วันนี้ (22 มีนาคม 2567) ที่รัฐสภา ทนายแจม-ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.เขตสายไหม พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2567 ตอนหนึ่ง ถึงงบประมาณค่าฝึกยุทธวิธีตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ภายหลังเหตุการณ์ตำรวจถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติทำร้ายที่จังหวัดภูเก็ต โดยพบว่า โครงการดังกล่าวได้รับการจัดสรรงบกว่า 388 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าฝึกยุทธวิธีตำรวจมีลักษณะ ‘หัวโต-ขาลีบ’ โดยแบ่งออกเป็น 5 โครงการย่อย ได้แก่ งบสำหรับโครงการถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ฯ หรือ ‘Local CAT’ 299 ล้านบาท, โครงการบังคับใช้กฎหมายและบริการประชาชน 45 ล้านบาท, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 17 ล้านบาท, โครงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 15 ล้านบาท และโครงการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงภายในประเทศ 12 ล้านบาท
ศศินันท์ตั้งข้อสังเกตในงบประมาณ Local CAT ที่ได้รับการจัดสรรกว่า 299 ล้านบาทว่า มีความซ้ำซ้อนกับโครงการของหน่วยงานอื่น เช่น โครงการฝึกอบรมชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนร่วมเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข (ชป.กร.) ซ้ำซ้อนกับโครงการของกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หรือต่อให้ไม่มีโครงการนี้ตำรวจก็ต้องทำให้ประชาชนมีความสุขอยู่แล้ว
ส่วนการจัดสรรงบประมาณโครงการดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 โครงการ มีการระบุวัตถุประสงค์ที่เหมือนกัน และได้รับการจัดสรรรวมกว่า 32 ล้านบาท แต่งบประมาณที่ใช้ดูแลประชาชนทั้งประเทศกลับได้รับการจัดสรรเพียง 45 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนั้น ศศินันท์ยังกล่าวอีกว่า การจัดทำงบประมาณของ สตช.มีปัญหา ‘Copy&Paste’ ทำให้งบประมาณต้องจ่ายเกินจริงเกิดขึ้นทุกปี โดยยกตัวอย่างกรณีการจัดทำงบค่าตอบแทนนักจิตวิทยา ที่ทุกปีจัดสรรงบเพียง 4.2 ล้านบาท แต่ในปี 2565 จ่ายจริงกลับสูงถึง 12.9 ล้านบาท และ ในปี 2566 มียอดงบประมาณ 14.4 ล้านบาท
“การจัดสรรงบประมาณ สิ่งที่สำคัญมากๆ คือตัวชี้วัด วิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร ต้องอย่าลืมว่าองค์กรตำรวจ วิสัยทัศน์-เป้าหมาย คือประชาชนจะต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธา ดังนั้นจัดสรรงบประมาณจะต้องเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่ได้ตั้งเอาไว้” ศศินันท์กล่าวทิ้งท้าย
Tags: ทนายแจม, งบประมาณ2567, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, รัฐสภา, พรรคก้าวไกล