วันนี้ (23 พฤษภาคม 2025) โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศเพิกถอนสิทธิรับนักศึกษาต่างชาติของ Harvard University อ้างส่งเสริมความรุนแรง ความเกลียดชังชาวยิว และสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน ส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติปัจจุบันเสียสิทธิทางกฎหมาย พร้อมขู่จะดำเนินการกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐ
ก่อนหน้านี้ คริสตี โนเอ็ม (Kristi Noem) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ ส่งจดหมายถึง Harvard University ว่า ทางการจะตัดเงินทุนเพิ่มเติมมูลค่า 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 88 ล้านบาท) และสิทธิการรับนักศึกษาต่างชาติ หากมหาวิทยาลัยไม่ทำตามเงื่อนไขของรัฐบาลคือ การเปิดเผยเอกสารและวีซ่าของนักศึกษาต่างชาติที่มีต่อพฤติกรรม ‘รุนแรง’ และ ‘ผิดกฎหมาย’ ให้ทางการภายในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยยืนกรานในจุดยืนการรักษาความเป็นอิสระของสถาบันศึกษาเอกชน และสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ล่าสุดรัฐบาลออกคำสั่งให้กระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ ยุติการพิจารณาวีซ่านักศึกษา ฮาร์วาร์ด ซึ่งจะมีผลในปีการศึกษา 2025-2026 โดยโนเอ็มอ้างว่า การรับนักศึกษาต่างชาติเป็น ‘สิทธิพิเศษ’ ไม่ใช่สิทธิตามกฎหมาย ทำให้รัฐบาลใช้จ่ายเงินสนับสนุนเด็กต่างชาติ ขณะที่มหาวิทยาลัยส่งเสริมความรุนแรง ความเกลียดชังชาวยิว และสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมยื่นคำขาดให้โอกาสมหาวิทยาลัยมอบคลิปวิดีโอ หรือเสียงที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงของนักศึกษาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาภายใน 72 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน Harvard University ตอบโต้ว่า การกระทำของรัฐบาลครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บั่นทอนแวดวงวิชาการ และวัฒนธรรมภายในของมหาวิทยาลัย โดยแหล่งข่าวจาก New York Times เผยว่า ภายในกำลังพิจารณายื่นฟ้องรัฐบาลทรัมป์เป็นครั้งที่ 2 หลังจากยื่นฟ้องในส่วนมาตรการตัดเงินทุนในเดือนที่ผ่านมา
คาดว่าจากคำสั่งครั้งนี้ นักศึกษา 1 ใน 4 ของมหาวิทยาลัยจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน และชื่อเสียงของ Harvard University ในฐานะสถาบันศึกษาชั้นนำ ที่ดึงดูดเด็กหัวกะทิทั่วโลก รวมถึงรากฐานทางด้านการศึกษาของสหรัฐฯ ซึ่งผลิตบุคลากรชั้นนำระดับประเทศที่เก่งกาจในด้านวิชาการ ทั้งเศรษฐศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ปัจจุบันฮาร์วาร์ดรับนักศึกษาต่างชาติในปีการศึกษา 2024-2025 ราว 6,800 คน หรือ 27% ของประชากรทั้งหมด โดยในปี 2022 นักศึกษาชาวจีนมีจำนวนเยอะที่สุดราว 1,016 คน ตามมาด้วยแคนาดา อินเดีย เกาหลีใต้ เยอรมนี ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
ดูเหมือนว่า นโยบายดังกล่าวมุ่งเป้าไปยังนักศึกษาต่างชาติที่ประท้วงต่อต้านชาวอิสราเอลในสงครามกาซา โดยทรัมป์อ้างว่า มหาวิทยาลัยปลูกฝังให้เกลียดชังชาวยิว (Antisemitism) ขณะที่พยายามเข้าแทรกแซงสถาบันศึกษาด้วยการสอบสวนจากรัฐบาลกลาง เช่น ขจัดนโยบายการเรียนการสอนที่มีความหลากหลาย
ทั้งนี้ล่าสุด New York Times รายงานว่า รัฐบาลทรัมป์กล่าวหาว่า Columbia University เพิกเฉยความรุนแรงและคุกคามชาวยิว โดยก่อนหน้านี้โนเอ็มเคยให้สัมภาษณ์ใน Fox News ว่า เธอกำลังพิจารณาจัดการกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ต่อต้านแนวทางของรัฐบาล
Tags: ชาวยิว, ปาเลสไตน์, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, สหรัฐฯ, สหรัฐอเมริกา, Harvard University, อิสราเอล