หลังเกิดเหตุการณ์พลิกล็อกเหนือความคาดหมาย เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน สามารถคว้าชัยชนะเหนือ ฮิลลารี คลินตัน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตได้เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้เขากลายเป็น ‘ประธานาธิบดีคนที่ 45 แห่งสหรัฐอเมริกา’ ที่วิ่งเข้าเส้นชัยอย่างไร้ข้อกังขา

หนึ่งในเรื่องน่าสนใจที่หลายคนสงสัยก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นกับตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนต่อไป เนื่องจากตำแหน่งนี้เกิดขึ้นมาเพื่อภรรยาของประธานาธิบดีประเทศสหรัฐฯ ในแต่ละยุคแต่ละสมัย

ในอนาคตอันใกล้นี้ ‘เมลาเนีย ทรัมป์’ ภรรยาคนปัจจุบันของทรัมป์จะเป็นผู้ที่ได้สืบทอดตำแหน่งนี้ ที่หลายคนอาจรู้จักเธอแค่ เคยถ่ายแบบภาพนู้ด และถูกโจมตีว่าลอกบทสุนทรพจน์ของมิเชล โอบามา

แม้ข้อเท็จจริงข้างต้นอาจทำให้เมลาเนียดู ‘ฉาว’ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราเชื่อว่ายังมีเรื่องราวของเธอในอีกหลากหลายมุมที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน

เกิดและเติบโตในชาติคอมมิวนิสต์

เมลาเนีย ทรัมป์ หรือ Melanija Knavs ลืมตาขึ้นดูโลกครั้งแรกในปี 1970 เธอเป็นลูกของนาย Viktor Knavs ผู้ประกอบอาชีพจัดจำหน่ายยวดยานพาหนะของบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของ และยังเคยเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองคอมมิวนิสต์ในสโลวิเนีย (เดิมประเทศยูโกสลาเวีย) ส่วนแม่ของเธอ Amalija née Ulčnik ประกอบอาชีพช่างทำแบบเสื้อในโรงงานเสื้อผ้าเด็ก

เมลาเนียเติบโตในย่าน Sevnica เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของสโลวีเนีย เธอเข้าศึกษาโรงเรียนมัธยมด้านการออกแบบและการถ่ายภาพใน Ljubljana จากนั้นศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Ljubljana ได้เพียงปีเดียว ก่อนจะถูกให้ออก

ทั้งนี้ เธอยังมีความสามารถในการสื่อสารได้มากกว่า 5 ภาษา ทั้งสโลวีเนีย, เซอร์เบีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมัน

Photo: GQ Magazine

นางแบบนู้ดคนแรกที่ได้รับตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่ง

เธอเริ่มต้นเป็นนางแบบฝึกหัดตอนอายุ 16 ปี พอถึงอายุ 17 ปี ช่างภาพชื่อดังอย่าง สเตน เจอร์โก (Stane Jerko) ได้ชวนเธอมาเป็นแบบถ่ายภาพหลังจากที่เธอเดินแบบในแฟชั่นโชว์ ซึ่งผลงานการถ่ายแบบของเธอกับเจอร์โกได้กลายเป็นใบเบิกทางชั้นดีให้ผู้ใหญ่หลายคนในวงการแฟชั่นรู้จักเธอมากขึ้น กระทั่งเธอได้เซ็นสัญญากับเอเยนต์ ‘ID’ ผู้ดูแลนางแบบในเมืองมิลานตั้งแต่อายุแค่ 18 ปี

เธอเล่าว่า “แม่ของฉันเคยอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่น ฉันได้เดินแบบครั้งแรกตอนที่ฉันอายุได้แค่ 5 ขวบ และถ่ายโฆษณาเมื่อตอนอายุ 16 ปี ฉันเริ่มต้นถ่ายแบบอาชีพหลังจากเรียนจบ แม่ของฉันรักแฟชั่นมาก พวกเรารักการเดินทางไปอิตาลีและฝรั่งเศส”

เมื่อเริ่มจะไปได้สวยกับเส้นทางสายรันเวย์มากขึ้น งานหลั่งไหลเข้ามาหาเมลาเนียไม่ขาดสาย ทั้งการเดินแบบในงานแฟชั่น และการถ่ายแฟชั่นเซตลงแมกกาซีนเล่มต่างๆ แต่ผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่จดจำและโจษจันอย่างกว้างขวางคือ การถ่ายเซตแฟชั่นนู้ด ‘Boeing 727’ ในหน้าปกนิตยสาร GQ ปี 2000

ก่อนหน้านี้ในปี 1995 เมลาเนียเคยถ่ายแฟชั่นนู้ด Bombshell ร่วมกับ เอมมา อิริกส์สัน (Emma Eriksson) ลงนิตยสารผู้ชายของฝรั่งเศสมาแล้ว ฟากทรัมป์ สามีของเธอในเวลาต่อมาก็ไม่ได้มีท่าทีหรือความเห็นต่อต้านเรื่องราวในมุมนี้ของเมลาเนียแต่อย่างใด เขาแสดงความเห็นว่า

“การถ่ายภาพแบบนี้ในยุโรปเป็นเรื่องที่ทันสมัยและธรรมดามากๆ”

ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในอเมริกาอย่างถูกกฎหมาย   

การเดินทางทำงานรอบโซนยุโรปทำให้เธอมีทักษะด้านภาษาที่ลื่นไหลมากขึ้น จากนั้นในปี 1996 เมลาเนียในวัย 26 ปีได้เดินทางเข้ามาทำงานในนิวยอร์กด้วยวีซ่าผู้ประกอบการธุรกิจ โดยการช่วยเหลือของผู้ก่อตั้งเครือข่ายนายแบบ/นางแบบ ‘ID’ อย่าง เปาโล แซมโปลลี (Paolo Zampolli) ก่อนที่ 2 เดือนให้หลัง เธอจะได้รับวีซ่า H-1B ที่อนุญาตให้นายจ้างสามารถจ้างงานลูกจ้างต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศได้ชั่วคราวในสายงานจำเพาะ เช่น นักวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเมอร์ และนายแบบ/นางแบบ

ในปี 2001 เธอได้รับกรีนการ์ดสำหรับการพำนักอาศัยในอเมริกาอย่างถูกกฎหมายด้วยเงื่อนไขว่าการประกอบอาชีพนางแบบของเธอถือเป็นทักษะพิเศษ ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติเป็นพลเมืองอเมริกันจากการแต่งงานกับทรัมป์ในอีก 4 ปีให้หลัง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเข้ามาทำงานในฐานะชาวต่างด้าวของเมลาเนียก็ค่อนข้างขัดแย้งกับนโยบายสุดโต่งของทรัมป์ที่ต่อต้านไม่ให้ผู้ลี้ภัยเข้ามาแย่งงานในสหรัฐฯ พอสมควร

ในเดือนมีนาคม 2016 ทรัมป์เคยออกมากล่าวว่า “คนเหล่านี้คือแรงงานต่างด้าวที่มีจุดประสงค์ชัดเจนในการเข้ามาทดแทนแรงงานอเมริกาในอัตราการว่าจ้างที่ต่ำกว่า” และแม้ว่าครั้งหนึ่งเมลาเนียจะเคยเป็นแรงงานต่างด้าวมาก่อน แต่เธอก็สนับสนุนแนวความคิดดังกล่าวของทรัมป์

“ฉันทำตามกฎหมายทุกข้อ ไม่ได้คิดว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โดยไม่มีเอกสารใดๆ อยู่แล้ว ฉันไม่รู้สึกว่าทรัมป์รังแกชาวเม็กซิกันเลยนะ เพราะเขาก็พูดชัดแล้วว่าเขาต่อต้านเฉพาะผู้ลี้ภัยที่ผิดกฎหมาย” เมลาเนียกล่าว

Photo: Hollywood Reporter

รักต่างวัยกับประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา

ในปี 1998 เมลาเนียได้พบกับ โดนัลด์ ทรัมป์ (อายุห่างกันถึง 24 ปี) ที่งานปาร์ตี้ของ เปาโล แซมโปลลี ณ Kit Kat Club เมืองแมนฮัตตัน แม้ว่าในขณะนั้นจะมีข่าวว่าทรัมป์กำลังเดตอยู่กับ เซลีนา มิเดลฟาร์ต (Celina Midelfart) ทายาทบริษัทเครื่องสำอางในนอรเวย์ก็ตาม แต่เขาก็ได้ปรี่เข้าไปขอเบอร์ติดต่อเธอโดยตรง แน่นอนว่าเธอตอบปฏิเสธไป แต่ภายหลังเธอก็เป็นผู้ขอเบอร์ของทรัมป์แทน และให้เหตุผลว่า “ถ้าฉันให้เบอร์เขาไป ฉันก็เป็นได้แค่หนึ่งในผู้หญิงที่เขาโทรหา ฉันอยากจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่”

เมลาเนียใช้เวลา 1 อาทิตย์กว่าจะโทรกลับไปหาทรัมป์ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มศึกษาดูใจกันและคบกันอย่างเปิดเผย ก่อนที่จะจัดงานแต่งงานครั้งแรกของเธอ (ครั้งที่สามของทรัมป์) ในปี 2005 โดยมีแขกคนสำคัญอย่าง ฮิลลารี และบิล คลินตัน คู่แข่งในอนาคตของทรัมป์เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย

ในปีเดียวกันนี้ เมลาเนียยังให้กำเนิดบุตรชายนาม บาร์รอน วิลเลียม ทรัมป์ (Barron William Trump) ซึ่งเธอมักจะเรียกชื่อเขาสั้นๆ ว่า ‘มินิโดนัลด์’

Photo: Wikimedia Commons

จริงหรือหลอก? สตรีหมายเลขหนึ่งต่อต้านการศัลยกรรม

ครั้งหนึ่งสมัยที่เมลาเนียยังรับงานถ่ายแบบ เธอเคยพลาดท่าเสียงานให้กับนางแบบรุ่นน้องที่สดกว่า จนมีข่าวลือว่าเธอหายหน้าหายตาลาพักร้อนไปถึง 2 อาทิตย์ ก่อนที่จะกลับมาในภาพลักษณ์ที่ดูอึ๋มมากขึ้น เรื่องเล่านี้มาจากปากของของ แมทธิว อเทเนียน (Matthew Atanian) ช่างภาพผู้เคยเป็นรูมเมตของเมลาเนียในสมัยที่เธอย้ายมานิวยอร์กใหม่ๆ

อเทเนียนเล่าว่า “เธอสารภาพกับผมเองว่าเธอจำเป็นต้องทำเพื่อให้สามารถรับงานถ่ายแบบชุดชั้นในได้มากขึ้น”

ถึงอย่างนั้น เมลาเนียในวัย 46 ปี กลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่เคยทำศัลยกรรมแต่อย่างใด “มีผู้คนเป็นจำนวนมากบอกว่าใบหน้าของฉันผ่านกระบวนการต่างๆ มามากมาย ซึ่งฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉันใช้ชีวิตโดยดูแลสุขภาพมาตลอด ทั้งผิวพรรณและเรือนร่าง ฉันต่อต้านโบท็อกซ์และการฉีดสารทุกชนิด เพราะคิดว่ามันจะทำลายใบหน้าและเส้นประสาทของคุณ ฉันจะเจริญวัยอย่างสง่างามเช่นเดียวกับที่แม่ของฉันทำ”

Photo: YouTube

ข้อพิพาทกรณีลอกสุนทรพจน์ ‘มิเชล โอบามา’

การกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีหาเสียงพรรครีพับลิกันครั้งแรกของเมลาเนีย ทรัมป์ เธอกล่าวว่า สามีของเธอเป็นผู้มีความสามารถ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นผู้นำที่มีความยึดมั่นที่น่าจะนำความเป็นปึกแผ่นมากกว่าจะเป็นความแตกแยกมาสู่ประเทศ การกล่าวอ้างของเมลาเนียจะเป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงหรือไม่ เราน่าจะได้พิสูจน์กันในเร็ววันนี้

แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่น่าจับตาในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่เธออวยสามีของตัวเอง แต่เป็นเรื่องชาวเน็ตพากันจับผิดและโจมตีว่าในบทสุนทรพจน์ดังกล่าวของเมลาเนียมีความคล้ายคลึงกับบทสุนทรพจน์ในปี 2008 ของ มิเชล โอบามา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งคนก่อนอยู่หลายช่วงตอน

อาทิ “ขยันทำงานให้หนัก เพื่อคว้าสิ่งที่คุณอยากได้ในชีวิต”, “คำพูดของคุณจะเป็นข้อผูกมัดของคุณ”, “พวกเราต้องการให้เด็กๆ ในประเทศของเราได้รู้ขีดจำกัดของการประสบความสำเร็จในการถึงฝั่งฝัน และความเต็มใจของพวกเราที่จะช่วยพวกเขาเหล่านั้น”

ภายหลังจากที่เกิดการโจมตีขึ้น เมลาเนียได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอได้เขียนบทสุนทรพจน์ขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยมีการช่วยเหลือจากคนอื่นเล็กน้อย สองวันต่อมา เมเรดิท แมกไอเวอร์ (Meredith McIver) ทีมงานร่างสุนทรพจน์ของทรัมป์ก็ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบและกล่าวขอโทษสำหรับความสับสนที่เกิดขึ้น ที่สุดแล้วก็ยังเป็นความสับสนที่เมลาเนียทิ้งไว้ให้ใครหลายคนครุ่นคิดว่า สรุปแล้วบทสุนทรพจน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทสุนทรพจน์ของมิเชลหรือไม่?

Photo: Wikimedia Commons

แจ็กกี เคนเนดี คนต่อไป?

Pamela Keogh ผู้เขียนชีวประวัติ แจ็กกี เคนเนดี (Jackie Kennedy) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ dailymail.co.uk ว่า เมลาเนีย ทรัมป์ มีลักษณะเหมือนกับ แจ็กกี เคนเนดี อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ภรรยาประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี เพราะเมลาเนีย “สวย ฉลาด และสามารถเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่นได้”

ย้อนกลับไปในปี 2000 เมลาเนียเคยให้สัมภาษณ์ New York Times ว่า ถ้าเธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เธออยากจะเป็นแบบ ‘เบ็ตตี ฟอร์ด’ (ภริยาของอดีตประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด) หรือ ‘แจ็กกี เคนเนดี’

มีสมอง และเป็นตัวของตัวเอง

ระหว่างการหาเสียงในรัฐแอริโซนา โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับฝูงชนว่า ภรรยาและลูกสาวคนโตของเขาไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำทั้งหมด

เมลาเนียยืนยันคำพูดข้างต้น เธอบอกว่าเธอไม่เคยอายเมื่อต้องให้คำแนะนำในประเด็นเรื่องการเมืองกับ โดนัลด์ ทรัมป์ สามีของเธอ “ฉันแสดงความคิดเห็นกับเขาเสมอ บ่อยเท่าที่จะบ่อยได้” เมลาเนียกล่าวกับ CNN

“ฉันไม่ได้เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ทรัมป์พูด แต่คุณก็รู้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา” เมลาเนียยืนยันเสมอว่า เธอเป็นตัวของตัวเองและยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง

“ฉันบอกเขาในสิ่งที่ฉันคิด” ซึ่งเมลาเนียคิดว่า “นี่คือสิ่งสำคัญมากในความสัมพันธ์ของคนสองคน”

อ้างอิง:
– http://www.theweek.co.uk/us-election-2016/69907/melania-12-things-you-didnt-know-about-republican-presidential-candidate
– http://www.mirror.co.uk/news/world-news/who-melania-trump-profile-woman-8447715
– https://en.wikipedia.org/wiki/Melania_Trump

FACT BOX:

เมลาเนีย ทรัมป์ คือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกที่เกิดในชาติคอมมิวนิสต์ และถือเป็นคนที่สองกับการเติบโตนอกสหรัฐฯ (ต่อจาก หลุยซา แอดัมส์ (Louisa Adams) ภรรยาชาวอังกฤษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 6 อย่าง จอห์น ควินซี แอดัมส์ (John Quincy Adams))

DID YOU KNOW?

ก่อนที่ทรัมป์จะลงสมัครตำแหน่งผู้ท้าชิงประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา เมลาเนียได้ดำเนินธุรกิจค้าขายจิวเวลรีของตัวเองผ่านช่องโทรทัศน์ค้าขายสินค้า ‘QVC’