล่าว่า ได้ก่อเหตุสังหารใครไปแล้วกี่คน ซึ่งที่ผ่านมา โซลเคยถูกจับในคดีลักพาตัวตอนอายุ 16 ปี และได้รับโทษอยู่ในสถานพินิจเป็นเวลา 3 ปี
“ฉันทำตามเจ้านายแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ฉันคิดว่าพวกเขารักฉัน” โซลอธิบาย ขณะนี้ เธอกำลังอยู่ในสถานบำบัดที่เม็กซิโกภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ และพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยที่สำนักข่าวไม่เปิดเผยนามสกุลและที่อยู่ชัดเจน เพื่อป้องกันความปลอดภัยของเธอ
จากการสัมภาษณ์เหยื่อเด็กจำนวนทั้งสิ้น 20 ราย ทั้งกำลังทำงานอยู่หรือเป็นอดีตมือสังหาร หลายคนกำลังเผชิญชะตากรรมไม่ต่างจากโซล ซึ่งมีอาการติดยาหรือถูกชักชวนโดยญาติพี่น้องคนใกล้ตัว เช่น อิซาเบล (Isabel) เด็กหญิงวัย 19 ปี ที่เผชิญบาดแผลทางจิตใจและโรคซึมเศร้า เธอเล่าว่ามาทำงานนี้ได้เพราะลุง โดยตอนนั้นเธออายุเพียง 14 ปี แต่ถูกครูในโรงเรียนข่มขืน ลุงจึงลงมือฆ่าครู ส่งผลให้ต่อมาทั้งสองย้ายมาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา จนเธอเกิดตั้งครรภ์ แต่ภายหลังแท้งลูกเพราะมีอาการติดยาเสพติดอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน การสัมภาษณ์เหยื่อทำให้ Reuters ได้ข้อมูลใหม่ว่า แก๊งค้ายากำลังพยายามเพิ่มจำนวนอาชญากรเด็ก จึงนับว่าเป็นภาพความล้มเหลวของสังคมเม็กซิโก และรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึง คลอเดีย เชนปาม (Claudia Sheinbaum) ประธานาธิบดีหญิงคนล่าสุดที่แก้ไขปัญหาไม่สำเร็จ
อ้างอิง