วันนี้ (29 มีนาคม 2565) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ตอนหนึ่งว่า สืบเนื่องจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้คณะรัฐมนตรี รับร่างแก้ไข พ.รบ.ภาษีสรรพสามิต โดยมีสาระสำคัญเพื่อเปิดเสรีให้ประชาชนที่ไม่ได้ผลิตสุราเพื่อการค้า ได้มีโอกาสสามารถพิจารณาได้ โดยคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเข้าใจในเจตนารมณ์กฎหมาย แต่มีข้อกังวลทั้งในเรื่องมาตรฐาน คุณภาพ และสิ่งแวดล้อม คณะรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณา โดยอาจไม่ต้องแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ แต่ให้พิจารณาเพื่ออาจแก้กฎกระทรวงบางเรื่องแทน

“ในเรื่องนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้าสามารถกระทำได้ โดยควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเรื่องคุณภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้น ครม. จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงในบางเรื่องเพื่อไม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชน โดยยังคงควบคุมดูแลให้การผลิตสุราอยู่ภายใต้มาตรฐานด้านสุขภาพของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..)”

สำหรับสาระสำคัญของ ร่างพระราชบัญญัติสุราก้าวหน้า ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ ได้ปลดล็อกกฎหมายเดิม ที่จำกัดการผลิตสุราชุมชนไว้ที่ 5 แรงม้า 7 แรงคน ซึ่งทำให้ประชาชนไม่สามารถผลิตสุราชุมชนจำหน่ายได้เอง เป็น ‘ไม่จำกัด’ รวมถึงแก้กฎหมายการผลิตเบียร์ ซึ่งเดิม พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตจำกัดว่า ต้องมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี จึงจะสามารถผลิตได้ เป็นไม่จำกัดปริมาณการผลิต เพื่อเปิดทางให้มีการผลิตคราฟต์เบียร์ อีกทั้งยังปลดล็อกการตั้ง ‘บริษัทเบียร์’ ซึ่งเดิม ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ ของจํานวนหุ้นทั้งหมด โดยมีเงินค่าหุ้นหรือเงินลงทุนที่ชําระแล้วไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท เป็นไม่จำกัดเช่นกัน โดยหลักการและเหตุผล เพื่อให้ประชาชนสามารถผลิตสุราชุมชน เหล้าขาว วอดก้า บรั่นดี และคราฟต์เบียร์ด้วยตัวเอง เพื่อลดการผูกขาดของนายทุนยักษ์ใหญ่

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และมี ส.ส. จากฝ่ายรัฐบาลเห็นด้วยบางส่วน อาทิ พรรคเศรษฐกิจไทย และ วีระกร คำประกอบ ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ทว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 207 เสียง กลับเห็นด้วยให้คณะรัฐมนตรีนำกฎหมายไปพิจารณาต่อ ในกรอบระยะเวลา 60 วัน เอาชนะเสียง ‘ไม่เห็นด้วย’ ที่ไม่ให้คณะรัฐมนตรีอุ้มหาย และพิจารณาต่อวาระ 2 ได้ทันที ซึ่งอยู่ที่ 195 เสียง

ภาพ: รัฐบาลไทย

Tags: , ,