วันนี้ (15 เมษายน 2025) สำนักข่าว The Straits Times รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศยุบสภา พร้อมเดินหน้าจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ถือเป็นการลงคะแนนเสียงท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ขณะที่ ลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ออกโรงขอคะแนนเสียงจาก Gen Z หลังคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งต้องการให้พรรคฝ่ายค้านมีบทบาทในหน้าการเมืองมากขึ้น
การเลือกตั้งระดับชาติของสิงคโปร์จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม โดยมีการคาดการณ์ว่า พรรคกิจประชาชน (People’s Action Party: PAP) ต้องส่งผู้ท้าชิงหน้าใหม่มากกว่า 30 คนในรอบหลายปี ขณะที่ประเด็นสำคัญที่เป็นไฮไลต์หลักในการเลือกตั้งคงหนีไม่พ้นปัญหาปากท้อง หลังสิงคโปร์เผชิญภาวะเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2022 แม้ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามปรับใช้มาตรการเพื่อผ่อนปรนราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทว่าผลกระทบจากสงครามการค้ายังเป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ทำให้การแก้ไขปัญหาอาจไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีงานหินมากกว่าเดิม และไม่สามารถละเลยปัจจัยสำคัญอย่างผู้ลงคะแนนเสียงกลุ่ม New Voter คือ คนรุ่นใหม่ในกลุ่ม Gen Z ที่กำลังขึ้นมามีบทบาทในภาคการเมือง และมองหาตัวเลือกใหม่ที่ไม่ใช่พรรค PAP ที่ครองการเมืองตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา โดยบางส่วนต้องการให้ฝ่ายค้านมีบทบาททางการเมือง เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลมากขึ้น
เหล่านี้สะท้อนจากกลยุทธ์หาเสียงของหว่อง โดยก่อนหน้าการประกาศยุบสภา 1 วัน แอ็กเคานต์เฟซบุ๊กของนายกฯ โพสต์วิดีโอส่งข้อความยกย่องกลุ่มคนรุ่นใหม่ว่า เด็ก Gen Z ไม่ได้มั่นใจตนเองเกินไป หรือขาดความยืดหยุ่นดังที่ใครหลายคนกล่าวหา แต่เป็นเพราะหลายคนมองไม่เห็นภาพรวมความต้องการของคนรุ่นนี้ทั้งหมดต่างหาก
“คน Gen Z จะไม่ทนกับอะไรเดิมๆ และโลกกำลังเปลี่ยนแปลง พวกเราเข้าใจพวกคุณ และผมก็เข้าใจพวกคุณ” หว่องกล่าวต่อว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กรุ่นนี้จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างจริงจัง และเขาเองก็มีโอกาสครั้งแรกที่จะลงสนามเลือกตั้ง เพื่อคว้าโอกาสนำพาประเทศไปข้างหน้า พร้อมกับสัญญาว่า เขาจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน
เบื้องต้น มุสตาฟา อิซซูดดิน (Mustafa Izzuddin) นักวิเคราะห์การเมืองจาก Solaris Strategies Singapore เปิดเผยกับสำนักข่าว AFP ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดของพรรค PAP ทั้งสภาพบรรยากาศในช่วงเลือกตั้ง และท่าทีของฝ่ายค้านที่มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม อิซซูดดินยังเชื่อว่า พรรค PAP ยังคงครองหน้าการเมืองสิงคโปร์อยู่ หากแต่อำนาจของฝ่ายค้านจะเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน แต่หว่องก็ต้องโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่า สงครามภาษีเป็นภัยคุกคามของสิงคโปร์ และมีแต่พรรค PAP เท่านั้นที่จะปกป้องประเทศได้
ในการเลือกตั้งปี 2020 พรรค PAP ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 61.23% หรือคิดเป็น 83 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแรงงาน (Workers’ Party: WP) ในฐานะฝ่ายค้าน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หลังครองคะแนนเสียง 10 ที่นั่งจาก 93 ที่นั่ง ซึ่งมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งในอดีตถึง 4 ที่นั่ง
อ้างอิง
– https://www.france24.com/en/live-news/20250415-tough-singapore-election-expected-for-non-lee-leader
Tags: ลอว์เรนซ์หว่อง, พรรคPAP, เลือกตั้งสิงคโปร์, สิงคโปร์