วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2565) มีการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลนัดชิงแชมป์ หรือ ศึกซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) ครั้งที่ 56 ที่สนามโซไฟสเตเดียม นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการชิงชัยกันระหว่าง ลอสแองเจลิส แรมส์ (Los Angeles Rams) และ ซินซินเนติ เบงกอลส์ (Cincinnati Bengals) ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีของสหรัฐอเมริกา และมีผู้ติดตามชมการถ่ายทอดสดทั่วโลก
การนอกจากชิงชัยระหว่างทั้งสองทีมบนสังเวียนแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ทุกครั้งของศึกซูเปอร์โบวล์ที่ทุกคนจับตามองคือ Halftime Show หรือการแสดงช่วงพักครึ่ง ซึ่งจะมีการนำศิลปินระดับแถวหน้ามาแสดงดนตรีพร้อมโปรดักชันสุดอลังการ โดยในปีนี้เป็นคิวของ 5 ศิลปินชื่อดังอย่าง Dr. Dre, Snoop Dogg, Eminem, Mary J. Blige และ Kendrick Lamar
ระหว่างการแสดง Halftime Show ของปีนี้ มีหนึ่งไฮไลต์ที่ทุกคนให้ความสนใจ คือช่วงที่ Eminem แร็ปเปอร์ระดับตำนานของวงการชาวอเมริกันกำลังแสดง เขาได้ทำการ ‘คุกเข่า’ ซึ่งเป็นท่าทางที่เข้าใจกันดีว่าเป็นการทำเพื่อประท้วงความไม่ยุติธรรมทางเชื้อชาติและเรียกร้องความเท่าเทียม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา อันมีจุดเริ่มต้นมาจาก โคลิน เคเปอร์นิก (Colin Kaepernick) อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลของทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส (San Francisco 49ers)
ในปี 2016 โคลินถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการเลือกไม่ยืนเคารพธงชาติสหรัฐอเมริกา ระหว่างเพลงชาติกำลังบรรเลง ในช่วงก่อนการแข่งขันเกมอุ่นเครื่อง และทำท่า ‘คุกเข่า’ แทน โดยเขาทำไปเพื่อประท้วงการเหยียดผิวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นในอเมริกาขณะนั้น ก่อนที่จะโดนแบนจาก NFL เนื่องจากแรงกดดันจากผู้คนจำนวนมาก ที่มองว่าโคลินไม่เคารพชาติและไม่เคารพลีก NFL
นับแต่นั้นมา รูปแบบการประท้วง ‘คุกเข่า’ ก็ถูกพิจารณาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่แค่ใน NFL เท่านั้น แต่รวมถึงองค์กรกีฬาขนาดใหญ่อื่นๆ ด้วย
การ ‘คุกเข่า’ ของ Eminem ในช่วง Halftime Show ของปีนี้ เกิดขึ้นหลังจากเขาโชว์เพลงยอดฮิตอย่าง Lose Yourself จบ โดยในท่อนสุดท้ายของเพลงร้องว่า “This opportunity comes once in a lifetime. you better lose yourself.” ก่อนที่แร็ปเปอร์ชื่อดังจะลดตัวลงเป็นท่าคุกเข่า ชันขาหนึ่งข้าง พร้อมกับใช้ฝ่ามือขวาแตะศีรษะที่มีฮู้ดสีดำคลุมอยู่ ก้มใบหน้าลง ส่วนมือซ้ายที่ถือไมโครโฟนก็วางพักไว้ที่บริเวณต้นขา ซึ่งเขา ‘คุกเข่า’ เป็นเวลา 50 วินาที ระหว่างที่นักดนตรีกำลังบรรเลงเปลี่ยนจังหวะ เพื่อเข้าสู่การแสดงถัดไปของ Dr. Dre และ Snoop Dogg
ทั้งนี้ Eminem มีประวัติเคยสนับสนุนการประท้วงของเคเปอร์นิกมาแล้ว โดยในปี 2017 ระหว่างงาน BET Hip Hop Awards เขาได้แสดงแร็ปฟรีสไตล์ 4 นาที โดยมีเนื้อหาโจมตีอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และแสดงความนับถือเคเปอร์นิก เนื่องจากทรัมป์เคยออกมาสนับสนุนให้ผู้บริหาร NFL ไล่เคเปอร์นิก รวมถึงนักกีฬาที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการประท้วงออกจากลีก รวมถึงส่งข้อความเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติและความโหดร้ายของตำรวจไว้ในการแร็ปฟรีสไตล์ดังกล่าว
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เคเปอร์นิกได้ทวิตขอบคุณ Eminem ในทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับอีโมจิรูปกำปั้น