วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2022) สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (South China Morning Post) รายงานว่า สถาบันการเงินจากจีนแผ่นดินใหญ่กำลังพิจารณากลับมาให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอีกครั้ง หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของจีนสั่งปราบปรามการขุดและซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวอย่างกว้างขวางเมื่อปีที่แล้ว

รัฐบาลจีนมองว่าคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เป็นภัยต่อความมั่นคงทางการเงิน และห้ามไม่ให้ธนาคารทุกแห่งเปิดให้ประชาชนทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดังกล่าว เช่น การห้ามซื้อขายบิตคอยน์ (ฺBitcoin) หนึ่งในสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี

แม้ช่วงที่ผ่านมา ฮ่องกงจะประสบกับความท้าทายมากมาย ทั้งมาตรการการเดินทางที่เข้มงวด ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่ส่งผลโดยตรงให้เศรษฐกิจภายในประเทศถดถอย ทว่าปีนี้ทางการได้ออกนโยบายจำนวนหนึ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและกลับมาเป็น ‘ศูนย์กลางคริปโตเคอร์เรนซี’ อีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือนโยบายการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการรายใหญ่เพื่อขายสกุลเงินดิจิทัลให้ผู้ค้ารายย่อย

โรเบิร์ต ลุ่ย (Robert Lui) หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล สถาบัน Deloitte China ของฮ่องกง ระบุในงาน Hong Kong’s FinTech Week เมื่อวานนี้ว่า ธนาคารขนาดใหญ่ในจีนจำนวนหนึ่งเตรียมกลับมาให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลในประเทศ หนึ่งในนั้นคือบริการซื้อและขายคริปโตเคอร์เรนซี

ลุ่ยระบุว่า สถาบันการเงินหลักของจีนบางแห่งได้พัฒนา ‘NFT’ (Non-Fungible Token) สินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งแต่ละโทเคน (หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อแสดงสิทธิในการร่วมลงทุน) มีลักษณะเฉพาะตัวและไม่สามารถผลิตขึ้นมาซ้ำได้ รวมทั้งพัฒนาบริษัทเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส (Metaverse) เพื่อทำธุรกิจในฮ่องกงอยู่แล้ว ทว่าในปีที่ผ่านมา มาตรการของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ทำให้หลายธุรกิจต้องชะลอตัวลง

“แต่ตอนนี้ ทางการออกนโยบายที่ชัดเจนขึ้นแล้ว และอนุญาตให้ชาวฮ่องกงซื้อขายสกุลเงินดังกล่าวได้”

รัฐบาลยังมีแผนศึกษาวิธีการพัฒนาการซื้อขาย ‘ETF’ (Exchange-Traded Funds) หรือกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ผ่านตลาดคริปโตเคอร์เรนซี รวมทั้งปรับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเข้ากับระบบสัญญาอัจฉริยะ และสินทรัพย์โทเคนด้วย

คริสโตเฟอร์ ฮุย (Christopher Hui) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกง กล่าวว่ารัฐบาลมองเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ซึ่งใช้กับสกุลเงินดิจิทัล (Distributed Ledger Technology: DLT) และแนวคิดการใช้งาน Web 3.0 ที่เอื้อให้ผู้ใช้งานถือสิทธิความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็น ‘อนาคตของวงการการเงิน’

เอลิซาเบธ หว่อง (Elizabeth Wong) ผู้อํานวยการฝ่ายออกใบอนุญาต สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (The Securities and Futures Commission: SFC) กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า “แม้ฮ่องกงจะต้องยึดหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ทว่าจุดยืนของเราต่อคริปโตเคอร์เรนซีแยกขาดจากจุดยืนของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างชัดเจน”

คิง เหลียง (King Leung) หัวหน้าหน่วยงานด้านเทคโนโลยีทางด้านการเงินของ Invest Hong Kong ของรัฐบาล กล่าวว่า ธุรกิจเกมอาจเป็น ‘พื้นที่ใหม่’ ที่ผู้ประกอบการจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเข้ามาทดลองใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงได้

“ในจีนมีเกมเมอร์มากมายที่มีความสามารถ และมีเงินมหาศาลซึ่งยังใช้พื้นที่ของเว็บ 2.0 อยู่ ดังนั้นฮ่องกงอาจเชื่อมเว็บ 3.0 เข้ากับการเล่นเกม และใช้สกุลเงินดิจิทัลในการใช้จ่ายในนั้นจริงๆ ผมว่านี่อาจเป็นอนาคตใหม่ของวงการเกม ลองคิดดูถ้าคุณเป็นคนพัฒนาเกมในเว็บ 2.0 คุณจะอยากไปที่ไหนต่อ คุณก็ต้องอยากย้ายมาในเว็บ 3.0 ซึ่งฮ่องกงกำลังพัฒนา

“จากการที่ผู้สนใจสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากในจีนถูกรัฐบาลกลางตรวจสอบและปราบปรามอย่างหนักในปี 2021 พอฮ่องกงประกาศนโยบายนี้ พวกเขาตื่นเต้นมาก เพราะพวกเขามีโอกาสกระโดดเข้ามาในตลาดของประเทศเราได้”

ที่มา

https://www.scmp.com/tech/tech-trends/article/3198138/mainland-chinese-banks-banned-crypto-assets-home-weigh-services-hong-kong-after-policy-change

https://www.scmp.com/business/companies/article/3150049/chinas-central-bank-intensifies-cryptocurrency-crackdown-it

Tags: , , ,