วันนี้ (7 กรกฏาคม 2565) เทศกาล ‘กรุงเทพกลางแปลง’ เริ่มฉายหนังกลางแปลงวันแรกประชาชนร่วมงานอย่างคึกคัก บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ สมาคมหนังกลางแปลง และ Better Bangkok ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ โปรแกรมภาพยนต์ที่ใช้เปิดจอเรื่องแรกคือ ’2499 อันธพาลครองเมือง’ (2540)
ทั้งนี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งมีเจตนาในการสร้างความสุขให้กับชาวกรุงเทพฯ ในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมนโยบายที่หวังผลักดันซอฟท์เพาเวอร์เมืองไทยไปพร้อมกัน
“ผมทำอะไรได้เล็กน้อยผมก็ทำ ผมเริ่มตั้งแต่ดนตรีในสวน แต่จริงๆ แล้วความสุขมีอยู่ทั่วกรุงเทพฯ แค่เราช้าลงนิดแล้วดูรอบตัว แต่เราอาจจะเครียด ทั้งหมดอยู่ที่ใจเรา ใจเรานิ่งก็มีความสุขได้ ดังนั้นหนังกลางแปลงอาจเป็นเหมือนหลุดออกจากชีวิตประจำวันมาพักผ่อนบ้าง ยังไงก็ตามความสุขทั้งหมดอยู่ที่ใจหนังกลางแปลงเป็นแค่จุดกระตุ้นความสุข
“การที่เราจัดเทศกาลขึ้นมาทั้งหมดอาจไม่ได้เกิดจาก กทม. ฝ่ายเดียว แต่เป็นการร่วมรวมใจของทุกฝ่าย ทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเอกชนก็สามารถมอบความสุขให้คน กทม. ได้ ขณะเดียวกัน ในเรื่องเศรษฐกิจ พ่อค้าแม่ค้าก็สามารถนำของมาขายได้ เอาทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาเปลี่ยนให้กลายเป็นความสุข โดยทำน้อยแต่ให้ได้มาก”
ด้าน อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ หนึ่งในผู้จัดงานร่วม กล่าวว่า ทางด้านสมาคมผู้กำกับมีความตั้งใจและคาดหวังกับการจัดงานในครั้งนี้ประกอบด้วย
1. อยากให้กรุงเทพฯ ปรากฏบนแผ่นฟีล์มมากขึ้น เพราะเป็นการกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวและเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไว้บนจอภาพยนตร์
2. การสร้างความหลากหลายของการชมภาพยนตร์ เช่น ในครั้งนี้เป็นการฉายหนังในหลากหลายที่ ทำให้ผู้คนที่อาจจะไม่มีเวลาหรือไม่มีปัจจัยมากพอในการไปชมภาพยนต์ในโรงหนัง ได้มาชมภาพยนตร์ร่วมกันได้ และหวังว่าในปีต่อไปจะมีการฉายหนังที่หลากหลายขึ้น จนสามารถพัฒนาเป็นเทศกาลระดับชาติขึ้นมาได้
ด้าน นิมิตร สัตยากุล ผู้ก่อตั้งสมาคมหนังกลางแปลง เผยว่ารู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้กลับมาฉายหนังกลางแปลงอีกครั้งในรอบ 25 ปี ซึ่งบรรยากาศการฉายหนังครั้งนี้เหมือนได้กลับมาฉายหนังในยุค 90s เป็นบรรยากาศที่คนกรุงเทพฯ อาจจะลืมเลือนไปแล้วได้ย้อนควาามทรงจำ ได้มีโอกาสพาครอบครัวกลับมานั่งชมหนังกลางแปลงในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ อีกครั้ง
ในระหว่างการรอคอยภาพยนตร์ฉาย ประชาชนที่เข้าร่วมงานต่างออกมาเลือกซื้ออาหารคาวหวาน จากร้านรวงที่มาขายกันอย่างมากมาย ขณะเดียวกันก็ฟังการแสดงดนตรีจาก ‘เบิร์ดกะฮาร์ท’ และ ‘ปั่น’ – ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว แขกรับเชิญพิเศษของทั้งสอง สำหรับงานนี้ ยังมีศิลปินอีกมากกว่า 30 วงมาเข้าร่วมในเทศกาลครั้งนี้
เมื่อบรรยากาศเริ่มมืดลง บรรยากาศยิ่งคึกคัก ประชาชนต่างหลั่งไหลมาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมีเวทีการพูดคุยเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ภาพยนตร์เปิดเทศกาลกรุงเทพฯ กลางแปลง โดยผู้กำกับภาพยนตร์ ‘อุ๋ย’ – นนทรีย์ นิมิบุตร และ ‘ติ๊ก’ – เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกของเรื่อง ร่วมสนทนาถึงเบื้องหลังภาพยนตร์ สำหรับเทคนิคการฉายหนังที่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จากการฉายในระบบฟิล์มสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งเรื่อง 2499 อันธพาลของเมือง ที่นำมาฉายในครั้งนี้จะฉายในระบบดิจิทัล ซึ่งจะได้ฉายภาพความเป็นพระนครฯ ในยุคอันธพาลครองเมือง ทั้งยังมีฉากในภาพยนตร์เกี่ยวข้องกับย่านเก่าแก่นี้ด้วยและลานคนเมืองนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า ต้องขอขอบคุณชัชชาติที่ปลุกกรุงเทพฯ ให้คึกคักอีกครั้ง และมองเห็นถึงความตั้งใจดีของ กทม. ยุคนี้ในการสนับสนุนวงการภาพยนตร์
เทศกาล ‘กรุงเทพกลางแปลง’ ยังจัดต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2565 โดยมีจำนวนหนังที่จะฉายตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ รวม 26 เรื่อง โดยกำหนดการฉายทุกวัน พฤหัส ศุกร์ เสาร์ เวลา 19.00 น. นอกจากนั้นทางหอภาพยนตร์ พร้อมกับ CCCL Film Festival และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จะมีการนำหนังสั้นมาร่วมโปรแกรมฉายด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมน่าสนใจจากกลุ่มศิลปินหลายแขนงมาร่วมแสดงก่อนฉายหนัง อาทิ กลุ่มนักดนตรีและดนตรีในสวน ศิลปินจากค่ายเพลงต่างๆ กิจกรรมเต้นสวิง พร้อมด้วย Urban Street Show และผู้เข้าร่วมอีกมากมาย
Tags: กรุงเทพกลางแปลง, Report, กรุงเทพมหานคร, หนังกลางแปลง