วันนี้ (11 เมษายน 2565) พนักงานอัยการ สำนักอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5) ได้มีการนัดฟังคำสั่งฟ้องต่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฐานเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบหมายให้ อภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จในการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (คตส.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 เนื่องด้วยสาเหตุจากเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ธนาธรได้ทำการไลฟ์เฟซบุ๊กผ่านหน้าเพจคณะก้าวหน้า และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหัวข้อ ‘วัคซีนพระราชทาน: ใครได้ใครเสีย?’

โดยการไลฟ์สดดังกล่าวมีความยาวประมาณ 20 นาที มีผู้เข้ามาร่วมฟังกว่า 5.1 แสนคน เนื้อหาส่วนใหญ่่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เต็มไปด้วยความล่าช้า และเน้นแนวทางการจัดหาวัคซีนแบบ ‘ม้าตัวเดียว’ คือยี่ห้อแอสตราเซเนกา ทำให้ประชาชนแทบไม่เหลือตัวเลือกเปรียบเสมือนการมัดมือชกไปปริยาย นอกจากนี้ช่วงหนึ่งของการไลฟ์ ธนาธรยังแสดงความคิดเห็นต่อ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งจากคำกล่าวที่นายธนาธรมีการอ้างอิงต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 ทางพนักงานอัยการ สำนักอัยการสูงสุด ได้พิจารณาระบุในส่วนหนึ่งของสำนวนส่งฟ้องไว้ว่า

“จากคำกล่าวของจำเลยมีเจตนาให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยต่อองค์พระมหากษัตริย์ คือพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ว่าทรงมีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำของรัฐบาลที่นำงบประมาณไปใช้ในการสนับสนุนการผลิตและจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ฯ ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บริษัทเดียว อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระเกียรติยศและเป็นกล่าววาจาจาบจ้วงล่วงเกิน เปรียบเทียบเปรียบเปรย หรือเสียดสีให้เป็นที่ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 คำพูดและการกระทำของจำเลยทำให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นข้อความดังกล่าวแล้วทราบว่าเป็นการกล่าวถึง พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 อันเป็นการประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และมีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฏหมายอาญา”

ภายหลังการนัดฟั่งสำนวนส่งฟ้อง กฤษฎางค์ นุตจรัส ผู้รับหน้าที่เป็นทนายความให้ธนาธร ได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวชั่วคราวจำนวน 9 หมื่นบาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามกระทำซ้ำแบบเดิมหรือกระทำการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพระมหากษัตริย์ และจากการสอบคำให้การธนาธรยังคงปฏิเสธต่อทุกข้อกล่าวหา ก่อนจะมีนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 6 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 น. อีกครั้ง

ด้านธนาธรได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่มาร่วมสังเกตเป็นครั้งแรกภายหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาต่อชั้นศาล ขณะเดียวกันยังย้ำว่าตนเองไม่ใช่เพียงคนเดียวที่โดนกฏหมายความมั่นคงเล่นงานต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง

“เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำมีเจตนาที่ดีต่อบ้านเมืองและเพื่อปกป้องต่อพระมหากษัตริย์ ผมยังยืนยันอีกว่าสิ่งที่ผมได้ทำการพูดไปนั้นทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งวันนี้ผมคิดว่าเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง วัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้มากที่สุด คอ วัคซีนชนิด Mrna ไม่ใช่วัคซีนชนิด Viral Vector ดังนั้นคิดว่าประชนชนคงตัดสินเองได้ เราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมสู้คดีถึงที่สุด เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา และคงจะต้องมีการเตรียมรับมือต่อคดีอย่างเต็มที่

“ต้องบอกว่ายุคนี้เป็นยุคที่มีคดีการเมืองมากที่สุด เป็นยุคที่มีคดีเนื่องจาก 112 มากที่สุด มากกว่าทุกยุคทุกสมัย ผมยืนยันว่าการใช้คดีทางการเมืองมาเล่นงานผู้ที่เห็นต่างไม่เป็นผลดี โดยเฉพาะต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมไม่ใช่คนแรกและไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย ดังนั้นขอให้กำลังใจผู้ที่ถูกกล่าวหาเรื่องคดีความมั่นคงจากมาตรา 116 พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉิน และจากมาตรา 112”

ธนาธรยังย้ำว่าจะยังคงวิถีทางการเมืองเช่นนี้ต่อไปตามหลักระบอบประชาธิปไตย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนให้ได้มีอำนาจสูงสุดบนประเทศนี้เป็นหลัก

“ก็คงทำเต็มที่ เรื่องไหนเป็นเรื่องผลของประชาชนก็ต้องออกมาพูด ทำให้ประชนชนเข้าใจต่อสถานการณ์ โดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชน วันนี้สถานการณ์การเมือง สถานการณ์สิทธิมนุษยชนบ้านเราตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย เราไม่มีสิทธิ ไม่มีเสรีภาพ ผมเรียนว่าสิทธิเสรีภาพทางประชาธิไตยเป็นเรื่องเดียวกันกับความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องเดียวกันกับผลประโยชน์ของประชาชน เพราะเป็นเรื่องของอำนาจ เป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากร ตราบใดที่ประชาชนไม่มีอำนาจ ประชาชนก็ไม่มีทางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มาร่วมกันครับ มาร่วมทำให้อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของประชาชน”

Tags: , , , , , ,