วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2566) ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดี ชัยภูมิ ป่าแส นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาติพันธุ์ลาหู่ หลังถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เมื่อเช้าวันที่ 17 มีนาคม 2560 หลังคดีล่วงเลยมา 6 ปี ศาลฎีกาพิพากษาสั่งให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเงินจำนวน 2,072,400 บาท หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ทำให้กองทัพบกไม่ต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายใดๆ แก่ครอบครัวของชัยภูมิ โดยให้เหตุผลว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

สำหรับเหตุผลที่ศาลฎีกาพิพากษาแย้งกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ประการหนึ่ง คือการอ้างว่าชัยภูมิมีระเบิดจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องยิงป้องกันตัว ฟังไม่ได้ เพราะจากภาพที่ปรากฎ มีการเปิดประตูรถทั้งสี่บาน เปิดท้ายรถ และเปิดด้านหน้ารถทั้งหมดแล้ว ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ฉะนั้น การที่ตรวจไม่เจอแล้วชัยภูมิจะวิ่งไปเอาระเบิดในภายหลังมาปาใส่เจ้าหน้าที่ เป็นไปไม่ได้ ศาลจึงเห็นว่า คำให้การจากฝั่งของเจ้าหน้าที่ไม่มีน้ำหนักพอ นอกจากนี้ ยังไม่พบเช่นกันว่า มีลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอของชัยภูมิในวัตถุระเบิดที่พ

สำหรับจำนวนเงิน 2,072,400 บาท เป็นไปตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางการละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 โดยกองทัพบกต้องชดใช้จากการที่เจ้าหน้าที่ทหารกระทำโดยประมาทเลินเล่อ ทำให้ชัยภูมิเสียชีวิต โดยเป็นค่าเสียหายต่อมารดาของชัยภูมิสมทบด้วยดอกเบี้ย

“เขายิงเพียงนัดเดียว ถ้าเป็นผมอาจกดออโต้ไปแล้ว” – พลเอก วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่

“จะให้ทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็กลัวตายเหมือนกัน” – พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

หากพอจำกันได้ ผู้บัญชาการทหารเหล่านี้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกิดเหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรมชัยภูมิ แล้ว ‘เขา’ คือใคร ทำไมถึงถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ?

ชัยภูมิ ป่าแส หรือ ‘จะอุ๊’ เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เขาเป็นนักกิจกรรมกลุ่มรักษ์ลาหู่ โดยมีวัตถุประสงค์ในการรวมกลุ่มเยาวชนทำกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด แต่เมื่อเช้าวันที่ 17 มีนาคม 2560 บริเวณด่านตรวจถาวรบ้านรินหลวงในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จะอุ๊กลับถูกสามัญฆาตกรรม พร้อมกับตั้งข้อหามีความผิดฐานครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด

โดยวันนั้น ชัยภูมิขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่า เขาพยายามขัดขืนและควักระเบิดจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ จึงถูกสังหารและเสียชีวิตคาที่ โดยผลชันสูตรศพพบว่าเขาถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16

ความคิดเห็นของผู้บัญชาการทหารในคดีของชัยภูมิ

พลเอกวิจักขฐ์กล่าวว่า มีหลักฐานชัดเจนในการโอนเงินการใช้จ่าย ให้เด็กคนหนึ่งที่ไม่ทำอะไรเลย ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แม้การเคลื่อนไหวด้านสังคม-ด้านเชื้อชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่เขาเข้าไปในวงจรยาเสพติด อาจจะมีความจำเป็นทางการเงินเลยหลงผิด แต่ขณะเดียวกัน เตือนใจ ดีเทศน์ อนุกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เงินที่เข้ามาในบัญชีของชัยภูมิเป็นเพียงหลักพันเท่านั้น ซึ่งมาจากการขายกาแฟออนไลน์ และขอให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยหลักฐานกล้องวงจรปิดต่อสังคม

ส่วนพลเอกประวิตรก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนแล้ว แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีระเบิดอยู่ในมือ จึงต้องป้องกันตัว “จะให้ทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็กลัวตายเหมือนกัน”

ความไม่ชอบมาพากล และกระบวนการยุติธรรมที่ถูกตั้งข้อกังขา

ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุหายไป ทั้งที่พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ตำแหน่ง ณ ขณะนั้น) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ดูภาพกล้องวงจรปิดดังกล่าวแล้ว แต่ภายหลังการไต่สวนคดีเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ภาพของกล้องวงจรปิดกลับหายไป โดยกองทัพระบุว่า ถูกบันทึกเทปทับไปแล้ว

คดีนี้จึงถูกตั้งคำถามจากสังคมเป็นอย่างมาก บ้างก็กล่าวว่ามีการ ‘ยัดยา’ หรือเพราะเป็นบุคคลชาติพันธุ์จึงถูกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยม ในที่เกิดเหตุมีหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิดถึง 9 ตัว แต่ภาพดังกล่าวไม่เคยเปิดเผยมายังสาธารณชน สุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความจากศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ตั้งคำถามต่อคดีนี้ว่า ชัยภูมิมีระเบิดจริงหรือไม่ ภาพที่ปรากฏในข่าวว่ามีระเบิดคือหลังจากที่เขาเสียชีวิต ระเบิดหยิบมาจากรถของเขาจริงหรือไม่ หลักฐานเหล่านี้หายไป เหลือเพียงคำให้การของเจ้าหน้าที่ทหารเท่านั้น นอกจากนี้ บริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดถึง 9 ตัว ใช้ได้จริง 6 ตัว มีหนึ่งตัวบันทึกภาพลานตรวจค้นได้ แต่หลักฐานนี้กลับหายไป

ภายหลังที่ นาปอย ป่าแส แม่ของชัยภูมิ เป็นโจทก์ฟ้องร้องค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 โดยเป็นจำเลยตั้งแต่ปี 2562 ผ่านการฟ้องร้องทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ผ่านมาถูกพิพากษายกฟ้องทั้งหมด จนมาถึงวันนี้ที่ศาลฎีกาพิพากษาให้กองทัพบกต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

อ่าน 4 ปี คดีวิสามัญฯ ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ กระบวนการยุติธรรมที่ถูกกังขา และกล้องวงจรปิดที่สาบสูญ ได้ทาง https://themomentum.co/report-4y-chaiyaphum/

ที่มา

https://twitter.com/CrCF_Thailand/status/1724728463498895777

https://twitter.com/CrCF_Thailand/status/1724984343830081844

Tags: