วันนี้ (26 มิถุนายน 2024) นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล 16 คน ออกโรงเตือนว่า เศรษฐกิจโลกและสหรัฐอเมริกา อาจ ‘เลวร้าย’ มากกว่านี้ หาก โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แคนดิเดตผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่กำลังจะถึงนี้

เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ทั้ง 16 คน ลงนามในจดหมายเปิดผนึก โดยระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันมีแนวโน้มที่ดีกว่ามาก หากเทียบกับแผนเศรษฐกิจของทรัมป์ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะความไม่แน่นอนทางการเงินและอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) ทั้งในระดับชาติและระหว่างประเทศ

สาเหตุที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุเช่นนี้ เป็นเพราะทรัมป์เคยประกาศไว้ว่า เขาจะใช้นโยบายเก็บอัตราภาษีขั้นต่ำกับจีนถึง 60% และกับประเทศอื่นทั่วโลก 10% เพื่อปกป้องชนชั้นแรงงานในสหรัฐฯ จากภาวะสินค้าทะลักตลาดในประเทศ ทว่ามาตรการดังกล่าวคาดว่า จะสร้างผลกระทบโดยตรงต่อราคาสินค้าในสหรัฐฯ ด้วย ซึ่งสามารถอธิบายด้วยหลักเศรษฐศาสตร์และความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

แถลงการณ์ยังระบุว่า ปัจจัยตัวชี้วัดความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการมีหลักนิติรัฐ (Rule of Law) ความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งการที่สหรัฐฯ มีคุณสมบัติทั้งหมด ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อโลกระหว่างประเทศ ในฐานะมหาอำนาจและผู้นำระเบียบโลก และนั่นหมายความว่า ตัวตนของทรัมป์​ โดยเฉพาะท่าทีและนโยบายอันหุนหันพลันแล่น จะทำลายเสถียรภาพและความเป็นอภิมหาอำนาจของสหรัฐฯ ในการเมืองโลก

“เราเชื่อว่า การดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์ อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระดับโลก ทั้งยังทำลายเสถียรภาพในประเทศอีกด้วย” 

คำกล่าวข้างต้นคือส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 16 คน รวมถึง โจเซฟ สติกลิตซ์ (Joseph Stiglitz) เจ้าของรางวัลโนเบลปี 2001, โอลิเวอร์ ฮาร์ต (Oliver Hart) เจ้าของรางวัลปี 2016 และคลอเดีย โกลดิน (Claudia Goldin) เจ้าของรางวัลปี 2023 

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลทั้งหมดชื่นชมการบริหารประเทศของไบเดน โดยยกย่องนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการสนับสนุนการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปโภค การผลิตในประเทศ หรือการรับมือกับภาวะโลกเดือด ซึ่งช่วยชะลออัตราเงินเฟ้อ และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด

เวทีดีเบตท้าชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศระหว่างทรัมป์และไบเดน กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน 2024 โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือการประชันฝีมือและฝีปากด้านนโยบายเศรษฐกิจ เมื่อทรัมป์กล่าวหาว่า ไบเดนกำลังทำให้สหรัฐฯ อยู่ในภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าสูงขึ้น ขณะที่ไบเดนโจมตีกลับว่า นโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างแท้จริง

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถือเป็นวาระสำคัญ ที่ชาวอเมริกันเรียกร้องในการเลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนจากผลสำรวจของซีเอ็นเอ็น (CNN) ในต้นปี 2024 โดยผู้คน 73% ระบุว่า อยากให้รัฐบาลเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ขณะที่ 63% ต้องให้รัฐบาลต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายทั่วโลก

อารอน คาลล์ (Aaron Kall) ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีเบตจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) แสดงความคิดเห็นผ่านอัลจาซีรา (Al Jazeera) ว่า การดีเบตครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งจะดึงดูดความสนใจประชาชนได้อีกครั้ง เพราะขณะนี้คะแนนความนิยมของทรัมป์กับไบเดนสูสีอย่างมาก แม้ทรัมป์ต้องเผชิญคดีอาญาหลายคดีอย่างที่ไม่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดเทียบได้มาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์

ขณะที่ โดเมนิโก มอนโทนาโร (Domenico Montanaro) ผู้สื่อข่าวการเมืองประจำสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติ (National Public Radio) วิเคราะห์ว่า การดีเบตครั้งนี้อาจ ‘ยุ่งเหยิง’ และ ‘แย่ที่สุด’ ในประวัติศาสตร์การดีเบตของผู้นำสหรัฐฯ

“ถ้านี่คือการแข่งขันต่อยมวย ทรัมป์กำลังกระโดดเชือกเตรียมขึ้นชกโดยที่กรรมการพยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้ลงมา ขณะที่ไบเดนยืนตรงกลางเวทีพร้อมนวม แต่มีสีหน้าที่กังวลมาก” 

อ้างอิง

https://www.aljazeera.com/economy/2024/6/26/16-nobel-prize-winning-economists-warn-trump-would-reignite-inflation

https://www.reuters.com/world/us/16-nobel-prize-winning-economists-say-trump-policies-will-fuel-inflation-2024-06-25/

https://www.reuters.com/world/us/yellen-says-bidens-china-tariffs-are-strategic-trumps-would-raise-costs-2024-06-20/

https://edition.cnn.com/2024/06/25/politics/biden-trump-debate-issues-analysis/index.html

https://www.aljazeera.com/news/2024/6/25/as-biden-and-trump-prep-for-the-2024-presidential-debate-whats-at-stake

Tags: , , , , , ,