เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ร้อยเอก อิบราฮิม ทราโอเร (Ibrahim Traore) ได้ทำรัฐประหาร พันโท พอล-อองรี ดามิบา (Paul-Henri Damiba) ประธานาธิบดีของประเทศบูร์กินาฟาโซ พร้อมกับประกาศยุบสภาฯ ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ปิดพรมแดนระหว่างประเทศ และประกาศใช้เคอร์ฟิว โดยการรัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้นถัดจากครั้งล่าสุดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2022 เพียง 9 เดือน
หลังจากร้อยเอกอิบราฮิมก่อการรัฐประหารสำเร็จ มีรายงานว่ามีเสียงปืนดังขึ้นใกล้กับค่ายทหารในเมืองวากาดูกู (Ouagadougou) เมืองหลวง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี รวมทั้งรายการโทรทัศน์จำนวนมากต้องหยุดการออกอากาศทันที
สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลางเกิดการรัฐประหารบ่อยขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเหตุความวุ่นวายจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลาม
มาลี (Mali) กินี (Guinea) และชาด (Chad) ประเทศเพื่อนบ้านของบูร์กินาฟาโซ เกิดการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา นักวิชาการจำนวนหนึ่งมองว่า ประเทศในภูมิภาคนี้อาจกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร แม้จะค่อยๆ พัฒนาด้วยระบอบประชาธิปไตยแล้วก็ตาม
ร้อยเอกอิบราฮิมปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะผู้นำผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจหลังก่อการรัฐประหารสำเร็จไม่นาน ภายใต้ฉากหลังที่เลียนแบบการยึดอำนาจของพันโทพอล-อองรี ในการรัฐประหาร 24 มกราคม 2022
กลุ่มผู้ก่อการรัฐประหารอธิบายเหตุผลว่า รัฐบาลของพันโทพอล-อองรี ให้คำมั่นสัญญาในการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ว่าจะเข้าไปจัดการกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงในประเทศให้เรียบร้อย แต่เวลาผ่านไปกว่า 9 เดือน สถานการณ์กลับยังคงเหมือนเดิม ผู้ก่อการรัฐประหารจึงตัดสินใจยึดอำนาจคืนและถอดพันโทพอล-อองรี ออกจากตำแหน่ง
หากย้อนไปในวันที่ 24 มกราคม พันโทพอล-อองรี ก็รัฐประหาร โรช คาโบเร (Roch Kabore) อดีตประธานาธิบดีพลเรือน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งด้วยเหตุผลเดียวกัน
แถลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อการรัฐประหาร ซึ่งลงนามโดยร้อยเอกอิบราฮิม ระบุว่า “ในขณะที่ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี เราให้โอกาสดามิบาเพื่อปรับปรุงแผนพัฒนาประเทศในด้านความมั่นคงหลายครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธข้อเสนอเรื่องการจัดระเบียบกองทัพใหม่ แม้ว่าโครงสร้างกองทัพแบบเก่าที่ใช้อาจนำไปสู่การล่มสลายของประเทศได้ก็ตาม
“การกระทำของดามิบาแสดงให้เห็นว่า ความตั้งใจและทัศนคติของเขาหันเหไปจากเมื่อวันที่ 24 มกราคมอย่างมาก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจปลดเขาออก”
ประชาชนจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนการรัฐประหารของร้อยเอกอิบราฮิม หวังว่ากลุ่มผู้ก่อการรัฐประหารจะทำให้ประเทศกลับเข้าสู่ความสงบได้อย่างราบรื่นมากกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้ง
ว่ากันว่าประเทศบูร์กินาฟาโซเป็นศูนย์กลางของความรุนแรงซึ่งเกิดจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ (Al Qaeda) และกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (Islamic State: IS) ความรุนแรงเหล่านั้นเริ่มต้นขึ้นจากประเทศมาลี ในปี 2012 และกระจายไปยังประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกอื่นๆ รวมทั้งบูร์กินาฟาโซ
กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (The Economic Community of West African States: ECOWAS) ต้องการให้ทุกประเทศในภูมิภาคนี้เข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้เร็วที่สุด โดยกลุ่มประชาคมฯ คว่ำบาตรเศรษฐกิจของบูร์กินาฟาโซตั้งแต่การรัฐประหารวันที่ 24 มกราคม และเรียกร้องให้บูร์กินาฟาโซกลับไปใช้ระบอบประชาธิปไตยภายใน 2 ปี
สำหรับการรัฐประหารครั้งล่าสุด กลุ่มประชาคมฯ เรียกร้องให้ผู้ก่อการรัฐประหารคืนรัฐธรรมนูญให้ประชาชนภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2024
นักวิเคราะห์ของสำนักข่าวบีบีซี (BBC) ระบุว่า สถานการณ์ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกน่าเป็นห่วงอย่างมาก ก่อนหน้านั้น รัฐบาลของพันโทพอล-อองรี ไม่สามารถควบคุมให้กองทัพอยู่ภายใต้ผู้บังคับบัญชาคนเดียวเพื่อปกป้องประเทศจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามได้ ในขณะที่หลังจากการรัฐประหารล่าสุด รัฐบาลของร้อยเอกอิบราฮิมควบคุมประเทศได้แล้ว 60% แต่อีก 40% อยู่ภายใต้กลุ่มติดอาวุธอิสลาม
Tags: Report, รัฐประหาร, บูร์กินาฟาโซ